ฮาคูโฮโด เผยคนไทยพร้อมเปย์ ดับร้อน สร้างสุข ช่วงสงกรานต์

เทศกาลสงกรานต์และวันหยุดยาว สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) ร่วมกับ บริษัทในเครือฮาคูโฮโด เผยผลสำรวจเกี่ยวกับการพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในประเทศไทยประจำเดือนเมษายน 2564 ว่าช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคไทย เพื่อความสะดวกสบาย และการท่องเที่ยวในประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มวัย 30 ปีขึ้นไป และภาคตะวันออกมีแนวโน้มใช้จ่ายเพิ่มขึ้นสูงสุด 

ชุติมา วิริยะมหากุล ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า แม้สถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะยังอยู่ในชีวิตคนไทยต่อไป แต่พลังของเทศกาลวันหยุดยาวหน้าร้อนทำให้คนไทยเริ่มปลดล็อคการใช้จ่ายในหลายด้านมากขึ้น ทั้งการเตรียมตัวออกไปท่องเที่ยว การสังสรรค์นอกบ้าน และการกลับมาพบกันของครอบครัวและคนใกล้ชิด ทำให้ระดับความสุขของผู้บริโภคไทยกลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง ทั้งนี้ ทางสถาบันวิจัยฯ  ได้ศึกษาเกี่ยวกับแนวโน้มการบริโภคของคนไทยทุกๆ 2 เดือน โดยครั้งล่าสุดเป็นการสำรวจทางออนไลน์ระหว่างวันที่ 17-26 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้ร่วมตอบแบบสอบถามประกอบด้วยเพศชายและหญิงจำนวน 1,200 คน อายุ 20-59 ปี จาก 6 ภูมิภาคทั่วประเทศ พบข้อบ่งชี้เกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในประเทศไทยที่สำคัญ 2 ข้อ ได้แก่

1. ผู้บริโภคกล้าใช้จ่ายมากขึ้นแม้โควิดจะยังอยู่ คนไทยเริ่มผ่อนคลายกับการใช้จ่ายมากขึ้น เห็นได้จากความต้องการใช้จ่ายไปกับการทานอาหารนอกบ้านหรือการซื้อเสื้อผ้าใหม่ การอยู่บ้านมากขึ้นยังทำให้เกิดวิถีใหม่ “สร้างสุขได้เองที่บ้าน” เห็นได้จากความต้องการซื้อสินค้าเครื่องใช้เพื่อความสะดวกสบายในบ้านมากขึ้น ในขณะที่การซื้อของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวันเริ่มน้อยลงเมื่อเทียบกับการสำรวจครั้งก่อน สินค้าและบริการที่ผู้บริโภคอยากซื้อมากที่สุดในเดือนเมษายน 5 อันดับแรก คือ อาหาร ของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวัน โทรศัพท์มือถือและสมาร์ทโฟน เครื่องใช้ภายในบ้าน และเสื้อผ้า อีกทั้งมีความต้องการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวภายในประเทศเพิ่มขึ้นด้วย

2. อานิสงส์จากเทศกาลสงกรานต์และวันหยุดยาว เทศกาลแห่งความสุขและวันหยุดยาวช่วงหน้าร้อนนี้เป็นตัวขับเคลื่อนการใช้จ่ายเพื่อเตรียมตัวสำหรับการพักผ่อน การรวมญาติ ทั้งยังมีเทศกาลลดราคาต่างๆ มาจูงใจ สัญญาณความสุขนี้ส่งผลต่อระดับความคาดหวังถึงความสุขในอนาคตที่เพิ่มขึ้นด้วย โดยระดับความสุขในปัจจุบันอยู่ที่ 65 คะแนน จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน เพิ่มขึ้นจาก 64 คะแนนในการสำรวจครั้งก่อน ส่วนการคาดการณ์ระดับความสุขใน 3 เดือนข้างหน้า ผู้บริโภคคาดว่าจะมีความสุขเท่ากับตอนนี้ 51% เพิ่มขึ้น  2% จากการสำรวจครั้งก่อน คาดว่าจะมีความสุขมากขึ้น  43% เพิ่มขึ้น  2% และคาดว่าจะมีความสุขน้อยลง 6% ลดลง 4% 

จากซ้ายไปขวา:วรีมน เบญจพงศ์ ผอ.ฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ / ชุติมา วิริยะมหากุล ผอ.ฝ่ายธุรกิจ / ดวงแก้ว ไชยสุริวิรัตน์ รองผอ.ฝ่ายวางแผนกลยุทธ์

วรีมน เบญจพงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ และ ดวงแก้ว ไชยสุริวิรัตน์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับแนวโน้มความต้องการใช้จ่ายในเดือนเมษายน 2564 อยู่ที่ 56 คะแนน จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน เพิ่มขึ้นจาก 54 คะแนนในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 โดยผู้บริโภคมีความต้องการใช้จ่ายไปกับการซื้อเสื้อผ้า ทานอาหารนอกบ้าน เครื่องใช้ภายในบ้าน รองเท้า-กระเป๋า โทรศัพท์มือถือและสมาร์ทโฟน เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

เมื่อจำแนกตามภาค พบแนวโน้มความต้องการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในภาคตะวันออก ภาคกลาง      และภาคเหนือ ภาคตะวันออกมีความต้องการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมากที่สุดโดยเฉพาะจังหวัดชลบุรีและระยอง จากสินค้ากลุ่มอาหาร ของใช้ในชีวิตประจำวัน และเสื้อผ้า ซึ่งอาจเป็นผลจากการซื้อทดแทนของที่หมดไปในช่วงล็อคดาวน์ และสำหรับการประกอบอาชีพเพื่อรองรับฤดูกาลท่องเที่ยวที่จะมาถึงอีกครั้ง   ส่วนกรุงเทพและปริมณฑล ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ มีแนวโน้มความต้องการใช้จ่ายลดลง

เมื่อแบ่งตามช่วงอายุ พบว่าแนวโน้มความต้องการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในกลุ่มอายุ 30 ปีขึ้นไปซึ่งเป็นผู้หารายได้หลักของครอบครัว โดยอาจเป็นการจับจ่ายเพื่อเตรียมตัวสำหรับเทศกาลและวันหยุดยาว เช่น ซื้อของขวัญให้ครอบครัวและคนพิเศษ หรือซื้อของตามที่วางแผนไว้แล้วเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้น

สำหรับข่าวที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในช่วงที่ผ่านมา แม้เรื่องโควิดจะยังคงเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงมากที่สุด แต่ความสนใจลดฮวบเหลือ  24% จาก  81% ในการสำรวจครั้งก่อน โดยผู้บริโภคเบนความสนใจไปสู่มาตรการช่วยเหลือจากรัฐบาลมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโครงการเราชนะ เรารักกัน หรือวัคซีนโควิด อีกทั้งต้องการเห็นความชัดเจนเรื่องความเป็นธรรมในสังคมและความโปร่งใสของภาครัฐ จากการติดตามข่าวการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ม็อบเมียนมาร์ ลุงพลกับคดีน้องชมพู่ หรือข่าวเมียหลวงบุกงานแต่ง สะท้อนให้เห็นว่า คนไทยอยากเห็นความถูกต้องและโปร่งใส ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้สื่อน้องใหม่อย่างแอปพลิเคชัน Clubhouse กลายเป็นสื่อยอดนิยมในช่วงนี้ เพราะเป็นพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระเสรีและตรงไปตรงมา นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังสนใจข่าวเกี่ยวกับการหาช่องทางสร้างรายได้จากการลงทุน เช่น บิตคอยน์ หุ้นโออาร์ และทองคำ