ซีพีแรม ชู Plant-Based Diet และ Functional Food พร้อมเปิดตัว “โอแรมปัง” รับดีมานด์ตลาดเบเกอรี่

บริษัท ซีพีแรม จำกัด ผู้นำอุตสาหกรรมอาหารพร้อมรับประทานของไทย เปิดตัวแบรนด์ใหม่ “โอแรมปัง” (ORAMPANG) เบเกอรี่อบสดพร้อมรับประทาน พร้อมยกระดับขีดความสามารถอุตสาหกรรมอาหารของไทยด้วย Plant-Based Diet และ Functional Food  ภายในงาน THAIFEX-ANUGA ASIA 2023 ภายใต้คอนเซ็ปต์ Re-imagine the Future of Food and Beverage Industry ระหว่างวันที่ 23 – 27 พฤษภาคม 2566 ณ บูธซีพีแรม (P-01) อาคารชาเลนเจอร์ 3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี

วิเศษ วิศิษฏ์วิญญู กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีแรม จำกัด กล่าวว่า ตลาดเบเกอรี่ ปีนี้ เติบโตอย่างต่อเนื่อง จากสถานการณ์เศรษฐกิจฟื้นตัว รวมถึงผู้บริโภคกลับมาใช้ชีวิตปกติ ซึ่งสอดคล้องกับการดำรงชีวิตของคนไทยในปัจจุบันที่หันมาทานเบเกอรี่ เพราะเน้นความสะดวกสบาย รวดเร็ว และอิ่มท้องมากขึ้น ปัจจุบันมูลค่าตลาดเบเกอรี่ในประเทศไทย คาดว่าจะอยู่ที่ 38,000 ล้านบาท ซึ่งตลาดเบเกอรี่เป็นตลาดที่ใหญ่ทำให้  ซีพีแรมเห็นโอกาสทางธุรกิจในกลุ่มเบเกอรี่ จึงได้เปิดตัวแบรนด์ใหม่เสริมความแกร่งของกลุ่มสินค้าเบเกอรี่ ซีพีแรม ภายใต้ตราสินค้า “โอแรมปัง” โอทุกคำ อิ่มอร่อย เต็มปัง เบเกอรี่อบสดพร้อมรับประทานที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค กับแนวคิด “เบเกอรี่ที่เติมเต็มความสุข เพิ่มความสดใสและเติมพลังสำหรับทุกคนในครอบครัว” ใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิตด้วยคุณภาพมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ เพื่อส่งมอบสินค้าที่สดใหม่ นุ่ม อร่อยให้กับผู้บริโภค รองรับความนิยมของผู้บริโภคที่เพิ่มมากขึ้น ตลอดจนยกระดับเบเกอรี่ให้ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์สำหรับกลุ่มลูกค้าครอบครัว โดยตั้งเป้ายอดขายภายใน 3 ปี อยู่ที่ 500 ล้านบาท

ซีพีแรม ยังคงพัฒนากลุ่มสินค้า Plant-Based Diet อย่างต่อเนื่อง จากแนวโน้มที่สังคมไทยและทั่วโลกมีการบริโภคอาหารที่ตอบโจทย์ด้านสุขภาพเพิ่มมากขึ้น และการรักษาสิ่งแวดล้อมให้เกิดสมดุลในห่วงโซ่อาหารเพื่อก่อให้เกิด

ความมั่นคงทางอาหาร และการสร้างมูลค่าเพิ่มให้อุตสาหกรรมอาหารไทย ซึ่งสินค้า VG for Love  ถือว่าเป็นอาหารพร้อมรับประทานสำหรับผู้บริโภคที่มีการบริโภคพืชเป็นหลัก “Plant-Based Diet” ครบ 5 ประเภทรายแรกของไทย ซึ่งมีไลฟ์สไตล์สอดคล้องทั้ง 4 ความรัก คือ  รักสุขภาพ รักชีวิตสัตว์  รักสิ่งแวดล้อม และรักโลก แบ่งประเภทอาหารเป็น 5 ประเภท ได้แก่ อาหารเจ,  อาหารวีแกน,  อาหารมังสวิรัติกับนม, อาหารมังสวิรัติกับไข่ และ อาหารมังสวิรัติกับนมและไข่ ซึ่งบรรจุในบรรจุภัณฑ์ “สีฟ้า” ปิดผนึกเพื่อคงสภาพความสด ใหม่ สะอาด และความปลอดภัยทางอาหารสูงสุด โดยบรรจุภัณฑ์ “สีฟ้า”ได้รับการออกแบบจากแนวคิด The Blue Planet คือ โลกเราเป็นดาวเคราะห์ดวงเดียวในสุริยจักรวาล ที่เป็นสีฟ้า เวลามองดูจากนอกโลก

นอกจากนี้ ซีพีแรม เตรียมรับกระแสเมกะเทรนด์ที่เป็นอนาคตของโลก คือ เทคโนโลยีชีวภาพ ซึ่งเกี่ยวข้องกับอาหารและสุขภาพโดยตรง โดยได้นำเทคโนโลยีชีวภาพดังกล่าวมาพัฒนานวัตกรรมอาหารเพื่อคนเฉพาะกลุ่ม เป็นการตอบโจทย์ความต้องการด้านโภชนาการที่แตกต่างกัน นำไปสู่การผลิตอาหารที่จำเพาะเจาะจงกับผู้บริโภคในแต่ละกลุ่มมากขึ้นเรียกว่า Functional Food เพราะมนุษย์ไม่ได้มีความต้องการโภชนาการชนิดเดียวกันทุกๆ คน ควรจะมีอาหารสำหรับคนวัยเด็กว่าต้องการโภชนาการแบบใด คนที่ต้องใช้พลังงานมากในวัยทำงานต้องการโภชนาการแบบใด คนที่สูงวัยต้องการโภชนาการแบบใด ซึ่งจะต้องพัฒนาไปยังจุดนั้นโดยใช้เทคโนโลยีชีวภาพมาพัฒนาอาหารสุขภาพและอาหารสำหรับบุคคลเฉพาะกลุ่ม

ซีพีแรม ได้กำหนดเป้าหมายการพัฒนาสู่ความยั่งยืนที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาสู่ความยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ(UNSDG) และเครือเจริญโภคภัณฑ์ในทุกด้าน ตัวอย่างโครงการที่โดดเด่น เช่น

โครงการเกษตรกรคู่ชีวิต เป็นโครงการที่ให้ความสำคัญของเกษตรกรเสมือนคู่ชีวิต และดำเนินการตามแนวทาง Food3S โดยซีพีแรมได้แนะนำและส่งเสริมการปลูก สู่เกษตรกรคู่ชีวิต พร้อมกับถ่ายทอดเทคโนโลยีการปลูกและการเก็บเกี่ยวกะเพราให้ได้ผลดี มีผลผลิตต่อไร่สูง เมื่อผลผลิตออกแล้ว รับซื้อในราคาที่สูงกว่าราคาตลาดทั่วไป ซีพีแรม ยังได้ขยายผลไปสู่เกษตรกรพืชผักชนิดอื่นๆ เช่น ผักคะน้า เป็นต้น และ

โครงการเรียนฟรีมีรายได้ (ปัญญาภิวัฒน์ – ซีพีแรม)  เป็นโครงการที่ซีพีแรมได้เล็งเห็นความสำคัญของการศึกษาสำหรับเยาวชน จึงได้จัดตั้งศูนย์การเรียนปัญญาภิวัฒน์-ซีพีแรม โดยจัดการศึกษาระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพ ประเภทวิชาพาณิชยกรรมและประเภทวิชาอุตสาหกรรม ใช้หลักสูตรของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และจัดการศึกษาในระบบ “ทวิภาคี” เรียนรู้ภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติควบคู่กันไป มุ่งเน้นการใช้ประสบการณ์ตรง สนองตอบความต้องการของสถานประกอบการเป็นสำคัญ

ทั้งนี้ ซีพีแรม จัดตั้งคณะการจัดการอุตสาหกรรมอาหาร เป็นส่วนหนึ่งในสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ด้วยเล็งเห็นว่าการจัดการองค์ความรู้ หรือ KM ที่ซีพีแรมสะสมมากว่า 35 ปี และมีความเป็นเลิศ เหมาะสมที่จะนำมาพัฒนาเป็นหลักสูตรการศึกษาให้กับสังคมในระดับอุดมศึกษา ซึ่งต่อยอดจากศูนย์การเรียนปัญญาภิวัฒน์ซีพีแรม เราไม่เพียงแต่สอนให้นักศึกษารู้และเข้าใจกระบวนการผลิตในอุตสาหกรรมอาหารเท่านั้น เรายังสอน TQM, TPM และ LEAN ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการบริหารองค์กรสู่ความเป็นเลิศ เรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและลงมือปฏิบัติจริงในโรงงานอุตสาหกรรมมาตรฐานโลก เราเชื่อมั่นทุกวิชาตลอดหลักสูตรจะถูกนำไปใช้ได้จริงเมื่อเรียนจบ บัณฑิตที่จบจากคณะการจัดการอุตสาหกรรมอาหารนี้จะนักปฏิบัติ นักจัดการ สามารถทำงานได้อย่างมืออาชีพตั้งแต่วันแรกที่เรียนจบการศึกษา