ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล เนื้อหอม SAWAD โดดควบรวม

ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล เติบโตน่าจับตา ให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันภายใต้กำกับ มียอดหนี้คงค้างกว่า 1,000 ล้านบาทภายใน 12 เดือน เนื้อหอม SAWAD โดดควักเงินลงทุนเพิ่มอีก 192.5 ล้านบาทเพื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ขยายฐานลูกค้าหลังควบรวมดันสภาพคล่องดี วางแผนขยายบริการสินเชื่อรายย่อยให้หลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคมากขึ้น ตั้งเป้าสินเชื่อเติบโตเพิ่มอีกกว่า 100 % พร้อมเล็งเข้าตลาดหลักทรัพย์ในอีก 2 ถึง 3 ปีข้างหน้า

ดวงใจ แก้วบุตตา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD เปิดเผยว่า การเข้าควบรวมกิจการกับบริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล  จำกัด หรือ เอสแคป (SCAP) โดยเพิ่มการลงทุนอีก 192.5 ล้านบาท จะทำให้หลังจากที่ควบรวมกิจการแล้วเอสแคป (SCAP) จะมีทุนจดทะเบียนเพิ่มขึ้นเป็น 300 ล้านบาท ซึ่งทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของ SAWAD เพิ่มเป็น 65% จากเดิม 5% และ SAWAD จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่

การควบรวมครั้งนี้เนื่องจาก SAWAD มองเห็นถึงศักยภาพการบริหารธุรกิจของเอสแคป (SCAP) ว่าจะสามารถเติบโตพร้อมทำกำไรได้ดี โดยตั้งแต่เอสแคป (SCAP) เริ่มเปิดให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 เป็นต้นมา เอสแคป (SCAP) มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันมียอดหนี้คงค้างกว่า 1,000  ล้านบาท  ในขณะที่มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เพียง 0.2 % การเติบโตอย่างรวดเร็วดังกล่าวเป็นผลมาจากกระบวนการคัดเลือกลูกค้าชั้นดี มีคุณภาพ มีระบบปฏิบัติการสินเชื่อที่มีประสิทธิภาพ สามารถอนุมัติสินเชื่อได้อย่างรัดกุมและรวดเร็วด้วยบุคลากรมืออาชีพที่ต่างมีความชำนาญในวงการการเงินการธนาคารกว่า 30 ปี

ด้วยการควบรวมดังกล่าวจะทำให้ฐานลูกค้าของกลุ่ม SAWAD ขยายเพิ่มขึ้นเนื่องจาก เอสแคป (SCAP) เน้นกลุ่มลูกค้าชั้นดีระดับกลางถึงระดับบนที่มีรายได้ตั้งแต่ 30,000 บาทขึ้นไป และเน้นผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน  ทั้งนี้เอสแคป (SCAP) จะเป็นบริษัทฯ ที่มีเสถียรภาพทางการเงินเพิ่มขึ้นและในอนาคตมีแผนที่จะเพิ่มผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อลูกค้ารายย่อยอื่นๆ ให้มีความหลากหลาย มีความหมาะสม และตรงตามความต้องการของลูกค้ารายย่อยเพิ่มขึ้น  โดยในปี 2564 เอสแคป (SCAP) ตั้งเป้ามียอดสินเชื่อเติบโตกว่า 100 %  โดยกำหนดเป้าหมายจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในอีก 2 ถึง 3 ปีข้างหน้า