THANA รับมือความท้าทายธุรกิจ ลุยเปิด 4 โครงการ 2,500 ล้านบาท ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์

THANA รับมือความเสี่ยงธุรกิจปี 2567 ยังคงตั้งเป้าเติบโต-แตกไลน์-น่าอยู่-ยั่งยืน ตอกย้ำกลยุทธ์ THANA GREEN ในทุกกระบวนการอย่างเข้มข้น พร้อมมุ่งสู่เป้าหมาย Lifetime Total Living Solution ตอบโจทย์ทุกการอยู่อาศัย เตรียมผุด 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 2,500 ล้านบาท ครอบคลุมลูกค้าทุกเซ็กเมนต์ ตั้งเป้ายอดขาย 1,800 ล้านบาท เคาะปันผลปี 2566 ในอัตราหุ้นละ 0.028 บาท กำหนดจ่าย 9 พฤษภาคม นี้

นายสุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ธนาสิริ กรุ๊ป เปิดเผยว่า แม้ปี 2567 เป็นอีกปีที่ทำธุรกิจอยู่บนความท้าทายจากปัจจัยเสี่ยงหลายด้านต่อเนื่องจากปีก่อนที่ส่งผลกระทบโดยตรง ทั้งผู้บริโภคที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัย และบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่บริษัทพร้อมรับมือสภาวการณ์ต่างๆ ด้วยความระมัดระวังทุกด้าน และมองว่าบนความท้าทายนี้ยังมีโอกาสทางธุรกิจที่ได้ปรับกลยุทธ์ใหม่เพื่อเดินหน้าธุรกิจในยุคนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างการเติบโตเชิงตัวเลขแบบต่อเนื่องราว 20-30% ต่อปี

ทิศทางการขับเคลื่อนธุรกิจและองค์กร

 ธนาสิริ กรุ๊ป พร้อมปรับตัวให้เข้ากับบริบทที่เปลี่ยนไปตามทิศทางขององค์กร คือ เติบโต-แตกไลน์-น่าอยู่-ยั่งยืน ภายใต้กลยุทธ์ “THANA GREEN หรือ Total Green Real Estate Development – Service” มุ่งสู่ Sustainable Development : ESG ที่สร้างสมดุลในทุกๆ ด้าน 

“การก้าวไปข้างหน้าของบริษัท ไม่ใช่เพียงแค่ว่าสร้างบ้าน ขายได้แล้วจบ แต่มุ่งเป้าเป็น Lifetime Total Living Solution ตอบทุกโจทย์การอยู่อาศัยของคนทุกวัย พร้อมมอบบริการครอบคลุม One Stop Service ตามคำมั่นสัญญา “ธนาสิริ..เราดูแล” ร่วมกับ Newton EM คลินิกเวชกรรม และกายภาพบำบัด พาร์ทเนอร์ด้านสุขภาพ ที่จะมาคอยดูแลสุขภาพร่างกายของท่านเจ้าของบ้าน และกลุ่มลูกค้าทุกวัยในทุกเซ็กเมนต์ ด้วยการเปิดธุรกิจด้านสุขภาพ Homey Wellness by Newton EM บริการออกแบบการรักษาเฉพาะรายบุคคล ถือเป็นการแตกไลน์สู่ธุรกิจบริการครบวงจรที่คาดว่าสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้น และเติบโตอย่างยั่งยืน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าว  

เป้าหมาย และแผนเปิดตัวโครงการใหม่ปี 2567

ปี 2567 บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 1,800 ล้านบาท ขณะที่รับรู้รายได้ตั้งเป้าที่ 1,400 ล้านบาท โดยเป้าหมายยอดขาย และรายได้จากการพัฒนาโครงการเพื่อขายดังกล่าวมาจาก ดังนี้ 

  • จากโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนาและขาย (โครงการต่อเนื่อง) ในปัจจุบันจำนวน 9 โครงการมูลค่า 4,000 ล้านบาท 
  • จาก Backlog ที่มีอยู่ 287 ล้านบาท ซึ่งกว่า 50 % จะส่งมอบให้ลูกค้าใน Q1/ 2567 
  • เปิดโครงการใหม่ 4 โครงการ มูลค่ารวม 2,500 ล้านบาท เป็นโครงการที่พัฒนาโดยธนาสิริ กรุ๊ป จำนวน 2 โครงการ มูลค่า 400 ล้านบาท และโครงการร่วมทุนกับอนาบูกิ โคซัน โดย 4 ปีที่ผ่านมาร่วมทุนมาแล้ว 3 โครงการ มูลค่ารวม 2,600 ล้านบาท ปัจจุบันมีแผนพัฒนาต่อเนื่อง จำนวน 2 โครงการ มูลค่า 2,100 ล้านบาท ทำให้เชื่อมั่นว่าต่อไปบริษัทจะมีย่างก้าวที่เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

 ทั้งนี้ โครงการที่เปิดใหม่นอกจากอยู่ในทำเลหลักแถวนนทบุรีแล้ว ยังขยายตัวสู่ทำเลอื่นที่มีศักยภาพ อย่างโซนบางนา และสุขาภิบาล ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง ตั้งแต่กลุ่มที่เพิ่งเริ่มสร้างครอบครัว ถึงกลุ่มที่มีความมั่นคงทางรายได้

 นายสุทธิรักษ์กล่าวเสริมถึงผลการดำเนินงาน THANA Green ในปี 2566 ที่ผ่านมาว่ามีการผลักดันทั้งภายในองค์กร และภายนอกองค์กรให้สามารถวัดผลได้ในทุกมิติ มุ่งเน้นการทำงานให้สอดคล้องกับ E-S-G ภายใต้กรอบแนวคิด Total Green Real Estate Development – Services ในทุกกระบวนการอย่างเข้มข้น เน้นตอบโจทย์ความคุ้มค่า ควบคู่กับการสร้างคุณภาพที่ดีเพื่อการอยู่อาศัย และการใช้ชีวิต ในสังคมแห่งการแบ่งปัน ตลอดจนการดูแลสิ่งแวดล้อม อันเป็นแนวคิดหลักของการทำธุรกิจที่ไม่ได้ทำตามกระแส หรือตามเทรนด์

ขณะเดียวกัน ได้กล่าวสรุปตอนท้ายว่า ปี 2566 บริษัทสามารถทำยอดขายได้ 1,623 ล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้น 201 ล้านบาท คิดเป็น 14.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่รายได้เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ 1,048 ล้านบาท โดอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 32.3% ยังคงสามารถรักษาอัตราได้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยมีการกำหนดราคาขาย ด้วยกลยุทธ์ Phasing พิจารณาควบ คู่ไปกับต้นทุนในเฟสนั้นๆ อีกทั้งยังควบคุมต้นทุนและปรับเปลี่ยนแบบบ้านเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และส่งเสริมการขาย โดยไม่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนก่อสร้าง

ทั้งนี้ จากการประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/ 2567 เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา บริษัทเห็นชอบให้เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 พิจารณาอนุมัติการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2566 อัตราหุ้นละ 0.068 บาท โดยจ่ายเงิน ปันผลระหว่างกาลแล้ว 0.040 บาท/หุ้น คงเหลือจ่ายเงินปันผลในงวดนี้ 0.028 บาท/หุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้น โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 23 เมษายน 2567 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 9 พฤษภาคม 25672024-03-04