บริษัท ซันเดย์ อินชัวร์เทค (InsurTech) ผู้ให้บริการเทคโนโลยีด้านการประกันภัยได้ขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมลูกค้ารายบุคคลและลูกค้าระดับองค์กรด้วยโปรแกรม Sunday Health For Business จากการสร้างนวัตกรรมและการบริการประกันภัยที่ช่วยให้ทำให้ผู้ประกอบการ บุคลากรฝ่ายบุคคล และพนักงานในองค์กรสามารถเข้าถึงบริการทางด้านสุขภาพที่มีความทันสมัยได้อย่างเต็มรูปแบบ โดยฐานลูกค้าของซันเดย์ในปัจจุบันนั้น มีตั้งแต่ SMEs ขนาดเล็ก รวมถึงลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมชั้นนำ เช่น อุตสาหกรรมการบิน, อสังหาริมทรัพย์, ธุรกิจขนส่ง ภาคการศึกษา และอุตสาหกรรมอื่นๆ โดยในปี 63 ที่ผ่านมา ซันเดย์ได้ขยายฐานลูกค้าออกไปมากถึง 1.5 ล้านราย และรายได้จากผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพและอุบัติเหตุกลุ่มยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 63 ที่ผ่านมามีการเติบโตเพิ่มขึ้นมากกว่า 100% เทียบกับปี 62
ซันเดย์ ได้ขยายขีดความสามารถของการให้บริการประกันสุขภาพแบบเต็มรูปแบบบนซูเปอร์แอปฯ Sunday Service โดยลูกค้าที่ซื้อประกันสุขภาพกลุ่มจากโปรแกรม Sunday Health For Business สามารถเลือกและปรับแต่งความคุ้มครองประกันสุขภาพของตนเองได้ เมื่อเจ็บป่วยสามารถเลือกใช้บริการพูดคุยกับบุคลากรทางการแพทย์ผ่านวิดีโอคอล (Telemedicine) เลือกรับบริการจัดส่งยาตามคำปรึกษาแพทย์ (Drug Delivery) หรือ ตามใบสั่งยาที่อัปโหลด หรือหากต้องการเดินทางไปโรงพยาบาล ก็สามารถใช้บริการแนะนำสถานพยาบาล (Recommended Hospital) ที่เหมาะสมกับโรคและค่ารักษาพยาบาลตามวงเงิน OPD ของแต่ละคนได้เช่นกัน นอกจากนั้นซันเดย์ยังนำเอา AI เข้ามาใช้เพื่อช่วยวิเคราะห์อาการป่วย (Symptom Checker) เบื้องต้นได้ทุกที่ทุกเวลาแบบไม่มีค่าบริการเพิ่มเติม ทั้งนี้ ซูเปอร์แอปฯ Sunday Service ยังมีฟังก์ชันพื้นฐานที่ช่วยให้ลูกค้าตรวจสอบความคุ้มครองและดูความคุ้มครองคงเหลือ, ยื่นเคลมออนไลน์, ตรวจสอบสถานะการเคลม และซื้อประกันเสริมให้ครอบครัวได้อีกด้วย
“เรามีความเชื่อว่า ผู้ให้บริการด้านสุขภาพควรมีหน้าที่ที่จะต้องทำให้ผู้บริโภคสามารถวางแผนการดูแลสุขภาพได้เอง และสามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ได้อย่างแท้จริง ดังนั้น ซันเดย์จึงมุ่งมั่นในการที่จะทำให้ประสบการณ์ในการใช้บริการมีความโปร่งใส ใช้งานได้จริงแบบครบวงจร และที่สำคัญ คือ ไม่มีค่าใช้จ่าย (Cashless) หากอยู่ในวงเงินความคุ้มครอง นอกจากนี้ ซันเดย์ ยังมุ่งมั่นในการที่จะทำให้ทุกบริการเกิดประสบการณ์แบบไร้รอยต่อ (Seamless) บนซูเปอร์แอปฯ ของเรา เพื่อให้สังคมไทยสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้อย่างสะดวกและง่ายดายยิ่งขึ้น” ซินดี้ กัว ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันเดย์ อินส์ จำกัด
บริษัทฯ ได้มุ่งเน้นพัฒนาฟีเจอร์ต่างๆ โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานสำคัญที่ว่า ลูกค้าทุกคนต้องได้รับข้อมูลที่เพียงพอสำหรับช่วยให้การตัดสินใจในการรับบริการสุขภาพ เพื่อให้เกิดประสิทธิ ภาพและได้รับความสะดวกสบายในลักษณะ “Seamless Experience” โดยที่ลูกค้าไม่ต้องกังวลเรื่องการชำระค่าใช้จ่ายล่วงหน้า (Cashless) ใดๆ
สำหรับบริการวิเคราะห์อาการป่วย (Sympton Checker) นั้น ซันเดย์ได้พัฒนาฟีเจอร์นี้โดยเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลที่เชื่อถือได้จากโรงพยาบาลชั้นนำหลากหลายแห่ง ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าที่มีอาการป่วยได้รับข้อมูลที่ถูกต้องหากมีความเสี่ยงเป็นโรคใดๆ พร้อมให้คำแนะนำในการดูแลรักษาอาการเบื้องต้นที่น่าเชื่อถือ หรือหากลูกค้าต้องการพูดคุยกับบุคลากรทางการแพทย์โดยตรง ก็สามารถทำได้ทันทีผ่านบริการ Telemedicine โดยซันเดย์ได้เชื่อมต่อกับเครือข่ายบุคลากรทางการแพทย์ในลักษณะของ Marketplace ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกพูดคุยขอรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญผ่านวิดีโอคอลได้ทุกที่ทุกเวลา โดยโรคที่ส่วนมากลูกค้าใช้บริการจะมี โรคไข้หวัดตามฤดูกาล โรคกล้ามเนื้ออักเสบ โรคท้องร่วงท้องเสีย หรือ โรคเกี่ยวกับความดันโลหิตสูง และที่สำคัญก็คือลูกค้าไม่จำเป็นต้องชำระเงินเพื่อรับบริการแต่อย่างไร (Cashless) เนื่องจากสามารถใช้วงเงิน OPD ในการขอรับคำปรึกษาได้ โดยหลังจากใช้บริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์เสร็จสิ้น ลูกค้ายังสามารถเรียกใช้บริการจัดส่งยา (Drug Delivery) มายังที่อยู่ที่ระบุไว้ในซูเปอร์แอปฯ ได้ทันที โดยบริการจัดส่งยานี้รองรับลูกค้าทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ทั้งนี้ หากลูกค้าต้องการเดินทางไปรักษาตัวยังสถานพยาบาล ก็สามารถค้นหาสถานพยาบาลที่เหมาะสมกับโรคได้ โดยซูเปอร์แอปฯ จะแนะนำโรงพยาบาลตามวงเงินความคุ้มครองที่ที่เลือกซื้อ และลูกค้าสามารถขอเส้นทางได้ง่ายๆ ผ่านซูเปอร์แอปฯ
ในปี 2564 นี้ ซันเดย์ตั้งเป้าจะสร้างฐานลูกค้าที่เข้ามาใช้ซูปเปอร์แอปฯ อย่างต่อเนื่องและ บริษัท มีความพร้อมที่จะให้บริการ การบริการสุขภาพแบบดิจิตัลแบบเต็มรูปแบบบนซูเปอร์แอปฯ แก่ลูกค้าทุกคน