งานสัมมนาผ่านเว็บของ Pacific Asia Travel Association เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ในหัวข้อ “การฟื้นฟูการท่องเที่ยวและเทรนด์ท่องเที่ยวปี 2024 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก” โดยข้อมูลการวิจัยล่าสุดจาก Euromonitor International และ Hong Kong Polytechnic University เผยให้เห็นถึงพฤติกรรมและความชอบใหม่ของนักเดินทางท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ความสะดวกสบาย ประสบการณ์การท่องเที่ยวในชุมชนและวัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่งมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์การท่องเที่ยวยุคใหม่ในเอเชียแปซิฟิก จากข้อมูลได้เผยให้เห็นถึงไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปในยุคดิจิทัล และแนวโน้มการท่องเที่ยวในอนาคต ผ่านเทรนด์ที่สำคัญและโดดเด่นหลายด้านในปี 2024 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ดังนี้ นักท่องเที่ยวมองหาจุดหมายปลายทางที่มีความปลอดภัย การผ่อนคลายและกิจกรรม อาหารและเครื่องดื่มที่มีคุณภาพ และการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ในกลุ่ม Gen Z นั้นให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวและต้องการสัมผัสประสบการณ์ท้องถิ่นที่แท้จริงในราคาที่เข้าถึงได้ ในขณะที่กลุ่มเบบี้บูมเมอร์จะแสวงหาประสบการณ์ที่คุ้มค่าและดีที่สุดจากการเดินทาง การยกเลิกการจองโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม การใช้จ่ายผ่านระบบดิจิทัลได้อย่างง่ายดาย คำแนะนำจากครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน และการรีวิวจากผู้ใช้บริการที่เชือถือได้ ล้วนมีผลต่อการตัดสินใจในการเดินทางท่องเที่ยว การฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาวจีน การฟื้นตัวที่ช้าของนักท่องเที่ยวจีนมีผลต่อการฟื้นตัวด้านการท่องเที่ยวในจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยในประเทศใกล้เคียง เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี ฮ่องกง เวียดนาม และมาเก๊านั้น อาจจะไม่ฟื้นตัวเต็มที่จนถึงสิ้นปี 2026 เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนเลือกที่จะอยู่บ้านหรือเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศแทนการเดินทางไปต่างประเทศ เนื่องจากภาวะเศรฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวยที่เกิดจากภาวะเงินเฟ้อ ความท้าทายด้านแรงงานและความขัดแย้งในภูมิภาค รวมถึงการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวของประเทศจีนเอง ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาจนถึงปี 2026 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติอาจจะสามารถกลับมาอยู่ในระดับ 96% สำหรับจุดหมายปลายทางอย่างอินเดียและไทยที่ฟื้นตัวแล้วหรือในกรณีของสิงคโปร์ ที่จำนวนนักท่องเที่ยวเกินระดับจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนสูงสุดในปี 2019 ไปแล้วนั้น ได้นักท่องเที่ยวจากตลาดอื่นๆ เช่น ออสเตรเลีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา มาชดเชยจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนและญี่ปุ่นที่ยังไม่ฟื้นตัว การผลักดัน AI ให้สอดคล้องกับตลาดการท่องเที่ยวที่กำลังเติบโต AI นวัตกรรมที่กําลังเป็นตัวกำหนดอนาคตของธุรกิจในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ถูกนำมาใช้เพื่อแนะนำแผนการเดินทาง การฝึกอบรมพนักงาน ปรับปรุงประสิทธิภาพการบริการ การดําเนินงาน รวมถึงการสร้างประสบการณ์ให้กับนักท่องเที่ยว จำเป็นต้องใช้อย่างมีความรับผิดชอบ ระมัดระวัง และจำเป็นต้องรักษาข้อมูลให้เที่ยงตรงและเป็นปัจจุบันอยู่เสมอในฐานะเทคโนโลยีตัวขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และเพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดหรือปัญหาจากการถูกนำไปใช้เพื่อขยายอคติและข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง Noor Ahmad Hamid ซีอีโอของ PATA กล่าวสรุปโดยรวมว่า การฟื้นฟูท่องเที่ยวในเอเชียแปซิฟิกสามารถผลักดันได้ด้วยการผ่อนคลายข้อจำกัดด้านวีซ่า การเพิ่มปริมาณเที่ยวบิน การเชื่อมต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยวในภูมิภาค การฝึกอบรมและเพิ่มทักษะบุคลากรด้านการท่องเที่ยว PATA จะเปิดเผยรายงานการคาดการณ์การท่องเที่ยวกลางปีของจุดหมายปลายทางท่องเที่ยว 39 แห่งในเอเชียแปซิฟิก ในวันที่ 25 มิถุนายนนี้ ใน “Research section” ที่ PATA.org |
2024-06-15