คปภ. ผนึกกำลังร่วมกับภาคธุรกิจประกันภัย ยกระดับมาตรฐานการกำกับดูแลคนกลางประกันภัย พร้อมเน้นย้ำแนวทางการคุ้มครองผู้บริโภครองรับการซื้อประกันภัยในช่วงปลายปี


สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) โดยสายตรวจสอบคนกลางประกันภัย ได้จัดประชุมร่วมกับหน่วยงานภาคธุรกิจประกันภัย ได้แก่ สมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมประกันวินาศภัยไทย สมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน และสมาคมนายหน้าประกันภัยไทย เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2568 ณ สำนักงาน คปภ. โดยมี วสุมดี วสีนนท์ รองเลขาธิการ ด้านกำกับคนกลางและประกันภัยภูมิภาค เป็นประธานการประชุม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสื่อสารและสร้างความเข้าใจร่วมกันระหว่างสำนักงาน คปภ. และภาคธุรกิจประกันภัย ถึงแนวนโยบายและมาตรการด้านการกำกับดูแลคนกลางประกันภัย โดยมีประเด็นสำคัญที่ถูกนำมาหารือ ได้แก่

1) สำนักงาน คปภ. เน้นย้ำให้บริษัทประกันภัยทุกแห่งต้องดำเนินการจัดทำสัญญาแต่งตั้งตัวแทนและนายหน้าประกันภัย ให้ครบถ้วนถูกต้องและเป็นไปตามกฎหมาย เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการป้องกันความเสี่ยงและช่วยคัดกรองตัวแทน/นายหน้าประกันภัยอย่างมีประสิทธิภาพ

2) การส่งเสริมและผลักดันให้การรับชำระเบี้ยประกันภัยผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นมาตรฐานหลักของอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มความโปร่งใส เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน รวมถึงป้องกันกรณีการนำส่งเงินค่าเบี้ยประกันภัยไม่ถูกต้อง

3) การสื่อสารนโยบายกำกับดูแลเชิงรุก (Proactive Supervision) เพื่อสร้างความเข้าใจและตระหนักถึงบทบาทของ คนกลางประกันภัย ในการยกระดับมาตรฐานการให้บริการและการปฏิบัติงาน เพื่อให้เกิดการคุ้มครองและบริการที่ดีที่สุดแก่ผู้บริโภคอย่างเป็นรูปธรรม

ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ประกันภัยในช่วงปลายปี ซึ่งเป็นช่วงที่ประชาชนมีความต้องการซื้อผลิตภัณฑ์ประกันภัยเพิ่มขึ้นเพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้อย่างปลอดภัยและได้รับความคุ้มครองอย่างเต็มที่ สำนักงาน คปภ.

ขอแนะนำให้ประชาชนปฏิบัติ ดังนี้
1) ตรวจสอบสถานะใบอนุญาตของผู้เสนอขายผ่านช่องทางดังต่อไปนี้

ระบบตรวจสอบออนไลน์ https://smart.oic.or.th/EService/Menu1
Application Line เพิ่มเพื่อนด้วย @oicconnect
Application “คนกลาง ForSure” ตัวแทน/นายหน้าแสดงใบอนุญาตอิเล็กทรอนิกส์จากแอปฯ เพื่อยืนยันตัวตน
2) ตรวจสอบรายละเอียดของกรมธรรม์อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อ โดยเฉพาะเงื่อนไขสำคัญ เช่น ระยะเวลาคุ้มครอง และเงื่อนไขการจ่ายเงินคืนระหว่างสัญญา

3) ให้ชำระเบี้ยประกันภัยตามจำนวนที่ระบุในใบแจ้งหนี้ (Invoice) ที่ออกโดยบริษัทประกันภัยเท่านั้น

4) ให้ใช้ช่องทางชำระเงินที่บริษัทประกันภัยกำหนดอย่างเป็นทางการ เช่น Mobile Banking, QR Payment หรือช่องทางการรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นของบริษัทประกันภัย และให้หลีกเลี่ยงการชำระเงินค่าเบี้ยประกันภัยด้วยเงินสดให้แก่บุคคลที่เป็นคนกลางประกันภัยโดยตรง (ตัวแทน/นายหน้า) ให้เป็นผู้รับชำระแทน เพื่อป้องกันเกิดความเสี่ยงที่อาจทำให้ประชาชนไม่ได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยอย่างครบถ้วน

สำนักงาน คปภ. ขอย้ำถึงความสำคัญของการตรวจสอบข้อมูลและการชำระเบี้ยประกันภัยผ่านช่องทางที่ได้รับการรับรองจาก บริษัทประกันภัย เพื่อป้องกันความผิดพลาดในการทำธุรกรรมและเพื่อให้ประชาชนได้รับสิทธิประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัยอย่างครบถ้วน