SHOPLINE ผู้นำระบบจัดร้านค้าบนอีคอมเมิร์ซและโซเซียลคอมเมิร์ซแบบครบวงจร เผยเทรนด์โซเซียลคอมเมิร์ซเติบโตร้อนแรง คนไทยเลือกช้อปปิ้งออนไลน์สูงสุด ประกาศเดินหน้าแผนงานครึ่งหลังของปี 2564 เปิดบริการใหม่รองรับการเติบโตของโซเซียลคอมเมิร์ซ พร้อมเปิด 2 ฟีเจอร์ใหม่ ทั้ง LIVE Bidding เป็นฟีเจอร์การประมูลสินค้าอัตโนมัติ เป็นรายแรกที่ให้บริการในประเทศไทย และ Golden Minutes นาทีทอง สำหรับจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย สร้างการมส่วนร่วม มั่นใจครึ่งปีหลังลูกค้าเติบโตขึ้นเท่าตัว
ชนนันท์ ปัญจทรัพย์ Country Manager, SHOPLINE Thailand เปิดเผยว่า
SHOPLINE ได้เข้ามาเปิดให้บริการในประเทศไทยเป็นระยะเวลา 8 เดือนแล้วและมีการขยายแฟลตฟอร์มให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าในประเทศไทยและการฐานลูกค้าในไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ในครึ่งปีหลังจะขยายบริการใหม่รองรับตลาดเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซในไทย โดยเฉพาะโซเซียลคอมเมิร์ซที่ขยายตัวสูงมาก จึงเตรียมเปิดให้บริการฟีเจอร์ใหม่ 2 รายการ ได้แก่ LIVE Bidding เป็นฟีเจอร์การประมูลสินค้าอัตโนมัติ และ Golden Minutes นาทีทอง สำหรับร้านค้าที่จะจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายกับลูกค้า เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมและความน่าสนใจให้แก่ลูกค้า
“ผลของโควิด-19 เข้ามาเป็นตัวเร่งสำคัญทำให้ผู้บริโภคคนไทยก้าวเข้าสู่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และทำให้ตลาดอีคอมเมิร์ซมีการขยายตัวสูง โดยประเมินว่าภาพรวมตลาดอีคอมเมิร์ซของประเทศไทยในปี 2564 จะมีการขยายตัว 15-20% สอดคล้องกับแนวโน้มการใช้งานโซเซียลคอมเมิร์ซในประเทศไทยเช่นกัน และเทรนด์ที่มาแรงคือการไลฟ์สดเพื่อจำหน่ายสินค้า ซึ่งมีความสอดคล้องกับลูกค้าคนไทยที่อยากเข้ามาดู เพื่อความสนุกสนานและมีส่วนร่วมกับผู้ขายสินค้า ทำให้ประเมินว่าจากการขยายบริการใหม่อย่างต่อเนื่อง ในช่วงครึ่งปีหลังจะมีกลุ่มลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการของ SHOPLINE เพิ่มขึ้นเท่าตัวเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก” นายชนนันท์ กล่าว
ทั้งนี้มีผลการสำรวจว่า การทำโซเซียลคอมเมิร์ซจะผ่านช่องทางของ Facebook 58% รองลงมาเป็น Line 35% ตามมาด้วย Instagram 21% และ Twitter 11% ตามลำดับ ส่วนยอดการใช้จ่ายจะเฉลี่ย 1,000-3,000 บาทต่อคน มีการใช้เวลาผ่านโซเซียลคอมเมิร์ซประมาณ 2 ชั่วโมงต่อวัน และช่วงเวลาที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการไลฟ์จำหน่ายสินค้า คือ 19.00 น. สำหรับโซเซียลคอมเมิร์ซที่เติบโตสูง ทำให้มูลค่ารวมของยอดขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ช่วงไตรมาส 2 ของปี 2564 มีการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 300% เมื่อเทียบกับยอดขายไตรมาสแรก เติบโตสูงกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคเอเชียที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น 160% และจำนวนคำสั่งซื้อก็เติบโตเพิ่มขึ้น 210% จำนวนการถ่ายทอดสดเพิ่มขึ้น 300% รวมทั้งจำนวนความคิดเห็นเพิ่มขึ้น 283% โดยในเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซจะมีออเดอร์สูงสุดในวันจันทร์ และออร์เดอร์สูงสุดในช่วง 20.00 น. ส่วนภาพรวมยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ทั้งภูมิภาคเอเชียมีการเติบโตเพิ่มขึ้น 160% จำนวนคำสั่งซื้อเติบโต 180% จำนวนการถ่ายทอดสดเติบโต 70% และจำนวนความคิดเห็นเติบโตเพิ่มขึ้น 125% โดยเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซจะมีออเดอร์สูงสุดในวันพุธ และมีการสั่งซื้อสูงสุดช่วง เวลา 22.00 น.
ชนนันท์ กล่าวต่อว่า “SHOPLINE ได้เริ่มเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการตั้งแต่มีนาคม 2564 โดยขยายแพลตฟอร์มการให้บริการอีคอมเมิร์ซและโซเซียลคอมเมิร์ซแบบครบวงจร หรือ A Global Smart Commerce Enabler ให้แก่ลูกค้าในประเทศไทย ช่วยผลักดันสร้างความสำเร็จให้แก่ผู้ประกอบการไทยอย่างต่อเนื่อง และมีการนำเสนอฟีเจอร์ใหม่ ๆ มาเสริมการให้บริการ พร้อมทั้งเสริมองค์ความรู้ทางธุรกิจใหม่ๆ สำหรับแผนการขยายตลาดช่วงครึ่งของปีหลัง 2564 จะเดินหน้าแฟลตฟอร์มการให้บริการแก่ลูกค้า รวมถึงการขยายบริการให้แก่ร้านค้าออนไลน์อย่างใกล้ชิดตั้งแต่ใช้งานและบริหารหลังการขาย พร้อมจัด Webinar และ Seminar เสริมองค์ความรู้ให้แก่ผู้ประกอบการในทุกเดือน ซึ่งตามแผนงานจะทำให้ SHOPLINE ติดอันดับหนึ่งในสามของ Smart Commerce Enable ไทยภายในปีนี้
ชาญฤทธิ์ อนันตประยูร ผู้จัดการฝ่ายการตลาด SHOPLINE Thailand กล่าวเพิ่มเติมว่า “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและกลุ่มลูกค้าองค์กรเข้ามาเลือกใช้ SHOPLINE ในการทำตลาดและเพิ่มยอดขายสร้างการเติบโตให้แบรนด์อย่างน่าพอใจ เช่น บริษัทขนาดใหญ่เครื่องดื่มคิวมินซี ร้านแว่นตา Glassaholic, DANNYCOSMO แบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นผู้ชาย สามารถสร้างยอดขายเติบโตสูงถึง 552% และแบรนด์เสื้อผ้าเด็ก Hello sunshine kids สามารถยอดขายเติบโตกว่า 300% เป็นต้น ส่วนระดับภูมิภาคเอเชีย SHOPLINE ก็สร้างความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่อง พิสูจน์ได้จากการมีร้านค้าใช้บริการในภูมิภาคเอเชียมากกว่า 250,000 ร้านค้า และสร้างยอดขายผ่านแฟลตฟอร์มของ SHOPLINE ได้มากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ