บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลายในระดับนานาชาติ ร่วมสนับสนุนการจัดงานสัมมนาด้านความยั่งยืน “Sustrends 2024” ซึ่งจัดโดย ‘The Cloud’ ณ พิพิธภัณฑ์สวนเบญจกิติ โดยได้นำเทคโนโลยีพลังงาน Energy Box หรืออุปกรณ์กักเก็บพลังงาน จากพลังงานสะอาดอย่าง ‘พลังงานแสงอาทิตย์’ มาผลิตไฟฟ้าสำหรับการจัดงานตลอด 5 ชั่วโมงเต็ม หนุนแนวคิดสังคมคาร์บอนต่ำ ตอกย้ำจุดยืนการส่งมอบอนาคตพลังงานเพื่อความยั่งยืน (Smarter Energy for Sustainability)
นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เผยว่า “Sustrends 2024 เป็นการรวมตัวของผู้คนในวงการความยั่งยืน ทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชน ที่จะมาร่วมกัน ผลักดันการดำเนินงานเพื่อให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ซึ่งบ้านปูก็เป็นอีกบริษัทที่ดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับเป้าหมาย SDGs เราจึงยินดีเป็นอย่างมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของงานนี้ และที่สำคัญได้นำเทคโนโลยีพลังงาน Energy Box หรืออุปกรณ์กักเก็บพลังงานจากพลังงานแสงอาทิตย์ มาผลิตไฟฟ้าให้กับงาน ‘Sustrends 2024’ ทั้งบนเวทีสัมมนา และบูธของหน่วยงานต่างๆ กว่า 20 บูธ ตลอดการจัดงาน 5 ชั่วโมงเต็ม โดยมีเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนภายในงาน เพื่อตอบโจทย์งานสัมมนาที่มุ่งเน้นการสื่อสารเรื่องความยั่งยืนอย่างแท้จริง ซึ่งในปีที่ผ่านมา เราก็ได้นำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในแคมเปญเพลงรักจากพลังงานสะอาด เพื่อผลิตไฟฟ้า สำหรับใช้ในทุกขั้นตอนของแคมเปญ ตั้งแต่การอัดเสียงในสตูดิโอ ถ่ายทำมิวสิควิดีโอ และจัดมินิคอนเสิร์ตใจกลางสยามเช่นกัน”
Energy Box เป็นหนึ่งในโซลูชันกักเก็บไฟฟ้าจากกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานของบ้านปูที่นำมาสนับสนุนการจัดงานดังกล่าว ประกอบด้วยแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่บรรจุอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ เปรียบเสมือน Power Bank ขนาดใหญ่ที่สามารถเคลื่อนย้ายไปติดตั้งได้หลายพื้นที่ มีขนาดความจุ 1 เมกะวัตต์ชั่วโมง (MWh) เปรียบเทียบกับปริมาณการใช้ไฟของบ้านหนึ่งหลังเป็นระยะเวลาหนึ่งเดือน ที่มีการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าพื้นฐาน เช่น เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า เครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องดูดฝุ่น ไมโครเวฟ ตู้เย็น พัดลม เตารีด โทรทัศน์ เป็นต้น ทั้งนี้บ้านปูได้สนับสนุนการใช้ไฟฟ้าจำนวน 300 กิโลวัตต์ และลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ตลอดงานสัมมนาในครั้งนี้ ประมาณ 780 – 900 kgCO2*
ปี 2023 ถือเป็นครึ่งทางของการเดินทางสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ในปี 2030 โดยบ้านปูได้ผนวกเป้าหมาย SDGs เข้ากับกลยุทธ์การดำเนินงานตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ โดยมุ่งสนับสนุน 7 เป้าหมายในการเพิ่มผลกระทบเชิงบวกและลดผลกระทบเชิงลบที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจ ได้แก่ ประเด็นด้านของเสียจากกระบวนการผลิต (SDG 6) ประเด็นก๊าซเรือนกระจก (SDG 7 และ SDG 13) ประเด็นด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย (SDG 8) ประเด็นด้านพลังงาน (SDG12) ประเด็นด้านความหลากหลายทางชีวภาพ (SDG 15) และประเด็นด้านการพัฒนาชุมชน (SDG 17) “บ้านปู ยังคงเดินหน้าดำเนินธุรกิจที่มุ่งสร้างอนาคตพลังงานเพื่อความยั่งยืน (Smarter Energy for Sustainability) พร้อมกับดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG เพื่อมอบคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย” นางสมฤดี กล่าว