บมจ.ธนาสิริ กรุ๊ป (THANA) ส่ง “ธนา เรสซิเดนซ์ บรมฯ – ปิ่นเกล้า” แบรนด์บ้านหรูเจาะตลาดทำเลอยู่อาศัยศักยภาพสูง ย่านถนนบรมราชชนนี – ปิ่นเกล้า สร้างสังคมคุณภาพ เอ็กซ์คลูซีฟเพียง 50 หลังเท่านั้น ด้วยราคาเริ่มต้น 18 ล้านบาท เผยมั่นใจแข่งขันได้ทั้ง “ทำเล ราคา การออกแบบทั้งฟังก์ชั่นและดีไซน์ จำนวนพื้นที่” ทั้งดีกว่า มากกว่า คุ้มค่ามากกว่า และสามารถรองรับไลฟ์สไตล์ของสมาชิกในครอบครัวที่มีหลายวัยได้อย่างหลากหลาย
เปิดตัวโครงการ “ธนาเรสซิเดนซ์ บรมฯ-ปิ่นเกล้า”
ธนาสิริ กรุ๊ป ประกาศเปิดตัวโครงการบ้านหรู “ธนา เรสซิเดนซ์ บรมฯ – ปิ่นเกล้า” ในช่วงต้นไตรมาส 3/2566 ด้วยจุดขายสำคัญจากรูปลักษณ์ของบ้านที่ได้รับแรงบันดาลใจจากผลงานที่ได้รับ รางวัล ASA Real Estate Awards 2018 อสังหาริมทรัพย์เพื่อคุณภาพชีวิตดีเด่น ประเภทที่อยู่อาศัย โดยสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อส่งให้โครงการใหม่แห่งนี้เป็นโครงการระดับคุณภาพ และเป็นโครงการ The New Luxury ที่ตอบโจทย์ของทุกการอยู่อาศัยบนถนนบรมราชชนนี – ปิ่นเกล้า
ทั้งนี้ สุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ธนาสิริ กรุ๊ป เปิดเผยว่าถึงภาวะตลาดว่า
“ตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการในระดับบนที่กำลังซื้อกลุ่มนี้ยังคงแข็งแรง และไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และเป็นกลุ่มที่ต้องการหาที่อยู่อาศัยใหม่ เพื่อการขยับขยายครอบครัวไปอยู่ในพื้นที่ที่มีคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น มีพื้นที่ใช้สอยที่เพิ่มขึ้น สามารถรองรับไลฟ์สไตล์ของสมาชิกในครอบครัวที่มีหลายวัยได้อย่างหลากหลาย
สำหรับการเปิดตัวโครงการ “ธนาเรสซิเดนซ์ บรมฯ-ปิ่นเกล้า” ซึ่งเป็นแบรนด์บ้านหรูของบริษัทฯ ในครั้งนี้ เราตั้งเป้าที่จะสร้างสังคมคุณภาพ ด้วยจำนวนที่อยู่อาศัยเอ็กซ์คลูซีฟเพียง 50 หลังเท่านั้น เพื่อรองรับดีมานด์บ้านเดี่ยวระดับมาสเตอร์พีซ สไตล์โมเดิร์นลักซ์ชัวรี่บนสุดยอดทำเลที่มีศักยภาพสูงเหมาะสำหรับการอยู่อาศัย ด้วยราคาเริ่มต้น 18 ล้านบาทขึ้นไป เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ “ธนาสิริ” กับประสบการณ์ความเชี่ยวชาญกว่า 38 ปี โดยบริษัทฯ ได้นำไอเดียการออกแบบบ้านจากแรงบันดาลใจในผลงานที่ได้รับรางวัล ASA Real Estate Awards 2018 อสังหาริมทรัพย์เพื่อคุณภาพชีวิตดีเด่น ประเภทที่อยู่อาศัย โดยสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ด้วยการการออกแบบบ้านที่รายล้อมด้วยธรรมชาติสีเขียวอย่างมีสไตล์ จัดวางพื้นที่บริเวณลานหน้าบ้านแบบดับเบิ้ล คอร์ตยาร์ต (Double Courtyard) เพื่อให้เป็นพื้นที่เฉลียงส่วนตัวสำหรับเจ้าของบ้าน และทุกคนในครอบครัว สามารถชมวิวแบบพาโนรามาที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ และมีความเป็นส่วนตัวสูงทุกหลัง นับเป็นโครงการแรกที่มีการออกแบบสไตล์นี้ เพื่อยกระดับการพัฒนาที่อยู่อาศัยคุณภาพระดับ The New Luxury ให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างชัดเจน”
ปักหมุด “บรมราชชนนี – ปิ่นเกล้า”
นอกจากนี้ หนึ่งในปัจจัยสู่ความสำเร็จของโครงการ “ธนาเรสซิเดนซ์ บรมฯ-ปิ่นเกล้า” คือ การเลือกปักหมุดของโครงการฯ บนทำเล “บรมราชชนนี – ปิ่นเกล้า” เจาะกลุ่มเป้าหมายที่อยู่อาศัยที่เงียบ สงบ ให้ความเป็นส่วนตัวแบบ Luxury Nature Living เป็นกลุ่มผู้บริโภคที่ชาญฉลาด ชอบแนวงานออกแบบท่ี่โปร่ง เรียบง่าย ซึ่งขณะนี้กลุ่มที่สนใจเข้ามาชมโครงการเป็นกลุุ่มเจ้าของกิจการที่ต้องการบ้านหรูโซนนนทบุรี
ทั้งนี้ สุทธิรักษ์ เปิดเผยเพเิ่มเติมว่า “ทำเลบรมฯ – ปิ่นเกล้า เป็นทำเลอยู่อาศัยชั้นดีที่อยู่ใกล้เมืองของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยในสภาพแวดล้อมที่ดี สอด คล้องกับการพัฒนาโครงการธนาเรสซิเดนซ์ บรมฯ – ปิ่นเกล้า ในแนวคิด “The New Luxury Nature Living” เพื่อการใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบได้ใช้ชีวิตส่วนตัวในแบบที่ต้องการ โอบล้อมด้วยธรรมชาติที่รังสรรค์อย่างใส่ใจ ผสมผสานอย่างกลมกลืน ช่วยให้รู้สึกสดชื่นกับอากาศที่บริสุทธิ์ รองรับการใช้ชีวิตของคนทุกวัยอย่างรื่นรมย์ ใส่ใจทุกรายละเอียดสู่ความภูมิใจที่ได้ครอบครอง มอบความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยให้แก่ทุกครอบครัว รวมไปถึงการร่วมสร้าง Thanasiri Green Community ผ่านการขับเคลื่อนการพัฒนา และบริการด้วยกลยุทธ์ “Thana Green” ในทุกกระบวนการ ตั้งแต่ Hardware – Software – People โดยให้ความสำคัญในทุกมิติของคุณภาพชีวิตที่ดีตลอด ภายใต้พันธกิจ Lifetime Total Living Solution เพื่อสร้างจุดเริ่มต้นการอยู่อาศัยดี สิ่งแวดล้อมดี และสังคมน่าอยู่
ทั้งนี้ สุทธิรักษ์ กล่าวเพิ่มเติมถึงจุุดแข็งของ “ธนาเรสซิเดนซ์ บรมฯ-ปิ่นเกล้า” ในย่านนี้ว่า เนื่องจากเป็นแลนด์แบงก์เดิมของบริษัทฯ ทำให้เรามีต้นทุนที่ถุกกว่า และทำให้เพิ่มความสามารถทางการแข่งขันให้กับบริษัทฯ นอกจากนี้ ด้วยที่ตั้งที่เป็นเส้นทางเข้าเมือง และแบบ้านที่เราใช้ปรับและต่อยอดเป็น 3 แบบใหม่ คือ REFLECTION, TYNALLl, BRILLIANT อีกทั้งมีพื้นที่มากกว่า 100 กว่าตรม. และฟังก์ชั่นครบครันกว่า พร้อมทั้งมีโครงสร้างราคาที่คุ้มค่ากว่า เมื่อเทียบกับโครงการต่างๆ ในบริเวณนี้หรือใกล้เคียงที่จะมีราคาประมาณ 30-40 ล้านบาท นอกจากนี้ บ้านทรงตัว H ของโครงการก็เน้นความเว้าก็จะทำให้โครงการมีบรรยากาศการอยู่อาศัยที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ และไม่แออัดหรือหนาแน่นเกินไปด้วย สำหรับคความคืบหน้าของโครงการ ขณะนี้มีบ้านพร้อมโอน 10 ยูนิต”
เหตุผลที่ต้องเลือกย่านบรมราชชนนี-ปิ่นเกล้า
ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์ทำเลย่านบรมราชชนนี-ปิ่นเกล้า โดยเฉพาะเส้นถนนบรมราชชนนีฝั่งขาเข้าที่อยู่ระหว่างถนนพุทธมณฑลสาย 2 และถนนพุทธมณฑลสาย สาย 3 ถือเป็นทำเลอยู่อาศัยชั้นดีที่อยู่ใกล้เมืองของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก เนื่องจากกฎหมายผังเมืองกำหนดให้พื้นที่ในบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่สีเขียวลาย ซึ่งเป็นพื้นที่อนุรักษ์ชนบทและเกษตรกรรมเพื่อรักษาสภาพแวดล้อมของเมือง การพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรในพื้นที่ดังกล่าวต้องมีที่ดินขนาด 100 ตารางวาขึ้นไป
ดังนั้น จึงเหมาะสำหรับการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยชั้นดีท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ดี และยังเป็นแหล่งที่มีความเจริญมากทั้งด้านเศรษฐกิจ การคมนาคม รวมถึงสาธารณูปโภคอีกด้วย นอกจากนี้ ยังเป็นทำเลที่สะดวกกับเดินทาง ไม่ว่าจะเป็น ถนนบรมราชชนนี ถนนพุทธมณฑลสาย 2 ถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอก) ถนนราชพฤกษ์ ถนนพระเทพตัดใหม่ (พรานนก-พุทธมณฑล สาย 4) และทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอก ทางยกระดับลอยฟ้า ตรงเข้าเขตเมืองชั้นใน และยังมีรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อนช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน เป็นทางเลือกในการเดินทางเข้าสู่เมืองได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งในอนาคตจะมีส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสถานีศาลาธรรมสพน์ สายสีแดงอ่อนจากตลิ่งชัน-ศาลายา
นอกจากนี้ ทำเลในย่านนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับการใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ เช่น ตลาดสดธนบุรี, ตลาดนัดสนามหลวง 2, เซ็นทรัล ศาลายา, โลตัส ศาลายา, เดอะพาซิโอ กาญจนาภิเษก, โรงพยาบาลธนบุรี 2, ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก, โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค, โรงพยาบาลศิริราช, โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน, โรงเรียนเพลินพัฒนา, โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา พุทธมณฑล, มหาวิทยาลัยมหิดล, โรงเรียนสาธิตนานาชาติมหาวิทยาลัยมหิดล, โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์, สถานีตำรวจนครบาลตลิ่งชัน เป็นต้น
ขณะเดียวกัน ทำเลย่านนี้ก็ถือเป็นทำเลที่มีอนาคต เนื่องจากตามร่างผังเมืองกรุงเทพ มหานครที่จะประกาศใช้ในอนาคต พื้นที่บริเวณถนนบรมราชชนนีจะมีการพัฒนาศูนย์ชุมชนชานเมือง 2 แห่ง ได้แก่ ศูนย์ชุมชนชานเมืองตลิ่งชัน และศาลายา เพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาเชิงพาณิชย์ระดับชุมชนเชื่อมโยงกับระบบขนส่งมวลชนทางรางในรูปแบบของ TOD (Transit Oriented Development) เพิ่มความหนาแน่น ความหลากหลายของกิจกรรมภายในพื้นที่ โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเพื่อรองรับการขยายตัวของเมือง ทำให้พื้นที่โดยรอบมีศักยภาพในการพัฒนามากยิ่งขึ้นในอนาคต
แผนในอนาคต
สุทธิรักษ์ เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในปีนี้ กับ 4 โครงการที่มีมูลค่ากว่า 3,300 ล้านบาทว่า
“ปลายปีนี้ บริษัทฯ มีแผนเปิดโครงการใหม่ บริเวณถนนราชพฤกษ์ นนทบุรีใกล้กับโลตัส นครอินทร์ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 20 ไร่ พัฒนาในรูปแบบของบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ขนาด 35-60 ตารางวา ราคาประมาณ 8 ล้านบาท จำนวน 100 ยูนิต มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท โดยจะเปิดพรีเซลในไตรมาส 4/2566 และอีกโครงการ ภายใต้แบรนด์ “ธนาฮาบิแทต” บริเวณนนทบุรี ซึ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดเช่นกัน ตั้งอยู่บนพื้นที่ 19 ไร่ ขนาด 35-60 ตารางวา ราคา 6-7 ล้านบาท จำนวน 100 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 600 – 700 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากช่วงต้นปี ที่บริษัทฯ ได้เปิดตัวโครงการบ้านแฝด ธนาวิลเลจ วงแหวน-ปิ่นเกล้าสามารถเชื่อมต่อถนนกาญจนาภิเษกได้ทั้ง 2 ซอย คือ ซอยวัดศรีประวัติและซอยวัดส้มเกลี้ยง อีกทั้งยังใกล้ทางด่วนประจิมรัถยา (ทางพิเศษสายศรีรัช) ราคาเริ่มต้น 4.79 ล้านบาท และโครงการทาวน์โฮมและบ้านแฝด ธนาวิลเลจ บางนา-บางบ่อ โครงการร่วมทุนต่อเนื่องกับพันธมิตรกรีนที่แข็งแรง คือ กลุ่มอนาบูกิ โคซัน ราคาประมาณ 2-5 ล้านบาท”
นอกจากนี้ ธนาสิริ ยังมีแผนที่จะเดินหน้าโครงการที่ 5 โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาเลือกที่ดินขนาด 3-8 ไร่ ย่านนนทบุรี นครอินทร์ ราชพฤกษ์ ขณะเดียวกัน ก็มีแผนที่จะเปิดให้บริการเพื่อดูแลชุุมชนในธนาสิริเอง ทั้งบริการคนสวนและแม่บ้าน บริการต่อเติมบ้าน บริการการบริหารนิติบุคคลของโครงการ ตลอดจนมีแผนตั้งศููนย์ Wellness Park บริเวณหน้าโครงการที่อยู่อาศัย โดยปัจจุุบันได้จับมือกับพันธมิตร Newton EM คลินิกกายภาพบำบัด และในอนาคตยังจะมีพันธมิตรด้าน Wellness เพิ่มเติมอีก อาทิ สปา อาหารสุขภาพ ธาราบำบัด ฯลฯ
รายละเอียดโครงการ
โครงการธนาเรสซิเดนซ์ บรมฯ – ปิ่นเกล้า ตั้งอยู่บนถนนบรมราชชนนีฝั่งขาเข้า อยู่ระหว่างถนนพุทธมณฑลสาย 2 และ สาย 3 บนเนื้อที่โครงการ 23 ไร่เศษ มูลค่า 890 ล้านบาท พัฒนาเป็นบ้านเดี่ยวระดับมาสเตอร์พีซ ออกแบบสไตล์โมเดิร์นลักซ์ชัวรี่ 50 หลัง เนื้อที่ 100-159 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 300-385 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 18 ล้านบาท
“ธนาเรสซิเดนซ์ บรมฯ-ปิ่นเกล้า” มีแบบบ้านให้เลือก 3 รูปแบบ 3 สไตล์ ประกอบด้วย
- แบบ REFLECTION พื้นที่ใช้สอย 300 ตารางเมตร เริ่มต้น 100 ตารางวา 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 เรือนรับรอง 1 ห้องครัว จอดรถ 4 คัน จอดในร่ม 2 คัน กลางแจ้ง 2 คัน (บางแปลง จอดได้ 2 คัน )
- แบบ TYNDALL พื้นที่ใช้สอย 327 ตารางเมตร เริ่มต้น 100 ตารางวา 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 พื้นที่สำหรับพักผ่อน 1 ห้องครัว จอดรถ 3 คัน
- แบบ BRILLIANT พื้นที่ใช้สอย 385 ตารางเมตร เริ่มต้น 105 ตารางวา 4 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 1 พื้นที่สำหรับพักผ่อน 1 ห้องแม่บ้าน 1 ห้องครัว จอดรถ 4 คัน มี Double Volume สูง 6.55 ม. เพิ่มความโปร่งสบายภายในบ้าน และช่วยให้เกิดการหมุนเวียนอากาศภายในห้องได้ดียิ่งขึ้น
จุดเด่น
- บ้านออกแบบในสไตล์โมเดิร์นลักซ์ชัวรี่ รายล้อมด้วยบรรยากาศสีเขียว ร่มรื่น สไตล์ Double Courtyard มี Veranda space panoramic view ให้มุมมองที่ใกล้ชิดธรรมชาติและความเป็นส่วนตัวทุกหลัง โดยดึงความเป็นธรรมชาติ และแสงอ่อนๆ เข้าสู่ภายในบ้าน ทั้งก่อสร้างด้วยระบบเสาคานรองรับการต่อเติม และผนังอิฐมวลเบาช่วยกันความร้อนและเสียงรบกวนได้ดี รองรับการติดตั้ง Home EV Charger และมีระบบ Smart Home ประกอบด้วย ระบบสัญญาณกันขโมย Magnetic, Motion Sensor, CCTV ภายใน-ภายนอก, Digital Door Lock, ประตูเลื่อนอัตโนมัติ
- การจัดวางผังบ้านในโครงการไม่แออัด รายล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัย ถนนทางเข้าหน้าโครงการกว้าง 14.5 เมตร ถนนหลักกว้าง 10 – 12 เมตร ถนนซอยกว้าง 9 เมตร พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ คลับเฮ้าส์ พร้อมสระว่ายน้ำระบบเกลือ มี Pool Terrace สำหรับพักผ่อน ห้องฟิตเนสพร้อมเครื่องออกกำลังกายที่ทันสมัย และ Co-Working space มีทางเดินสำหรับผู้สูงอายุและคนพิการ สวนสาธารณะขนาดใหญ่ และสวนหย่อม สนามเด็กเล่น ศาลาพักผ่อน และระบบรักษาความปลอดภัยประตูอัตโนมัติแบบบานสวิง Easy Pass และเป็นแบบ Double Gate พร้อมกล้อง CCTV จำนวน 29 ตัวและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
- ไอเดียการออกแบบบ้านจากแรงบันดาลใจในผลงานที่ได้รับรางวัล ASA Real Estate Awards 2018 อสังหาริมทรัพย์เพื่อคุณภาพชีวิตดีเด่น ประเภทที่อยู่อาศัย โดยสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดวางพื้นที่บริเวณลานหน้าบ้านแบบดับเบิ้ล คอร์ตยาร์ต (Double Courtyard) เพื่อให้เป็นพื้นที่เฉลียงส่วนตัวสำหรับเจ้าของบ้าน และทุกคนในครอบครัว สามารถชมวิวแบบพาโนรามาที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ และมีความเป็นส่วนตัวสูงทุกหลัง นับเป็นโครงการแรกที่มีการออกแบบสไตล์นี้