เดนทิสเต้ รุก Global Campaign คว้า ลิซ่า เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ คนใหม่

DENTISTE’ Anticavity Max Fluoride ทุ่มหนังโฆษณา LISA Confident Smile
ชูนวัตกรรมสุดล้ำของการแปรงฟันแบบไม่ใช้น้ำ เพิ่มประสิทธิภาพเคลือบฟลูออไรด์เจาะกลุ่ม GEN Z, GEN Y มั่นใจดันส่วนแบ่งเติบโต 3%

เภสัชกร ดร.แสงสุข พิทยานุกุล กรรมการผู้จัดการ ผู้นำเข้าและผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากระดับพรีเมียม “เดนทิสเต้” (DENTISTE’) เผยว่า ปีนี้ถือเป็นปีที่ท้าทายมาก     ในการทำตลาดท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 ล่าสุด เดนทิสเต้ เลือก ลิซ่า ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า Blackpink มาเป็น Brand Ambassador สินค้านวัตกรรมใหม่ DENTISTE’ Anticavity Max Fluoride  ซึ่งในทางทันตกรรมการแปรงฟันแห้งถือว่าเป็นการเคลือบฟลูออไรด์ที่ดีที่สุด  ทางแบรนด์จึงเลือก ลิซ่า เพื่อให้ ลิซ่า เปลี่ยนพฤติกรรมการแปรงฟันโดยการบ้วนน้ำให้เป็นการแปรงฟันแห้ง

ที่ผ่านมา เดนทิสเต้มีพรีเซ็นเตอร์เป็นคู่รักมาตลอด แต่ในครั้งนี้พิเศษและแตกต่างออกไป  โด เภสัชกร ดร.แสงสุข เผยถึงเหตุผลที่เลือกลิซ่ามาเป็น Brand Ambassador ว่า ผลิตภัณฑ์ของเดนทิสเต้มีวางจำหน่ายใน 25 ประเทศทั่วโลก และทำยอดขายดีมากที่เกาหลีใต้ ซึ่งลิซ่าเป็นศิลปินในสังกัด   YG Entertainment ประเทศเกาหลี มีอัลบั้มเดี่ยวชุดแรก LISA SOLO ที่สร้างกระแสหลังจากปล่อยภาพออกมาเพียงไม่นาน แฮชแท็ก #SoloistLisa ติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 ของโลกและติดอันดับ 1 ใน 7 ประเทศทั่วโลก จึงเป็นโอกาสดีมากที่จะต่อยอดผลิตภัณฑ์ในหลาย ๆ ประเทศ ตอกย้ำความเป็น Global Brand มากขึ้น

 “การจะได้ลิซ่ามาเป็น Brand Ambassador ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะ YG Entertainment ใส่ใจและพิถีพิถันมากในการเลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับศิลปิน ซึ่ง เดนทิสเต้ ได้รับเลือกจากทาง YG Entertainment จากคุณภาพของสินค้า ความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ที่ดี อีกทั้งลิซ่าเคยใช้ผลิตภัณฑ์ของเดนทิสเต้และสนใจอยากเป็น Brand Ambassador ทุกอย่างจึงลงตัว” เภสัชกร ดร.แสงสุข เผย

สำหรับ DENTISTE’ Anticavity Max Fluoride เป็นยาสีฟันชนิด “แปรงแห้ง” สูตรฟลูออไรด์ 1,500 PPM  ผสานสารสกัดจากธรรมชาติ 14 ชนิด เพื่อลด Bacteria ที่เป็นปัญหาต่างๆ เพื่อลมหายใจหอมสดชื่นและสุขภาพช่องปากที่ดียิ่งกว่า เนื่องจากการแปรงแห้งหมายถึงการแปรงฟันโดยไม่ต้องบ้วนน้ำ เพื่อเปิดโอกาสให้ฟลูออไรด์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ถูกชำระล้างโดยน้ำจากการบ้วนปาก

เมื่อ Fluoride ion รวมตัวกับ Calcium และ Phosphate จะเกิดผลึกเคลือบฟันชนิดใหม่ชื่อ “ฟลูอออะพาไทต์ (Fluorapatite)” สามารถป้องกันกรดและ Bacteria ที่ทำร้ายฟัน และสามารถเคลือบฟันตามธรรมชาติ (Hydroxyapatite) ได้ดีกว่า

ทั้งนี้ การแปรงฟันแบบไม่ใช้น้ำอาจเป็นเรื่องใหม่สำหรับใครหลายคน แต่มีผู้บริโภคบางส่วนทราบดีอยู่แล้ว เพียงแต่ยังไม่มียาสีฟันยี่ห้อไหนในท้องตลาดตอบโจทย์ จึงถือได้ว่า  DENTISTE’ Anticavity Max Fluoride  เข้ามาตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่มองหายาสีฟันสำหรับแปรงแห้งและลูกค้าที่ใส่ใจสุขภาพช่องปากอย่างแท้จริง เพราะเป็นยาสีฟันที่ไม่มีสาร SLS และสารกันเสีย Paraben และสารฟลูออไรด์จะตรงเข้าไปเคลือบฟันได้โดยตรงจากการไม่บ้วนน้ำ ช่วยลดปัญหาฟันผุ เสียวฟัน แก้ปัญหาเรื่องแบคทีเรียทำลายผิวเคลือบฟัน

ฉะนั้น การสื่อสารให้สารเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มใหม่ที่อายุลดลง จึงต้องใช้ความเข้าใจและต้องเข้าถึงในการสื่อสาร โดยการสื่อสารให้เข้าใจจะเป็นการประชาสัมพันธ์ร่วมกับทันตแพทย์ แจกตัวอย่างสินค้าให้ทดลองใช้ว่า สินค้าเรามีคุณภาพจริง และสื่อสารให้เข้าถึง คือ การมี ”ลิซ่า” เป็นผู้ส่งต่อแมสเสจสำคัญจะสร้างความน่าสนใจและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น

ด้านแนวคิดและเนื้อหาหลักของภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ LISA Confident Smile ต้องการเน้นแนวคิด เรื่องการยิ้มอย่างมั่นใจ (Confident Smile) ตอบรับกับเอกลักษณ์ของลิซ่าอย่างชัดเจน นั่นคือ “รอยยิ้ม” สังเกตได้จากทุกครั้งที่ลิซ่าปรากฏตัว เธอจะมาพร้อมกับรอยยิ้มที่สวย ฟันขาว มีความมั่นใจทุกครั้งที่ยิ้ม เป็นบุคลิกที่ดูพรีเมี่ยมสอดคล้องกับ DENTISTE’ Anticavity Max Fluoride

การได้ลิซ่ามาร่วมงานในครั้งนี้ เดนทิสเต้ตั้งเป้าจะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด 3% โดยมุ่งเจาะกลุ่ม GEN Z และ GEN Y ให้ได้มากที่สุด เพราะเป็นกลุ่มที่ควรได้รับการเคลือบฟลูออไรด์เพื่อป้องกันฟันผุ และปัจจุบันกลุ่มลูกค้าหลักของ เดนทิสเต้ คือกลุ่ม GEN X และ GEN Y ต้นๆ รวมทั้งบริษัทได้จัดทำแปรงสีฟันรุ่นพิเศษ สินค้า รุ่นลิซ่า ที่มีตัวด้ามสีชมพู และ ชุดยาสีฟันแปรงสีฟัน Limited Edition เพียง 25,000 ชุดเท่านั้น Pocket Pro สีชมพู  ขึ้นมาเป็นพิเศษด้วยเพื่อต้อนรับพรีเซนต์เตอร์คนใหม่ของแบรนด์

เภสัชกร ดร.แสงสุข เผยอีกว่า ในปีที่ผ่านมา เรายังออกผลิตภัณฑ์ยาสีฟันและดูแลช่องปาก เช่น กลุ่มผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจร ในช่วงสถานการณ์โควิด ปัจจุบัน ภาพรวมผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลช่องปาก หรือออรัลแคร์ มีมูลค่าประมาณ 2 หมื่นล้านบาท เติบโตประมาณ 5 % ต่อปี โดยกลุ่มยาสีฟันระดับพรีเมี่ยมมีสัดส่วนราว 20 % และเดนทิสเต้มีส่วนแบ่งในเซ็กเมนต์พรีเมี่ยม 40 %