ชาร์ป เผยโฉม Dynabook โน้ตบุ๊กสัญชาติญี่ปุ่น 3 รุ่นใหม่ล่าสุดอย่างเป็นทางการในไทย รังสรรค์เพื่อประสิทธิภาพในการทำงานและความแข็งแรงทนทานของตัวเครื่องสู่ที่สุดแห่งประสบการณ์ในการทำงานของผู้ใช้
เมื่อ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา 20.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ชาร์ป ประกาศเปิดตัวโน้ตบุ๊กแบรนด์ Dynabook อย่างเป็นทางการในประเทศไทย 3 รุ่น คือ
- รุ่น Satellite Pro L40
- รุ่น Protégé X30
- รุ่น Tecra X40
มากิ ยามาชิตะ General Manager – Global Strategy & Business Planning Division ของ Dynabook เผยว่า ผลิตภัณฑ์ Dynabook เป็นแบรนด์ใหม่ของแล็ปท็อปหรือโน้ตบุ๊กที่แต่เดิมนั้นอยู่ภายใต้แบรนด์โตชิบา โดยหลังจากที่ ชาร์ปได้เข้าซื้อกิจการคอมพิวเตอร์และเครื่องมือสื่อสารจากโตชิบาเมื่อปี 2018
ทางแบรนด์ได้เพิ่มขีดความสามารถด้านการจัดซื้อและศักยภาพในการผลิตจากความร่วมมือของผู้ถือหุ้นหลักอย่างบริษัท Foxconn ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเลกโทรนิกส์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทางชาร์ปเองก็ได้ช่วยเสริมประสิทธิภาพของหน้าจอและสนับสนุนเทคโนโลยี AIoT จากความร่วมมือของทุกฝ่ายนี้ก่อให้เกิดเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งอย่าง Dynabook
ความพิเศษของโน้ตบุ๊กแบรนด์ Dynabook คือมีความหลากหลายผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการทางธุรกิจ มี Zero Client Solutions เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลและมีประสิทธิภาพการใช้งานที่เป็นเลิศ ทั้งยังมี Mobile Edge Computing Devices & Smart Glasses ที่เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเสริมการทำงานให้ดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้ Dynabookไม่ได้มองตัวเองว่าเป็นเพียงแค่แบรนด์ที่ผลิตสินค้า แต่มุ่งมั่นเป็นแบรนด์ที่สร้างการบริการซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด สืบทอดวามเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม ต่อจาก 35 ปีที่ผ่านมานับจากการกำเนิดของโน้ตบุ๊กที่วางจำหน่ายเชิงพาณิชย์เครื่องแรกของโลกของโตชิบา โดยยึดหลักการทำงานอย่างมีคุณภาพและเชื่อถือได้พร้อมสร้างความร่วมมือกับบรรดาพันธมิตรและพัฒนาผลงานที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ใช้งาน
สุริยา ก้อนคำ Head of Solution Design Department บริษัท ชาร์ป ไทย จำกัด ก็ได้เล่าว่าที่มาที่ทำให้โน้ตบุ๊ก Dynabookนั้นแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆนั้น เกิดขึ้นจาก 4P ที่ประกอบด้วย
- P-People บุคลากรที่มีความเชื่อถือได้ มีความรู้ มีประสบการณ์
- P-Product ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและการมีนวัตกรรมใหม่ๆอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ
- P-Process การมีเทคโนโลยีการผลิตและควบคุมคุณภาพที่เข้มงวดในระดับสูงสุด
- P-Partnership การมีพันธมิตรทางธุรกิจและนวัตกรรมที่แข็งแกร่งและล้วนเป็นบริษัทชั้นนำของโลก
Dynabook ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยสูงสุดแก่ข้อมูล โดยส่วน BIOS
(Basic Input/Output System) ซึ่งเป็นระบบที่เป็นเสมือนตัวเชื่อมระหว่าง Hardware กับ Software ในการเก็บข้อมูล โดยได้สร้าง BIOS ที่เป็นโมเดลของแบรนด์โดยเฉพาะขึ้นมา พร้อมทั้งฝังปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เข้าไป ให้ผู้ใช้สามารถกดอัพเดทเวอร์ชั่นได้เองเมื่อมีการแจ้งเตือน โดยไม่ต้องพึ่งพาช่างหรือผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งลดความไม่จำเป็นในการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้ เพื่อเสถียรภาพในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล นอกจากนี้ทุกเครื่องของ Dynabook ยังมีเทคโนโลยีเอกสิทธิ์ EasyGuard นวัตกรรมเพื่อช่วยในการรักษาข้อมูลไม่ให้สูญหายหรือถูกทำลาย ด้วยการหยุดการทำงานของฮาร์ดดิสก์ให้อัตโนมัติ เมื่อเจอแรงกระแทก ถูกน้ำหกใส่ หรือถูกทับด้วยของหนักๆ
การสร้างสรรค์ Dynabook ถือเป็นการสร้างไลฟ์สไตล์แบบ ‘Remote Life’ อย่างเต็มรูปแบบ เพราะ Dynabook ถูกออกแบบมาให้ทำงานได้อย่างสะดวกสบายและเต็มประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันก็เติมเต็มสุนทรียะด้านความความบันเทิงได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ด้วยแนวคิด Beyond Reliable Experience for Your Everyday Work ที่สุดแห่ง ประสบการณ์ในการทำงานกับ Dynabook โน๊ตบุ๊กรุ่น Satellite Pro L40 รุ่น Protégé X30 และรุ่น Tecra X40 จึงมีความหลากหลายของสเปคและวัสดุที่ทนทานสูงให้เลือกใช้งานได้ตามความต้องการ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนทำงานที่กำลังมองหาเครื่องคู่กาย
ซึ่งสามารถพกพาไปทำงานได้ทุกวัน คนที่ต้องเคลื่อนที่ตลอดเวลาและต้องการเครื่องที่ทนทาน หรือแม้แต่นักเรียนนักศึกษาที่ต้องการใช้งานทั้งที่บ้านและที่โรงเรียนทั้งเล่นเกมและการบ้าน ทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนสเปกได้ตามความต้องการที่แตกต่างกันสำหรับการใช้งานในระดับองค์กรได้อีกด้วย
สำหรับ Dynabook Satellite Pro L40 ซึ่งเป็นรุ่นไฮไลท์มีสองราคาคือ
- 10 th Gen Intel® Core™ i5 ราคา 29,900 บาท
- 10 th Gen Intel® Core™ i7 ราคา 32,990 บาท
ขณะที่อีกสองรุ่นซึ่งเน้นทำการตลาดในกลุ่มลูกค้าระดับองค์กร คือ
- รุ่น Dynabook Protégé X30 ราคา 57,990 บาท
- รุ่น Dynabook Tecra X40 ราคา 47,990 บาท
สามารถสั่งซื้อได้ตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไปทาง Sharp Official Store บน Lazada และ Shopee