“บราเดอร์” ต่อยอดความสำเร็จ ยกระดับมาตรฐานบริการรอบด้าน ยึดความต้องการลูกค้าเป็นหลัก มุ่งสร้างความพึงพอใจสูงสุด

“บราเดอร์” ผู้นำนวัตกรรมเครื่องพิมพ์ แถลงพร้อมต่อยอดความสำเร็จจากปี 2566 มุ่งตอบโจทย์โดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ยกระดับงานให้บริการสู่มาตรฐานขั้นสูง เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุด โดยเน้นทำการตลาดแบบมุ่งเป้าเจาะกลุ่ม พร้อมเสริมแกร่งฐานลูกค้ากลุ่ม B2B (Business to Business) ผ่านการจัดกิจกรรมทางการตลาดที่ตรงใจลูกค้า ตั้งเป้าเติบโต 6%

“บราเดอร์” ภาพรวมสดใสยังคงเป็น #1

ในปี 2566 ที่ผ่านมาถือว่ายังคงเป็นปีทองของ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด ที่ยังคงสามารถครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ แม้จะมีส่วนแบ่งตลาดของ เครื่องพิมพ์เลเซอร์มัลติฟังชั่นสีที่ลดลงจาก 51.5% เป็น 50.1% แต่กระนั้นก็ยังสามารถครองอันดับ 1 ได้อยู่ดี มีเพียงเครื่องพิมพ์เลเซอร์ขาวดำเท่านั้นที่ยังคงเป็นเบอร์ 2 อย่างไรก็ตาม กล่าวได้ว่า ภาพรวมของเครื่องพิมพ์เซ็กเม้นท์อื่นๆ นั้นบราเดอร์ก็ทำได้ดี โดยมีมีส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้นเกือบทั้งกระดานเมื่อเทียบกับปี 2565 และปี 2566 (อ้างอิงข้อมูลจาก GFK)  กล่าวคือ

เครื่องพิมพ์เลเซอร์มัลติฟังชั่น

  • ขาวดำ จาก 47.8% เป็น 57.1%
  • สี จาก 51.5% เป็น 50.1%

เครื่องพิมพ์เลเซอร์

  • ขาวดำ จาก 27.7%  เป็น 32.6%
  • สี จาก 37.3% เป็น 46.4%

แผนการตลาดปี 67

สำหรับแผนการตลาดในปี 67 ของบราเดอร์นั้น คุณธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงกลยุทธ์รุกตลาด ดังนี้

  1. ต่อยอดสร้างการรับรู้กับแบรนด์ จากปีก่อนที่บริษัทมุ่งสร้างการรับรู้แบรนด์กับกลุ่มคนรุ่นใหม่นั้น ผลการวิจัยตลาดของGFK ในปี 2566 ระบุว่า บราเดอร์สามารถขยายฐานลูกค้า เข้าถึงคนรุ่นใหม่วัย 25-35 ปี ซึ่งมีกำลังซื้อ ทำให้บริษัทฯ สามารถขยายกำลังซื้อได้เพิ่มขึ้น ทำให้ปีนี้บริษัทยังคงตอกย้ำความเป็นแบรนด์ร่วมสมัย โดดเด่นด้วยนวัตกรรมและมีผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มวัย เพื่อขยายฐานตลาดต่อไปในอนาคต
  2. เจาะตลาด B2B ด้วยกิจกรรมทางการตลาดเชิงรุกที่เน้นเจาะกลุ่มตลาด B2B (Business to Business) เพื่อขยายฐานกลุ่มลูกค้าองค์กรและราชการ
  3. บริการด้านการขายแบบครบวงจร (Total Solution)
  4. การดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน รวมไปถึงการกำจัดวัสดุการพิมพ์ที่ใช้แล้วแบบรักษ์โลกต่อเนื่องตลอดปี ตามแนวทางการดำเนินธุรกิจแบบยั่งยืน (Sustainability)

สร้าง CX ที่ดีด้วย Total Solution

เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้า (CX : Customer Experience) คุณรัสสิญากร ตัณฑวณิชย์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายบริการลูกค้า บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า

“บราเดอร์ใช้ความคาดหวังของลูกค้ามาเป็นหัวใจของการให้บริการ และเชื่อมโยงการให้บริการอย่างครบวงจร (Total Solution) ตั้งแต่การขายไปจนถึงการดูแลหลังการขาย โดยมีระบบการจัดเก็บข้อมูลการเข้ารับบริการ เพื่อทำให้สามารถวิเคราะห์ปัญหาที่ทำให้เครื่องไม่สามารถใช้งานได้อย่างตรงจุด รวมถึงการมีช่องทางการให้บริการก่อนและหลังการขายครบทุกด้าน การให้ข้อมูลผ่าน Call center, E-mail, Facebook, Live Chat และ Chatbot ( ผ่านทางเว็บไซต์ หรือ Line OA Brother Thailand ) รวมทั้งการให้บริการผ่านศูนย์บริการของ บราเดอร์ ทั้ง 4 แห่ง และ Authorized Service Center ทั่วประเทศทั้ง 77 จังหวัด ซึ่งบราเดอร์ได้พัฒนาช่องทางเหล่านี้ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงให้คำปรึกษา เพื่อให้ลูกค้าใช้สินค้าของ บราเดอร์ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และจะมีการประเมินความพึงพอใจ ( NPS ) ทุกครั้งหลังจากให้บริการ เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้มาปรับปรุงการบริการต่อไป”

“ที่ผ่านมา บราเดอร์ ยังเป็นผู้นำในด้าน Chatbot  โดยมี “น้องแคร์” (N’Care) ที่ให้บริการตอบคำถามทั้งก่อนและหลังการขายได้ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ และ “มิสเตอร์แคร์เออร์” ( Mr. Carer) สำหรับศูนย์บริการแต่งตั้ง (ASC ) เพื่อตอบปัญหาด้านเทคนิค การซ่อมบำรุง และการแก้ไขปัญหาต่างๆ  รวมทั้งยังสามารถประมาณค่าซ่อมเบื้องต้น และอะไหล่ต่างๆ ได้ทันที เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจของลูกค้าในการซ่อม ซึ่ง Chatbot นี้ จะทำงานให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้ง บริการเสริม “บราเดอร์แคร์แพค” (Brother Care Pack) ที่ลูกค้าสามารถซื้อบริการเสริมต่างๆเพิ่มเติมได้ นับตั้งแต่วันที่ซื้อเครื่องวันแรก จนถึงวันสุดท้ายที่อยู่ในระยะเวลารับประกัน เช่น การขยายการระยะเวลารับประกัน การตรวจเช็คเครื่องและทำความสะอาดเพื่อให้ใช้งานได้อย่างยาวนาน การซ่อมนอกสถานที่ การติดตั้งเครื่อง รวมถึงการให้บริการในรูปแบบต่างๆ ซึ่งเรายินดี Customize ตามความต้องการของลูกค้า  เพิ่มความคุ้มค่า ป้องกันการเกิดปัญหา ทำให้ลูกค้าทำงานอย่างต่อเนื่องไม่สะดุด และการใช้เครื่องได้อย่างยาวนานจะช่วยลดของเสียจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ ที่เป็นพิษกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย”

มาตรฐานบริการที่การันตีด้วยรางวัลเพียบ

ทั้งนี้ การให้บริการหลังการขายของ บราเดอร์นั้นสามารถคว้ารางวัลด้านต่างๆ จากสมาคมการค้าธุรกิจศูนย์บริการทางโทรศัพท์ไทย (TCCTA: Thai Contact Center Trade Association) ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา เช่น รางวัล The Best Contact Center of the Year 2017 , รางวัล The Best Satisfaction Contact Center หลายปีติดต่อกัน , รางวัลThe Best Effective Technology Contact Center ,The Best Social Media Contact Center , The Best Human Care Contact Center and The Best Workflow Contact Center อีกทั้งยังได้รับรางวัลจาก Contact Center Associations of Asia Pacific ในหลากหลายสาขาเช่นกัน  

นอกจากนี้ บราเดอร์ ยังมีมาตรฐานในด้านการให้บริการและการตรวจสอบครบทุกด้าน ( BSQA ) เช่น กรอบระยะเวลาการซ่อมเครื่อง วิธีการตอบปัญหา รวมถึงบุคลิกลักษณะเฉพาะของผู้ให้บริการ สถานที่ให้บริการ ทักษะความเชี่ยวชาญต่างๆ  ในการให้บริการแบบมืออาชีพ  ซึ่งเป็นมาตราฐานเดียวกัน เพื่อสร้างความไว้วางใจในการให้บริการ ทั้งศูนย์บริการของบราเดอร์ทั้ง 4 แห่ง และของ Authorized Service Center ( ASC ) ทั่วประเทศ โดยจะมีการฝึกอบรมทักษะการซ่อม ความรู้ความสามารถในการดูแลลูกค้า ให้มีความเป็นมืออาชีพ เป็นไปตามยุคสมัย  นำระบบการบริหารจัดการข้อมูลมาใช้อย่างเกิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงคำนึงถึงความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจ โดยทั้งหมดนี้ จะนำมาจากหลักการที่ว่า เข้าใจสิ่งที่ลูกค้าต้องการ แล้วนำเอาบริการของเราไปช่วย ให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ ซึ่งก็คือหลักการของ Customer Success นั่นเอง บราเดอร์ให้ความสำคัญต่อความสำเร็จของลูกค้า ( Customer Success ) เป็นอันดับ 1 เพื่อให้ลูกค้ามีความสุข ประสบความสำเร็จ ให้สมกับที่ลูกค้าไว้วางเลือก บราเดอร์ เป็นแบรนด์ในดวงใจ

ตอกย้ำการเป็นแบรนด์รักษ์โลก

นอกจากการให้บริการที่เป็นเลิศแล้ว บราเดอร์ยังคงตอกย้ำความเป็นแบรนด์รักษ์โลก ด้วยการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืนด้วย ทั้งนี้ คุณพรภัค อุไพศิลป์สถาพร ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า

“ที่ผ่านมา บราเดอร์ ได้ปรับปรุงการทำงานตามมาตรฐาน ISO14001 หรือระบบการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมที่จะต้องมีมาตรฐานระดับสากล ซึ่งได้ทำต่อเนื่องมา 6 ปีแล้ว และจะทำต่อไป นอกจากนี้ บริษัทยังได้ยกระดับสำนักงานโดยผ่านการทำมาตรฐาน Green Office อันเกิดจากความมุ่งมั่นในการดำเนินงานภายใต้กลยุทธ์ Sustainable Development Goals ที่ครอบคลุมระยะเวลาตั้งแต่ปี 2563 2593 โดยมุ่งเน้นใน 3 ส่วนหลัก ประกอบด้วย เพิ่มการหมุนเวียนทรัพยากรสูงสุด ส่งเสริมสังคมที่ไร้คาร์บอนไดออกไซด์ มุ่งผลลัพธ์สุทธิที่เป็นบวกในระบบนิเวศ ผ่านนโยบาย Environmental Vision 2050 ส่งผลให้บราเดอร์ได้รับเหรียญทองจากการประเมินของสำนักงานสีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Office) ระดับดีเยี่ยม ตั้งแต่ปี 2564 และแนวทาง “กรีน” นี้ บราเดอร์ ได้ปลูกฝังลึกลงไปในหัวใจของพนักงานทุกคน จนสะท้อนออกมาในการทำงาน ซึ่งการมีมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมในระดับสูง ไม่เพียงแต่จะทำให้ชุมชนท้องถิ่นมีสิ่งแวดล้อมดีขึ้น แต่ยังเป็นประโยชน์ในการเพิ่มจุดแข็ง เพื่อสร้างความได้เปรียบในด้านการดำเนินธุรกิจให้กับทางบริษัทอีกด้วย รวมถึงกิจกรรมพิเศษเพื่อชุมชนท้องถิ่นและสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ที่บริษัทฯ จัดให้มีขึ้นทุกปี โดยคำนึงถึงความต่อเนื่องและยั่งยืน สอดคล้องกับแนวทางในการดำเนินธุรกิจที่บริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นวางไว้ และบราเดอร์ทั่วโลกยึดถือร่วมกัน

#BrotherThailand