การเคหะแห่งชาติ และ สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (Asian Institute of Technology : AIT) จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ “ความร่วมมือทางวิชาการด้านเทคโนโลยีอาคารและเคหะสถาน” โดยมี ทวีพงษ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ และ Dr. Eden Yi-Teng Woon อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียประเทศไทย ร่วมลงนามในบันทึกดังกล่าว
เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนที่อยู่อาศัยที่ได้มาตรฐาน ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เผยว่า การเคหะแห่งชาติเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจภายใต้สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มีภารกิจหลักในการพัฒนาที่อยู่อาศัย ควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับชุมชน และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) เป็นสถาบันการเรียนรู้ขั้นสูงระดับนานาชาติ ที่ตั้งขึ้นเพื่อรองรับความต้องการด้านการศึกษาขั้นสูงทางด้านวิศวกรรมวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการจัดการ รวมถึงการวิจัย ที่สำคัญต่างๆ โดยในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาทั่วโลกต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทั้งในระดับโลก ระดับภูมิภาคและระดับท้องถิ่น ทั้งการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ รวมถึงการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุซึ่งล้วนแล้วแต่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยในปัจจุบัน ดังนั้นการจัดหาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยจึงเป็นความท้าทายที่สำคัญอย่างยิ่งในปัจจุบัน ทั้งสองหน่วยงานจึงได้ตระหนักถึงความสำคัญของประเด็นดังกล่าวและได้เล็งเห็นว่าการร่วมมือทางวิชาการในเรื่องเทคโนโลยีอาคารและเคหะสถานจะช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยให้สามารถก้าวต่อไปได้อย่างมั่นคง รวมทั้งยังสอดคล้องกับ “แผนยุทธศาสตร์การเคหะแห่งชาติ พ.ศ. 2560 – 2565 (ฉบับปรับปรุงปี 2562)” ยุทธศาสตร์ที่ 1 การพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับประชาชน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี และเพิ่มโอกาสเข้าถึงความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยโดยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้รวมทั้งยังเป็นการตอบสนองแนวนโยบายและทิศทางการพัฒนาในระดับสากล ได้แก่ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ เป้าหมายที่ 11 ว่าด้วยเรื่องการทำให้เมืองและการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์มีความปลอดภัย ทั่วถึง พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงและยั่งยืนและวาระใหม่แห่งการพัฒนาเมือง (New Urban Agenda: NUA) ในการส่งเสริมสนับสนุนให้ทุกคนมีที่อยู่อาศัยถ้วนทั่วและมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
ดังนั้น ทั้งสองหน่วยงานจึงได้มีการจัดพิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจ“ความร่วมมือทางวิชาการด้านเทคโนโลยีอาคารและเคหะสถาน ระหว่าง การเคหะแห่งชาติ กับ
AIT ขึ้น เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ และต่อยอดนวัตกรรมด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้อยู่อาศัยได้อย่างมีประสิทธิภาพแลtมีคุณภาพสอดคล้องตามบริบทและกระแสโลก
พร้อมร่วมกันแลกเปลี่ยนความรู้ด้านเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ได้มาตรฐาน ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยอย่างเป็นรูปธรรมอันจะนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยทั้งสองหน่วยงานจะร่วมกันขับเคลื่อนในประเด็นที่เกี่ยวกับการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่เป็นประโยชน์แก่การบูรณาการในระดับนานาชาติ รวมถึงพันธกิจและงานความร่วมมือทางวิชาการของการเคหะแห่งชาติ
พร้อมสนับสนุนข้อมูลและองค์ความรู้อันเป็นประโยชน์ รวมทั้งให้คำปรึกษาและคำแนะนำถึงแนวทางในการดำเนินงานด้านเทคนิคและด้านที่เกี่ยวข้องกับภารกิจนี้โดยจะเน้นเรื่องที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีที่อยู่อาศัยที่ราคาเอื้อมถึงได้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย