RECU Academy ประกาศความแข็งแกร่ง เน้นคุณภาพหลักสูตร มุ่งสู่ #1 สถาบัน “ปั้นนักบริหารอสังหามืออาชีพขั้นสูง”

สถาบัน RECU Academy หลักสูตรด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีมายาวนาน 38 ปี เปิดสอนแล้วทั้งหมด 126 รุ่น รวมผู้สำเร็จหลักสูตรมากว่า 8,000 คน รุกเดินหน้าปั้นหลักสูตรคุณภาพใหม่ๆ ‘เรียนรู้ครบ จบที่เดียว เป็นจริงได้’ พร้อมคัดวิทยากรน้ำดี คณาจารย์ และผู้ทรงคุณวุฒิชื่อดังแวดวงอสังหาริมทรัพย์ไทย ร่วมติดอาวุธแก่ผู้เรียนใช้งานได้จริง ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ พร้อมร่วมสร้างเครือข่ายพันธมิตรในวงการอสังหา และทะยานสู่การปั้นโครงการอสังหาอย่างชาญฉลาด

รศ.มานพ พงศทัต ประธานหลักสูตร สถาบัน RECU Academy สถาบันการเรียนรู้เพื่อพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีในแวดวงนักธุรกิจ สำหรับความแข็งแกร่งของสถาบัน RECU ที่เรายังคงมุ่งมั่นและเป็นแหล่งสร้างผู้ประกอบการในวงการอสังหาริมทรัพย์ให้มีคุณภาพ คุณธรรม และจริยธรรมมาหลายรุ่นในตลอดช่วงระยะเวลา 38 ปีที่ผ่านมาจนปัจจุบันเปิดสอนแล้วรวมทั้งหมด 126 รุ่นใน 6 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตร Senior 66 รุ่น หลักสูตร Junior 25 รุ่น หลักสูตร Hotel 14 รุ่น หลักสูตร Financial & Cash flow 11 รุ่น หลักสูตร CEO 6 รุ่น หลักสูตร Housing 2 รุ่น และหลักสูตร New wave 2 รุ่น รวมมีสมาชิกที่จบหลักสูตรดังกล่าวแล้วประมาณ 8,000 คน และมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในทุกปี

“RECU Academy มีจุดเริ่มต้นของหลักสูตรเริ่มต้นที่คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬา ลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่ออบรมผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาศึกษาหาความรู้ เพื่อให้การพัฒนาอสังหาฯ เป็นไปโดยมืออาชีพ ซึ่งประโยชน์สูงสุด ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จในการพัฒนาโครงการและสามารถคว้าผลประกอบการได้ตามเป้าหมายที่ตั้งใจ ภายใต้การพัฒนาที่เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งสถาบันฯ ยังถือเป็นแหล่งรวมและเวทีของสังคมคนอสังหาริมทรัพย์ที่ได้มาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดในเชิงสร้างสรรค์ เพื่อให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สามารถขับเคลื่อนไปได้อย่างมีหลักเกณฑ์และหลักการ ตลอดจนส่งผลให้เกิดการพัฒนาประเทศและพัฒนาเมืองอย่างเป็นระบบ มีการจัดผังเมืองที่ดี รูปแบบอาคารและโครงการมีความสวยงามตรง ตามความต้องการของตลาดที่อยู่อาศัยในยุคใหม่ ซึ่งที่ผ่านมา ไม่ว่าจะมีความเปลี่ยนแปลงด้านภาพรวมตลาดในทิศทางใด สถาบันฯ ก็ได้จัดเตรียมความรู้ให้แก่ผู้เข้ามาเรียนอย่างครอบคลุมในทุกด้าน ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ นับแต่การเติมความรู้ด้านเทคนิคการเลือกซื้อที่ดิน การวิเคราะห์ที่ดิน การวางรูปแบบโครงการ กฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง การทำการตลาดรูปแบบใหม่ ตลอดจนความรู้ด้านการขาย จนถึงการบริหารการจัดการหลังการขายที่ถือเป็นจุดสำคัญในการพัฒนาโครงการของผู้ประกอบการที่เข้ามาเรียน” รศ.มานพ กล่าว

ด้านอาจารย์กิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา อาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ และรองประธานในหลักสูตร RECU Academy และกรรมการ บมจ. สัมมากร ได้ร่วมกล่าวถึงวิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนสถาบันฯ ว่า

RECU เป็นสถาบันทางการศึกษาเพื่อให้ความรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และก่อตั้งมานานเกือบ 4 ทศวรรษ มิได้ก่อตั้งขึ้นตามกระแสแฟชั่นที่เกิดขึ้นเพียงบางช่วงแล้วเงียบหายไป เนื่องจากเรามององค์ความรู้ที่นักบริหารมืออาชีพ “ควรได้รับและควรมี” เพื่อติดอาวุธทางปัญญา เพิ่มองค์ความรู้ที่ทันสมัย และเหมาะสมกับสถานการณ์ในขณะนั้นๆ ให้แก่ผู้มาเรียนและได้ประโยชน์ระยะยาว โดยสถาบันฯ ได้คัดเลือกวิทยากรที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์เชิงลึกในด้านต่างๆ มาบรรยายให้กับผู้รับการฝึกอบรม มีการจัดช่วงเวลาให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็น สร้างเครือข่าย (Networking) ระหว่างคนในแวดวงธุรกิจสังหาริทรัพย์ หรือผู้เกี่ยวข้องเพื่อจะได้มีโอกาสในการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการทำธุรกิจได้ในอนาคต

สำหรับด้านค่าใช้จ่ายเข้ารับฝึกอบรม สถาบันฯ ยังคงอัตราค่าอบรมอยู่ในมาตรฐาน ยกตัวอย่างคอร์สเรียน ราคาสูงสุดของสถาบันฯ อยู่ไม่เกิน 139,000 บาท และต่ำสุด 69,000 บาท โดยรวมค่าดูงานในต่างประเทศ ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก ค่าอาหารเครื่องดื่มทุกอย่าง ตลอดระยะเวลาการอบรมในช่วง 3 เดือน ซึ่งเป็นราคาที่ไม่สูงและเป็นตามจริง เนื่องจากสถาบันฯ ไม่ได้มุ่งหวังผลกำไรในทางธุรกิจ และนอกจากที่กล่าวไปแล้วข้างต้น ผู้รับการฝึกอบรมจะได้ประโยชน์จากข้อมูลที่สถาบันฯ ได้มอบให้ในขณะเข้ารับอบรม ในกรณีเมื่อจบหลักสูตรไปแล้วก็ยังสามารถติดต่อกลับเข้ามาเพื่อขอข้อมูลจากสถาบัน หรือขอคำแนะนำจากวิทยากรในหมวดหัวข้อวิชาต่างๆ ที่พร้อมให้ความช่วยเหลือได้ตลอดเวลา

ขณะที่ อาจารย์นิวัติ ลมุนพันธ์ กรรมการบริหารหลักสูตร RECU Academy และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะทำงาน กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย และคณะทำงานตรวจสอบผลการดำเนินงานของบมจ. เคหะสุขประชา การเคหะแห่งชาติ และ กรรมการ บมจ. ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ กล่าวเสริมว่า สำหรับในปีนี้ ก้าวสำคัญของการเติบโตของสถาบันฯ ยังคงขับเคลื่อนภายใต้กรอบแนวคิดของสถาบันฯ ซึ่งได้แก่

  • Academic – เน้นความรู้พื้นฐานด้านวิชาการทุกมิติที่จะช่วยให้คุณรู้จักและเข้าใจอสังหาริมทรัพย์มากยิ่งขึ้น
  • Speaker – ไม่ใช่การบรรยายจากนักวิชาการทั่วไป แต่เป็นการบรรยายจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านในวงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีประสบการณ์ตรง และหาฟังได้ยาก
  • Connection – จาก 126 รุ่นที่ผ่านมา ทำให้สถาบันฯ มีเครือข่ายของนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตัวจริงกว่า 8,000 คน และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี
  • Workshop – แม้ทฤษฎีจะอัดแน่นแต่การปฏิบัติเราก็ไม่ทิ้ง มีการแบ่งกลุ่มให้ทดลองทำ Project จริง สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจของตนเองได้

“ที่ผ่านมา ภาพใหญ่ของสถาบัน คือ เรามุ่งมั่นสร้างนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แต่ขณะเดียวกัน เราก็มีวิชาเฉพาะด้านต่างๆ ที่เปิดสอนเพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกฎหมายที่ดิน การเงิน สินเชื่อ การตลาด การขาย หรือแม้แต่ฮวงจุ้ย เป็นต้น ดังนั้น การเรียนกับ RECU จึงมิใช่แค่การแชร์เครือข่าย (NetworkingX เพียงอย่างเดียว หากแต่หัวใจหลักของสถาบันฯ คือ เราต้องการเป็นสถาบันแหล่งรวมครอบครัวอสังหาฯ เป็นบ้านที่ให้ความรู้ต่างๆ หรือเป็นห้องสมุดที่ทุกคนกลับมาหาความรู้ได้

สำหรับความเป็นสถาบันฯ เรามุ่งสร้างเครื่องมือให้แก่ผู้มาเรียนสำหรับการทำธุรกิจ เห็นโอกาสในสิ่งที่มี ส่งเสริมการผลักดันให้อุตสาหกรรมอสังหาฯ เติบโตอย่างต่อเนื่อง อย่างในคอร์สเรียนที่สอนก็จะมีเรื่องกหมายที่ดิน ขั้นตอนพัฒนาโครงการอาคารชุดและกระะบวนการจัดสรรที่ดิน การจดทะเบียนและการบริหารนิติบุคคลอาคาร/หมู่บ้านจัดสรร (After Sales Service) รวมทั้งการวิเคราะห์ด้านกฎหมาย กฎระเบียบกับโครงการที่ศึกษา ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากในแง่ของเจ้าของอสังหาฯ ที่จะพัฒนาโครงการของตัวเองต่อ

ทุกวันนี้ RECU จึงไม่ได้เป็นเพียงแต่สถาบันฯ สร้างนักพัฒนาอสังหาฯ ที่ประสบความสำเร็จเท่านั้น หากแต่เรายังทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาสำหรับนักพัฒนาอสังหาฯ ที่ “บาดเจ็บ” ด้วยเช่นเดียวกัน เพราะในแวดวงธุรกิจอสังหาฯ มี “หลายมิติ หลายประเภท หลายโอกาส”

ดังนั้น สิ่งสำคัญ คือ นักพัฒนาอสังหาฯ มืออาชีพจึงต้องมีหลายวิธีการในการคิด ทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ซึ่ง RECU มุ่งหวังให้ผู้เรียนเห็นความจริงส่วนนี้เสมอ เพราะ RECU ไม่สามารถสอนให้ทุกคนประสบความสำเร็จได้ แต่สอนให้ทุกคนมีอาวุธ มีความรู้ไปใช้งานจริงได้” อ.นิวัติ กล่าว

“ผมยังเชื่อว่า กลยุทธ์ในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ คือ การตลาดแบบปากต่อปาก หรือ Word of Mouth Marketing ซึ่งนับว่าเป็นการทำการตลาดที่ดีที่สุด จากผู้ผ่านการอบรมที่ได้สัมผัสและมีประสบการณ์จริง เกิดความประทับใจ พูดถึง และบอกต่อ ทั้งนี้ปัจจุบัน RECU มีหลักสูตรทั้งหมด 6 หลักสูตร ได้แก่

  • หลักสูตร RE Focus In Housing Development
  • หลักสูตร CEO Modern In Real Estate Business
  • หลักสูตร RECU Senior
  • หลักสูตร RECU Junior
  • หลักสูตร RECU Hotel
  • หลักสูตร RECU Financial And Cash Flow

นอกจากนี้ ยังมีหลักสูตร In-House Training ซึ่งเป็นโอกาสดีสำหรับเจ้าของโครงการ ทายาทเจ้าของโครงการ และผู้บริหารระดับสูงขององค์กรต่างๆ เข้ามารับการฝึกอบรม เพิ่มโอกาสต่อยอดให้กับธุรกิจ ในขณะที่เศรษฐกิจมีปัญหา ธุรกิจไม่คล่องตัว เราจะฝ่าทางตันอย่างไร เทคนิคในการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในภาวะวิกฤต หลักสูตรของสถาบันฯ ที่จัดรวบรวมขึ้นจะมีคำตอบให้แก่ผู้เรียนอย่างแน่นอน เพราะ RECU Academy เป็นแหล่งเดียวที่คุณจะสามารถ ‘เรียนรู้ครบ จบที่เดียว เป็นจริงได้’ ” รศ.มานพ กล่าวสรุป