NITMX เร่งขับเคลื่อน Open API Infrastructure เต็มกำลัง ตอบโจทย์ Common Utility Service มุ่งเติบโตไร้ขีดจำกัด

เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์  (NITMX) รุกพัฒนา Open API Infrastructure เพื่อขับเคลื่อนดิจิทัลแพลตฟอร์มให้ไปไกลไร้ข้อจำกัด หวังช่วยเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการของธนาคารสมาชิก และสร้างสังคมนักพัฒนาแอปฯสำหรับวงการ Banking ที่แข็งแกร่ง โดยเริ่มผลักดัน API Hub พร้อมเร่งขยายระบบให้ได้มากขึ้น มุ่งดึงดูดนักพัฒนาหน้าใหม่ให้เข้ามาใช้ระบบ โดยจะเปิดให้บริการปี 67 หวังช่วยเพิ่มศักยภาพแข่งขันและช่วยผลักดันบทบาท Common Utility ของสมาคมธนาคารไทย 

ปัจจุบันสถาบันการเงินการธนาคารของไทยได้นำระบบดิจิทัลการปรับใช้ในการบริหารจัดการระบบโครงสร้างของธนาคารมากขึ้น โดยมีบริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ จำกัด หรือ NITMX ผู้ให้บริการระบบ Application Programming Interface (API) เป็นตัวเชื่อมโยงเทคโนโลยีระบบใหม่กับ Core Banking ระบบเดิมของธนาคารได้อย่างง่ายดาย เพื่อส่งมอบประสบการณ์ทางการเงินให้แก่ลูกค้า ด้วยบริการธนาคารออนไลน์ผ่าน Mobile Banking ที่สะดวกสบายและรวดเร็วมากขึ้น และยังส่งผลให้ Mobile Banking กลายเป็นโซลูชั่นที่น่าเชื่อถือ เพราะสามารถรักษาข้อมูลลูกค้าอย่างปลอดภัย และทำให้การชำระเงิน การโอนเงิน เป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบายมากขึ้น

ขณะเดียวกัน การพัฒนา API สำหรับ Banking Industry ถูกนำไปประยุกต์ใช้เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ช่วยส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการของธนาคารสมาชิก การทำธุรกรรมทางการเงินผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ทั้งในและต่างประเทศ ธุรกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) ธุรกรรมการชำระเงินข้ามประเทศ (Cross Border) รวมทั้งงานด้าน Back Office และ IT Operation ส่งผลให้สามารถลดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านระบบการชำระเงิน เพิ่มการเชื่อมโยงของบริการชำระเงินระบบต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพ และมีความปลอดภัยสูงสุด  

ที่สำคัญ ระบบ API จะช่วยให้ธนาคารเชื่อมต่อกันได้ง่ายขึ้น ลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการพัฒนา และยังช่วยให้ธนาคารประหยัดต้นทุนในระยะยาว ด้วยการแชร์ API Infrastructure กลางของบริษัทฯ ลดการพัฒนาโปรแกรมที่ซ้ำซ้อน ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพของบริการที่ดีขึ้น และประหยัดต้นทุนค่าบำรุงรักษาอีกด้วย

ที่ผ่านมา NITMX ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อให้บริการแก่ธนาคารสมาชิกและลูกค้าธนาคารครอบคลุมครบทุกความต้องการด้านดิจิทัล อาทิ Standard API Transaction Verification ตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรมการโอนเงินหรือการชำระค่าสินค้า/บริการผ่านระบบพร้อมเพย์ Standard API – Mobile Ownership Validation ตรวจสอบความเป็นเจ้าของเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนในระบบพร้อมเพย์ Internet Payment Gateway  ช่องทางการชำระเงินออนไลน์ เบื้องหลังความสำเร็จของ Merchant iPay ธนาคารกรุงเทพ และการชำระเงินออนไลน์ผ่านตัวกลางที่ไม่ใช่ธนาคาร อย่าง Paypal และ GB Prime Pay ตลอดจนการพัฒนาธุรกรรมข้ามประเทศ อย่าง Cross-Border Remittance Service เชื่อมโยงการโอนเงินระหว่างประเทศแบบ Real-time โดยใช้เบอร์มือถือได้สำเร็จเป็นครั้งแรก Cross-Border QR Payment Service เชื่อมต่อระบบ IT สำหรับการชำระเงินด้วย QR Code กับต่างประเทศ Trade Document Registry (TDR) ตรวจสอบเอกสารการค้าและการขนส่งที่ลูกค้าธนาคารใช้ยื่นประกอบการขอสินเชื่อธุรกรรมการซื้อขายระหว่างประเทศ National Digital Trade Platform (NDTP) ซึ่งเป็น National Platform ที่ผู้ส่งออกและผู้นำเข้า ส่งและรับเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องในการค้าระหว่างประเทศ และเริ่มให้บริการสำหรับเอกชนไทยอย่างเต็มตัว ผ่าน Digital Supplychain Finance  ให้บริการด้านการค้าและการชำระเงินที่จะเชื่อมข้อมูลธุรกรรมการเงินอย่างครบวงจร โดยมี PromptBiz เป็นเครื่องมือส่งเสริมสินเชื่อให้แก่ภาคธุรกิจ SMEs

ล่าสุด NITMX  ยังคงรุกพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ด้วยการสร้างสรรค์ API Hub แหล่งรวม Financial and  Non-financial APIs ทางด้านการเงิน ภายใต้ “Open API Infrastructure” โดยจะมี Developer API-Hub Portal สำหรับนักพัฒนา ใช้ทดสอบระบบของตนเองเข้ากับบริการต่างๆ แบบเสมือนจริงโดยไม่กระทบโปรดักชั่น และดำเนินการต่อได้จนไปถึงการเชื่อมระบบจริง ช่วยให้หน่วยงานพันธมิตรและบริษัทสามารถพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ที่ต้องการค้นหา ทดสอบ และเชื่อมต่อใช้งานระบบต่างๆ ของทั้ง NITMX ธนาคาร และกลุ่มพันธมิตรได้อย่างสะดวกและปลอดภัย ทั้งยังสอดรับกับพันธกิจของสมาคมธนาคารไทย ที่ต้องการให้ NITMX เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงการเรียกใช้บริการของธนาคารและพันธมิตรอีกด้วย 

ทั้งนี้ การทำ Open API Infrastructure โดย NITMX จะเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อเพื่อพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ที่เชื่อมโยงกับ Financial , Non-Financial และ Common Utility ซึ่งถือเป็นแห่งแรกในไทยที่สามารถเชื่อมต่อได้มากกว่าธุรกิจด้านการธนาคาร และยังสอดคล้องกับแผนพัฒนา (Roadmap) ของสมาคมธนาคารไทยภายใน 3 ปี สำหรับพัฒนาระบบการเงินตามหลักการ 3 Opens คือ 1.Open Competition เอื้อให้เกิดการแข่งขันที่เปิดกว้างด้านการเงินการธนาคาร 2.Open Infrastructure การสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับผู้เล่นหน้าใหม่ และ 3.Open Data ส่งเสริมให้เกิดการแบ่งปันและโอนข้อมูล เพื่อให้เกิด Digital touchpoint ให้แก่ธนาคารสมาชิก ให้เกิดความสะดวกในการเชื่อมต่อ สนับสนุนธนาคารออนไลน์ หรือ virtual bank ซึ่งนับเป็นการเพิ่มศักยภาพแข่งขันและช่วยผลักดันบทบาท Common Utility ของสมาคมธนาคารไทยได้เป็นอย่างดี