ผลสำรวจจาก JobsDB เผยว่า ผู้สมัครสายเทคโนโลยีในเอเชียยังคงมั่นใจในโอกาสหางานใหม่ แม้ตลาด Tech มีสัญญาณการชะลอตัว

  • 71% ของผู้สมัครสาย Tech ในเอเชียเชื่อว่าพวกเขามีอำนาจการต่อรองสูง อ้างอิงตามผลสำรวจจาก JobStreet (จ๊อบสตรีท)และ JobsDB (จ๊อบส์ดีบีภายใต้กลุ่มบริษัท SEEK (ซีค) ที่ได้จัดทำร่วมกับ Boston Consulting Group (บริษัท เดอะ บอสตัน คอนซัลติ้ง กรุ๊ป จำกัด) และ The Network (เดอะ เน็ตเวิร์ค)  

     
  • ประกาศงานด้านเทคโนโลยีในภูมิภาคลดลง 8% ในไตรมาสที่ 1 ปี 2566 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ยังคงสูงกว่าช่วงก่อนการเกิดการระบาดถึง 42% ตามข้อมูลของ SEEK 

กรุงเทพฯ (17 พฤษภาคม 2566) – SEEK (ซีค) บริษัทแม่ของแพลตฟอร์มหางานออนไลน์ชั้นนำของเอเชียอย่าง JobStreet (จ๊อบสตรีท) และ JobsDB (จ๊อบส์ดีบี) เปิดเผยข้อมูลจากรายงานผลสำรวจใหม่ล่าสุดในหัวข้อ “สิ่งที่ผู้สมัครสาย Tech อยากให้ผู้ประกอบการรู้: อนาคตแห่งการจ้างงานและการสรรหาที่เปลี่ยนแปลงไป  (What Tech Jobseekers Wish Employers Knew: Unlocking the Future of Recruitment)” พบว่าผู้สมัครสายเทคโนโลยีในเอเชียยังคงมั่นใจในโอกาสหางานของพวกเขา โดยวัดจากที่ผู้สมัครได้รับ ข้อเสนองานหลายครั้งต่อปีและรู้ว่าตัวเองมีอำนาจการต่อรองที่แข็งแกร่ง แม้ว่าตลาดแรงงานด้านเทคโนโลยีในภูมิภาคเริ่มมีสัญญาณของการชะลอตัว สะท้อนจากจำนวนโฆษณาประกาศรับสมัครตำแหน่งงานด้านเทคโนโลยีลดลง 8% ในไตรมาสที่ 1 ปี 2566[1]

ผลสำรวจดังกล่าวนี้ จัดทำโดย Boston Consulting Group (BCG) (บริษัท เดอะ บอสตัน คอนซัลติ้ง กรุ๊ป จำกัด) และ The Network (เดอะ เน็ตเวิร์ค) พันธมิตรระดับโลกของเว็บไซต์หางานที่่ JobStreet (จ๊อบสตรีท) และ JobsDB (จ๊อบส์ดีบี) ภายใต้กลุ่มบริษัท SEEK (ซีค) ได้จัดทำร่วมกัน พบว่า 71% ของกลุ่ม ผู้สมัครสายเทคโนโลยีในภูมิภาคมีความรู้สึกว่าพวกเขามีอำนาจในการต่อรองสูง โดยเกือบครึ่งของผู้ตอบแบบสอบถาม (46%) ได้รับการติดต่อเรื่องตำแหน่งงานว่างใหม่ ๆ ในทุกสัปดาห์หรือทุกเดือน ทำให้พวกเขาเป็นกลุ่มแรงงานทักษะที่เป็นที่ต้องการอย่างมาก 
Peter Bithos (ปีเตอร์ บิโธส) ประธานกรรมการบริหาร SEEK Asia กล่าวว่า “เมื่อปี 2565 ที่ผ่านมาอัตราการจ้างงานกลุ่มผู้สมัครสายเทคโนโลยีได้ทะยานขึ้นไปสู่จุดสูงสุดอย่างรวดเร็ว จึงไม่น่าแปลกใจที่
ปีนี้เราจะเห็นความต้องการผู้มีความสามารถด้านเทคโนโลยีลดลงหากเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ทั้งนี้ การประกาศรับสมัครตำแหน่งงานสายเทคโนโลยีบนแพลตฟอร์มของเรายังคงสูงกว่า
ระดับก่อนการเกิดการระบาดของโควิดถึง 42%[2] ซึ่งเป็นตัวชี้วัดว่าความต้องการผู้สมัครสาย Tech ยังคงสูงอยู่ แม้ว่าการจ้างงานด้านเทคโนโลยีจะมีการชะลอตัวลงก็ตาม” 

“บริษัทเทคโนโลยีแบบดั้งเดิมหลายแห่งกำลังปรับลดขนาดลงหลังจากมีการจ้างงานมากเกินไปในช่วงที่มีการระบาดของโควิดและยังคงลดอัตราการจ้างงานลง เนื่องจากหลายธุรกิจต้องเผชิญกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและ ภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ความต้องการคนเก่งด้านเทคโนโลยีจะยังคงอยู่ต่อไป 

ทั้งนี้ สภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) คาดการณ์ว่า ภายในอีก 5 ปี ข้างหน้า งานสายเทคโนโลยี จะเพิ่มขึ้น 150 ล้านตำแหน่ง และภายในปี 2573 งาน 77% จะต้องใช้ทักษะด้านดิจิทัล 

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันภาคธุรกิจยังประสบปัญหาการขาดแคลนบุคลากรที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยี เห็นได้ว่ามีเพียงแค่หนึ่งในสาม (33%) ของงานด้านเทคโนโลยีทั่วโลก ที่พนักงานมีทักษะด้านดิจิทัลที่จำเป็น ข้อมูลจากแพลตฟอร์มของ SEEK แสดงให้เห็นว่าจำนวนใบสมัครงานโดยเฉลี่ยต่อการประกาศรับสมัครงาน ด้านเทคโนโลยีในเอเชียได้เพิ่มขึ้นกว่า 40% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว[3] ซึ่งชี้ให้เห็นว่าผู้สมัครสายเทคโนโลยีที่ได้รับผลกระทบจากการเลิกจ้างงานกำลังมองหางานใหม่อยู่ หรือพวกเขาคาดหวังว่าจะมีโอกาสหางานอื่นที่ดีกว่า 

ดังนั้น การเข้าใจความต้องการของกลุ่มผู้สมัครสายเทคโนโลยี จึงเป็นกุญแจสำคัญสำหรับบริษัทที่ต้องการดึงดูดคนเก่งหน้าใหม่หรือรักษาพนักงานที่มีอยู่ จากผลสำรวจ “สิ่งที่ผู้สมัครสาย Tech อยากให้ผู้ประกอบการรู้: อนาคตแห่งการจ้างงานและการสรรหาที่เปลี่ยนแปลงไป” พบว่าแรงจูงใจสามอันดับแรกที่ทำให้ผู้ที่มีความสามารถด้านเทคโนโลยีต้องการเปลี่ยนงาน คือการมองหางานใหม่ที่ตำแหน่งน่าสนใจกว่าหรือตำแหน่งงานที่สูงขึ้นกว่าเดิม (55%), งานที่ทำอยู่ปัจจุบันมีโอกาสในการเติบโตน้อย (31%) และไม่พอใจกับเงินเดือนและสวัสดิการในตำแหน่งงานปัจจุบัน (26%) 

ผู้สมัครที่มีทักษะด้านเทคโนโลยียังมีความต้องการงานที่มั่นคงและมีความสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว โดย 68% ของผู้ตอบแบบสอบถามมองว่าสิ่งนี้เป็นเส้นทางอาชีพในอุดมคติ เพราะพวกเขาสามารถใช้เวลากับครอบครัว เพื่อน และงานอดิเรกได้ ยิ่งไปกว่านั้น มีเพียง 18% เท่านั้นที่เต็มใจที่จะกลับไปทำงานเต็มเวลาที่ออฟฟิศ ในขณะที่ 64% ชอบการทำงานรูปแบบไฮบริด 

ดวงพร พรหมอ่อน กรรมการผู้จัดการ JobsDB Thailand (จ๊อบส์ ดีบี ประเทศ ไทย)  กล่าวว่า “สำหรับประเทศไทย ผู้ประกอบการไทยสามารถดึงดูดผู้สมัครกลุ่ม Tech Talent ที่มีความสามารถด้วยการ ทำความเข้าใจถึงความต้องการและปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อผู้สมัคร ไม่ว่าจะเป็นค่าตอบแทน โบนัส และสวัสดิการ รวมถึงการพัฒนาวัฒนธรรมองค์กรให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ เช่นการให้ความสำคัญ กับ work-life balance การทำงานที่มีความยืดหยุ่น ตลอดจนคำนึงถึงประสบการณ์ที่ผู้สมัครจะได้รับโดยเริ่มตั้งแต่ในช่วงของกระบวนการสรรหา ด้วยเหตุนี้ JobsDB ในฐานะ “พันธมิตรด้านการหางานที่ดีที่สุด”  จึงมุ่งมั่นที่จะให้การสนับสนุนผู้ประกอบการที่กำลังมองหา Tech Talent และผู้สมัครงานที่มีความสามารถด้านเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ให้ได้รับข้อเสนอที่ดีที่สุด โดยเราได้ทำการสำรวจและศึกษาข้อมูลเชิงลึก ที่ทำให้ผู้ประกอบการสามารถเชื่อมโยงกับตลาดแรงงานในปัจจุบันได้อย่างใกล้ชิด ตลอดจนสามารถนำข้อมูลเชิงลึกต่าง ๆ เหล่านี้ไปใช้ได้จริง”

คำแนะนำสำหรับผู้ประกอบการ 

65% ของผู้สมัครสายเทคโนโลยีที่ตอบแบบสอบถามเห็นว่า ขั้นตอนการสรรหาที่ราบรื่นและทันท่วงทีเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้ผู้ประกอบการหรือนายจ้างนั้น ๆ โดดเด่นในระหว่างการสรรหาบุคลากร และ

เกือบครึ่ง (47%)  จะปฏิเสธข้อเสนอ ถ้าหากพวกเขาต้องเผชิญกับประสบการณ์เชิงลบ ถึงแม้จะเป็นข้อเสนอที่น่าสนใจก็ตาม  รายงานนี้จะให้ข้อมูลรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับการดำเนินการที่ผู้ประกอบการควรพิจารณาในระหว่างการสรรหาผู้สมัครสายเทคโนโลยี เช่น เมื่อลงประกาศรับสมัครงาน, ผู้ประกอบการควรระบุ, ช่วงเงินเดือน, คำบรรยายลักษณะงานที่ละเอียดและชัดเจน ตลอดจนทางเลือกของรูปแบบการทำงานที่มีความยืดหยุ่น 

ในระหว่างขั้นตอนการสมัครและการคัดเลือก ผู้ประกอบการควรเสนอรูปแบบการสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัวกับหัวหน้าที่อาจจะได้ร่วมงานในอนาคตและผู้สรรหาพนักงานใหม่ เพราะเป็นสิ่งที่ผู้สมัครสายเทคโนโลยีให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก รวมถึงการพูดคุยอย่างตรงไปตรงมาและเปิดเผยกับหัวหน้างานในอนาคต ขณะยื่นข้อเสนอให้กับผู้สมัคร ผู้ประกอบการควรเปิดกว้างสำหรับการเจรจาเพิ่มเติมเกี่ยวกับโบนัสหรือสวัสดิการต่าง ๆ รวมทั้งกลุ่มผู้สมัครสายเทคโนโลยีจะรู้สึกประทับใจ หากผู้ประกอบการได้ให้เวลาพวกเขามากพอในการพิจารณารับข้อเสนอ 

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายงาน สามารถดาวน์โหลดได้ ที่นี่

เกี่ยวกับ SEEK ASIA (ซีค เอเชีย)  

SEEK (ซีค) กลุ่มบริษัทระดับโลกที่มีธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วยกลุ่มธุรกิจแพลตฟอร์มการสรรหาบุคลากรธุรกิจด้านการศึกษา การค้า และอาสาสมัคร SEEK มีส่วนสนับสนุนในเชิงบวกต่อชีวิตของผู้คนในระดับโลก   

SEEK เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลีย และอยู่ในบริษัทชั้นนำ 100 อันดับแรกในออสเตรเลีย ในเอเชีย SEEK บริหาร JobStreet(จ๊อบสตรีทและ JobsDB (จ๊อบส์ดีบี) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการจ้างงาน    

[1] การเปรียบเทียบปริมาณโฆษณางานสำหรับตำแหน่งงานด้านเทคโนโลยีของเอเชียแบบปีต่อปี ในช่วงไตรมาส ปี 2565 กับ ไตรมาสหนึ่ง ปี 2566 

[2] การเปรียบเทียบปริมาณโฆษณางานสำหรับตำแหน่งงานด้านเทคโนโลยีของเอเชีย ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2562 (ก่อนโรคระบาด) กับ ไตรมาส 1 ปี 2566 (ปัจจุบัน) 

[3] การเปรียบเทียบจำนวนผู้สมัครงานโดยเฉลี่ยต่อโฆษณางานสำหรับตำแหน่งงานด้านเทคโนโลยีในเอเชีย แบบปีต่อปี ในช่วงไตรมาสที่ ปี 2565 เทียบกับไตรมาสที่ ปี 2566