กรุงไทยสร้างปรากฏการณ์ใหม่ ขายพันธบัตร 200 ล้านบาท หมดใน 99 วินาที ด้วยดิจิทัลแพลตฟอร์ม

         

ธนาคารกรุงไทยปลื้ม ประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย ในการขายพันธบัตรผ่านวอลเล็ต สบม. บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่การซื้อขายพันธบัตรผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์มเป็นครั้งแรกของประเทศไทย เผยเป็นการนำพลานุภาพของระบบดิจิทัลมาสร้างความเป็นธรรมให้กับสังคม ช่วยให้ประชาชนทุกภาคส่วน สามารถเข้าถึงการลงทุนได้อย่างเท่าเทียมและทั่วถึง เตรียมใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์ม เป็นช่องทางในการซื้อขายพันธบัตรในอนาคต

ผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยถึงรายละเอียดการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์รุ่นวอลเล็ต สบม. ของกระทรวงการคลัง วงเงินรวม 200 ล้านบาท ผ่าน วอลเล็ต สบม. (วอลเล็ตสะสมบอนด์มั่งคั่ง)  บนแอปพลิเคชันเป๋าตังว่า ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากประชาชน สามารถจำหน่ายได้หมดภายใน 99 วินาที  เฉลี่ยวินาทีละ 2.02 ล้านบาท ยอดลงทุนเฉลี่ย 145,560 บาทต่อคน จำนวนผู้ซื้อทั้งสิ้น 1,374 คน จาก 76 จังหวัดทั่วประเทศ แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 45% ต่างจังหวัด 55% เป็นเพศหญิงในสัดส่วน 67% เป็นเพศชาย 33% โดยผู้ซื้อที่อายุน้อยที่สุด 15 ปี อายุมากที่สุด 83 ปี ยอดซื้อน้อยที่สุด 100 บาท มากที่สุด 5 แสนบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ดิจิทัลแพลตฟอร์มเป็นช่องทางที่สอดคล้องกับ New Normal และช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ๆให้กับประชาชน โดยธนาคารจะใช้ช่องทางดังกล่าว สนับสนุนการซื้อขายพันธบัตรรุ่นอื่นๆ ตลอดจนรองรับการซื้อขายพันธบัตรในตลาดรอง 

“การจำหน่ายพันธบัตรผ่านวอลเล็ต สบม. บนแอปพลิเคชั่นเป๋าตังในครั้งนี้ เป็นการสนับสนุนระบบการเงินในโลกแห่งอนาคต ซึ่งเป็นการนำพลานุภาพของระบบดิจิทัล มาสร้างความเป็นธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ ด้วยระบบการจองก่อนได้ก่อน ลดขั้นตอนต่างๆ เพิ่มประสิทธิภาพ ในการบริหารจัดการการออกพันธบัตร ช่วยให้ประชาชนทุกกลุ่ม ทุกภูมิภาค สามารถจองซื้อได้อย่างเท่าเทียมและทั่วถึง ที่สำคัญทำให้ประชาชนรายย่อยเข้าถึงการลงทุนในพันธบัตรด้วยเงินเริ่มต้นเพียง 100 บาท อีกทั้งยังสนับสนุนให้เยาวชนที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป มีโอกาสออมเงินเพื่อลงทุน ด้วยขั้นตอนการซื้อขายที่ง่ายดาย สะดวกสบาย และสามารถทำได้ด้วยตนเอง”

ทางด้าน  ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  ได้ร่วมชื่นชมความสำเร็จในครั้งนี้  โดยกล่าวถึงโครงการ 1 บาทบอนด์ที่สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ร่วมกับธนาคารกรุงไทยจัดทำขึ้นว่า เป็นนวัตกรรมด้านโครงสร้างพื้นฐานของตลาดทุนที่ทำให้ประชาชนทั่วไป สามารถเข้าถึงการออมเงินได้สะดวก และจะสามารถต่อยอดไปในการออมในตราสารอื่นๆ ได้ในอนาคต

ส่วน เดช ฐิติวณิช ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายระบบข้อสนเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้แสดงความยินดีกับความสำเร็จของกระทรวงการคลัง สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ และธนาคารกรุงไทย ในโอกาสเปิดตัววอลเล็ตสะสมบอนด์มั่งคั่ง ซึ่งเป็นครั้งแรกในประเทศที่ได้นำเทคโนโลยี Blockchain ที่ออกแบบประยุกต์ใหม่ มาใช้ในการขายพันธบัตรออมทรัพย์แบบไร้ใบตราสาร (Scripless) ซึ่งแพลตฟอร์มใหม่นี้จะช่วยนักลงทุน ซื้อพันธบัตรอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และตรวจสอบได้ รวมทั้งสามารถรองรับธุรกรรมที่มีความหลากหลายในอนาคต

การซื้อขายพันธบัตรออมทรัพย์รุ่นวอลเล็ต สบม. ซึ่งจำหน่ายในวันที่ 24 มิถุนายน 2563 ตั้งแต่เวลา 8.30 น. เป็นต้นไป ผ่านวอลเล็ต สบม. บนแอปพลิเคชันเป๋าตังมุ่งสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับนักลงทุน โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนหน้าใหม่ ที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป ช่วยสร้างนิสัยการออมให้กับเยาวชน ด้วยผลิตภัณฑ์ที่อยู่บนแพลตฟอร์มที่ทันสมัย เหมาะกับไลฟ์สไตล์ และจะเป็นช่องทางหลักในการซื้อขายพันธบัตรในอนาคตถือเป็นครั้งแรกที่สามารถลงทุนในพันธบัตรออมทรัพย์เพียง 100 บาท และเพิ่มขึ้นครั้งละ 100 บาท แต่ไม่เกิน 5 แสนบาท

ทั้งนี้ ธนาคารการุงไทยได้ออกแบบแอปพลิเคชันเป๋าตัง เป็นระบบการเงินแบบเปิด สามารถรองรับวอลเล็ตได้หลายตัวพร้อมๆกัน และนำเทคโนโลยี Blockchain มาประยุกต์ออกแบบใหม่ เพื่อรองรับการเงินในโลกแห่งอนาคต สำหรับวอลเล็ต สบม.นี้ ได้ออกแบบการซื้อขายพันธบัตรเป็นแบบรวมศูนย์ สามารถซื้อขายแบบทันที ซึ่งผู้ขายมีข้อมูลผลลัพธ์การขายเป็นรายนาที ผู้ซื้อเห็นข้อมูลของเงินและพันธบัตรในวอลเล็ตเดียวกัน และข้อมูลการถือครองจะแสดงให้เห็นในวอลเล็ตทันที ไม่ต้องรอ 15 วันเหมือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังดูข้อมูลการซื้อ ตรวจสอบประวัติการซื้อ และดาวน์โหลดเอกสารต่างๆ และธนาคารอยู่ระหว่างพัฒนาวอลเล็ต สบม. ให้สามารถซื้อขายพันธบัตรในตลาดรอง เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับพันธบัตรรัฐบาล รวมทั้งส่งเสริมตลาดเงินตลาดทุนของประเทศ

พันธบัตรออมทรัพย์รุ่นวอลเล็ต สบม. จ่ายอัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 1.70 ต่อปี เข้าวอลเล็ตทันที ปีละ 2 ครั้ง ในวันที่ 24 ธันวาคม และ 24 มิถุนายน และเมื่อพันธบัตรครบกำหนดอายุ 3 ปี จะได้รับเงินต้นคืนเข้าวอลเล็ตเช่นกัน ข้อมูลเพิ่มเติม ติดตามผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย Krungthai Care