บริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด และ บริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เสริมทัพแกร่งขับเคลื่อนธุรกิจยางรถยนต์ครบวงจร ประกาศแต่งตั้ง มร.ฟูมิทาคะ ทาคาโอคะ ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ ในขณะที่ มร. ฮิเดยูกิ ทาเคดะ ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง Vice President and Officer Original Equipment Tire Sales ณ บริดจสโตน ประเทศญี่ปุ่น
นับเป็นเวลากว่า 2 ปี ที่มร. ฮิเดยูกิ ทาเคดะ ได้ริเริ่มโปรเจคและกิจกรรมมากมาย อาทิ การจัดตั้งทีมลุยตลาดค้าปลีก Bridgestone Retail Thailand, โปรเจคการแต่งตั้ง Wholesale Partnership และ B Solutions สำหรับธุรกิจยางรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ เป็นต้น ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญสำหรับการแข่งขันทางธุรกิจที่ผ่านมา ทำให้บริดจสโตนยังคงเป็นผู้นำตลาดยางรถยนต์ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
มร.ฟูมิทาคะ ทาคาโอคะ กรรมการผู้จัดการบริษัทฯ กล่าวว่า “การแข่งขันของธุรกิจยางรถยนต์ในประเทศไทยในปัจจุบัน ถือว่าเป็นความท้าทายของตัวผมเองที่จะนำประสบการณ์การทำงานกว่า 30 ปี มาช่วยขับเคลื่อนให้บริดจสโตนประเทศไทยดำเนินธุรกิจแบบที่สามารถครองใจผู้บริโภคเช่นนี้ได้อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการพัฒนาองค์กรให้ครอบคลุมการให้บริการตั้งแต่ต้นน้ำ (Upstream) กลางน้ำ (Midstream) และปลายน้ำ (Downstream) พร้อมกับความมั่นใจที่ทุกฝ่ายทุกแผนกของเราจะไม่หยุดพัฒนาการส่งมอบทั้งผลิตภัณฑ์และบริการให้กับลูกค้า รวมถึงในด้านการบริหารของเราที่ต้องสอดคล้องกับพันธกิจที่สำคัญของบริดจสโตน คือการ “รับใช้สังคมด้วยคุณภาพที่เหนือกว่า” ซึ่งถือเป็นสิ่งที่คำนึงถึงการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของบริดจสโตนในประเทศไทย
ด้วยประสบการณ์ของ มร.ฟูมิทาคะ ทาคาโอคะ ที่เคยได้บริหารงานในส่วนงานธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์ (OE) และธุรกิจตลาดยางทดแทน (Replacement) มาอย่างต่อเนื่องกว่า 31 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2531 ณ บริษัท บริดจสโตน คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น และบริดจสโตน ประเทศบราซิล ทำให้ มร.ฟูมิทาคะ ทาคาโอคะ มีความรู้ความสามารถที่รอบด้าน เป็นนายทัพขับเคลื่อนการเป็นผู้นำตลาดของบริดจสโตน ประเทศไทย ได้อย่างแน่นอน
บริดจสโตน ประเทศไทย มีเครือข่ายธุรกิจและตัวแทนจำหน่ายกว่า 1,500 แห่งทั่วประเทศ ความสำเร็จทางธุรกิจที่น่าภาคภูมิใจและผูกพันกับประเทศไทยยาวนานกว่า 51 ปี ทำให้มีการเติบโตอย่างรุดหน้า ด้วยจำนวนพนักงานกว่า 5,000 คน ดำเนินธุรกิจแบบครบวงจร อาทิ โรงงานการผลิตยางรถยนต์ 2 แห่งที่ได้มาตรฐาน, มีหน่วยงานด้านงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทั้งในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค พร้อมด้วยสนามทดสอบยางรถยนต์แห่งแรกในประเทศไทย, ทีมงานฝ่ายการตลาดและฝ่ายขายมืออาชีพ, ระบบการขนส่งที่รวดเร็วและศูนย์บริการที่ทันสมัยที่พร้อมดูแลลูกค้าครอบคลุมทั่วประเทศ
*ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นไป