12Tees ผู้ผลิตยูนิฟอร์ม บนแพลตฟอร์มออนไลน์เบอร์ 1 ของไทย เทคสตาร์ทอัพที่ปั้นธุรกิจยูนิฟอร์มให้เป็นNew S-Curve ธุรกิจผลิตเครื่องแบบหรือชุดยูนิฟอร์มถือเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูงในสายตาของสถาบันการเงิน การจะขอสินเชื่อดูจะเป็นเรื่องยาก นี่คือหัวอกของธุรกิจที่ใกล้จะเรียกว่า Sunsetหรืออาทิตย์อัสดง !!
12Tees (วันทูทีส์) ผู้ผลิตและจำหน่ายยูนิฟอร์มครบวงจรอันดับหนึ่งในไทยภายใต้การนำของ พงศ์พันธ์ ขุนเที่ยงธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีมีนาว จำกัด ก็มิได้อยู่ในข้อยกเว้นแต่ประการใด ก้าวย่างที่เข้ามาในธุรกิจนี้อาศัยฐานจากธุรกิจครอบครัวที่เป็นผู้ส่งออกเสื้อผ้าและฐานความรู้ด้านวิศวะ คอมพิวเตอร์ ทำให้เขาตัดสินใจเป็นเทคสตาร์ทอัพที่ใช้ความเจ็บปวดหรือ Pain Point ของลูกค้าที่อยากผลิตชุดยูนิฟอร์มมาปั้นแพลตฟอร์มเพื่อออกแบบได้อย่างเฉพาะเจาะจง (Customize) บนโลกออนไลน์รับกระแส 4.0ในยุคธุรกิจไร้พรมแดน
แพลตฟอร์มที่ลูกค้าสามารถออกแบบยูนิฟอร์มได้เองนี้ละที่ทำให้ยอดรายได้ของ 12Teesทะยานจาก 1ล้านเมื่อ 6 ปีก่อนกลายเป็น 150ล้านในปี 2561 นี้ แล้วนี่จะไม่ใช่ New S-Curve ที่เทคสตาร์ทอัพแห่งนี้ต่อยอดให้กับลมหายใจของธุรกิจยูนิฟอร์มละหรือ?
——————————
สาเหตุที่คิดปั้น 12Tees (วันทูทีส์) ให้เป็นแพลตฟอร์มออกแบบชุดยูนิฟอร์มทางออนไลน์รายแรกในไทย คือ อะไร
เนื่องจากฐานเดิมของธุรกิจครอบครัวเป็นธุรกิจค้าส่งเสื้อผ้าที่ประตูน้ำและโบ๊เบ๊มายาวนานมากกว่า 20 ปี เวลาจะสกรีนเสื้อเราต้องส่งงานข้างนอก ดังนั้น ช่วงเริ่มแรกเมื่อ 6 ปีก่อน เราจึงเลือกที่จะทำธุรกิจสกรีนเสื้อก่อน โดยมีลูกค้ารายใหญ่เป็นธุรกิจครอบครัวของเราเอง แต่การที่มีลูกค้ารายเดียวคงไม่โอเคกับการทำธุรกิจ ตอนนั้นจึงคิดว่า ด้วยฐานความรู้ทางทั้งทางด้านวิศวะ คอมพิวเตอร์ในระดับปริญญาตรีและโทของผมน่าจะเอื้อกับการทำธุรกิจทางออนไลน์ ตอนนั้นเราก็เริ่มทำเว็บไซต์และหาลูกค้าทางออนไลน์ ซึ่งผลตอบรับก็ดี ลูกค้าเยอt ประกอบกับตอนนั้นมีลูกค้ามีคำถามกลับมาว่า ทำเสื้อยืดด้วยมั้ย ทำเสื้อโปโลด้วยมั้ย ฯลฯ
นี่จึงเป็นที่มาที่ทำให้เราทำสินค้า เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดด้วย เพราะถ้าจะขายงานสกรีนเสื้อ แต่ต้องหาเสื้อก็ลำบาก
ตอนที่เริ่มทำออนไลน์เราได้ไอเดียจากที่ไหนมาก่อนหรือเปล่า
จริงๆ แล้วในต่างประเทศมีเว็บเกี่ยวกับการผลิตเสื้อแบบนี้บนออนไลน์แล้วและทันสมัยมากกว่าไทยมาก ซึ่งขณะนั้นถึงขนาดให้บริการออกแบบบนออนไลน์บอกได้เลยว่าไม่ค่อยมี นี่จึงทำให้ผมออกแบบโปรแกรมโดยการจับมือกับสตาร์ทอัพที่เป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์ (Software Developer) เพื่อให้บริการออกแบบผ่านทางออนไลน์ หรือที่เราเรียกว่า Online Designer
เราโดดเด่นในช่วงนั้น เพราะไม่มีธุรกิจรายไหนที่มีโปรแกรมออกแบบ ที่สำคัญความต้องการลึกๆ ของลูกค้ายุคนี้รวมทั้งคนไทยด้วย คือ ชอบที่จะออกแบบเอง ซึ่งการออกแบบเองนี้ก็ทำให้เกิดความภาคภูมิใจว่า ตนเองสามารถออกแบบได้ด้วย แล้วการมีตัวตนของ 12Tees บนออนไลน์ก็ทำให้ลูกค้าทราบและยอมรับถึงตัวตนของเรา อีกทั้งทำให้เกิดความเชื่อถือด้วย
จุดแข็งของแพลตฟอร์ม 12Tees คืออะไรและถือว่าตอบโจทย์ของตลาดหรือยัง
จุดแข็งที่สำคัญ คือ ปัจจุบันเราเป็นรายแรกและรายเดียวในประเทศไทยที่สร้างแพลตฟอร์มการออกแบบยูนิฟอร์มผ่านระบบออนไลน์ เพื่อให้ลูกค้าได้เปิดประสบการณ์การมีส่วนร่วมในการออกแบบยูนิฟอร์มที่หลาก หลายด้วยตัวเอง เพื่อตอบสนองความต้องการอย่างแท้จริงของลูกค้าแบบเฉพาะเจาะจง (Customize)เนื่องจากเราไม่ได้ต้องการแค่เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายยูนิฟอร์ม แต่เราตั้งใจที่จะสร้างระบบและเครื่องมือที่จะช่วยให้ทุกธุรกิจมียูนิฟอร์มของตัวเองได้อย่างดีที่สุด ง่ายที่สุดทางออนไลน์ ด้วยราคาที่ไม่แพง อีกทั้งสามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ได้ทันที สะดวก รวดเร็ว ยกตัวอย่าง ปริมาณการสั่งซื้อขั้นต่ำที่เรารับ 30 ตัวจะใช้ระยะเวลาการผลิต – ส่งมอบประมาณ 18 วัน หรือในกรณีที่สั่งทำหลายพันตัวอย่างสโมสรฟุตบอลศรีสะเกษจำนวน 4,000 ตัวจะใช้เวลาประมาณ 45 วัน
นอกจากนี้ เรายังมีบริการออกแบบยูนิฟอร์มในองค์กร ตามโครงสร้างองค์กรที่มีหลายระดับชั้นและตามลักษณะงานด้วย เช่นยูนิฟอร์มสำหรับผู้บริหาร พนักงาน ตลอดจนพนักงานส่วนหน้า ฯลฯ ที่จะต้องมียูนิฟอร์มที่มีรายละเอียดหรือแบบที่แตกต่างกันด้วย
ที่สำคัญ จากประเภทสินค้าที่มีอย่างหลากหลายทั้งเสื้อเชิร์ต เสื้อยืด เสื้อโปโล จนถึงรายละเอียดของสินค้าที่ทำให้งานดีไซน์แตกต่างกันออกไปอย่างเช่น แบบสาบเสื้อ แบบปก แบบตะเข็บ ฯลฯ ที่มีหลาย SKUซึ่งทางเราจะอัพเดทแบบใหม่ๆ ตลอดเวลา หรือแม้แต่เนื้อผ้าสีสันต่างๆ ที่มีทั้งสีแบบมาตรฐานหรือสีพิเศษที่ต้องให้โรงงานผลิตพิเศษจากห้องแล็บก็สามารถทำให้ได้
ผมเชื่อว่า นี่คือจุดแข็งที่เรามีอย่างหลากหลายจริงๆ เมื่อเทียบกับคู่แข่งขันในตลาด
ในกระบวนการสั่งจ้าง ลูกค้าจะมั่นใจได้อย่างไรว่า ไม่มีข้อบกพร่อง (Defection) และผิดเพี้ยนไปจากที่คาดไว้ เนื่องจากเป็นการสั่งซื้อและออกแบบทางออนไลน์
ในกระบวนการทำงานเราต้องให้ความมั่นใจกับลูกค้าได้ว่า จะได้สินค้าตรงตามสเปค ด้วยการให้ลูกค้าปรู๊ฟสินค้าถึง 3 รอบตั้งแต่อาร์ตเวิร์ค, การปรู๊ฟลายปัก, การปรู๊ฟตัวอย่างที่เป็นตัวจริง (ม็อคอัพ) แล้วถ้าลูกค้ามีเวลาคอยก็จะได้เห็นตัวอย่างจริงๆ ด้วย ซึ่งตรงนี้ เรามีบริการส่งตัวอย่างฟรี
นอกจากนี้ เรามีการบริการเพิ่มเติมสำหรับการสั่งซื้อสั่งจ้างที่เกิดขึ้นแล้ว ด้วยการให้สินค้าเพิ่มเติมสำหรับเผื่อเหลือเผื่อเป็นสินค้าสำรองอีก 3-5% อย่างการสั่งผลิต 100 ตัวก็จะได้สินค้าสำรองเพิ่มอีก 5 ตัวเป็น 105 ตัว เป็นต้น เนื่องจากจริงๆ แล้วในสายการผลิตเราจะต้องผลิตเผื่อการคัดคุณภาพหรือคิวซีอยู่แล้ว
ที่สำคัญ เรายังรับประกันหลังการขายและระหว่างทางอีกด้วย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้ามั่นใจว่า สินค้าที่ได้รับจะไม่ผิดแปลกไปจากที่ตนเองอยากจะสั่งหรือต้องการ ขณะเดียวกัน ก็มีการรับประกันสินค้า 60 วันในกรณีที่ลูกค้าไม่พึงพอใจกับสินค้าที่ได้รับก็สามารถส่งกลับมาที่บริษัทได้ ซึ่งเงื่อนไขนี้มาจากความเข้าใจฟากของลูกค้าที่คงผจญภัยกับการสั่งซื้อสั่งจ้างจากที่อื่นมาจึงต้องการความมั่นใจตรงนี้ ซึ่งเราให้ได้ เนื่องจากเชื่อว่า จากกระบวนการทำงานของเราจะทำให้เรารับมือกับปัญหานี้ได้
จาก 6 ปีที่อยู่ในธุรกิจนี้ คิดว่า อะไรที่พอจะเป็นเครื่องชี้วัดความสำเร็จของ 12 Tees
ถ้าในแง่จำนวนลูกค้าก็ต้องบอกว่า เราเริ่มจากพนักงานคนเดียว ลูกค้ามีรายเดียวคือธุรกิจครอบครัวของเราเอง ถึงวันนี้ เรามีพนักงาน 40 คน มีฐานลูกค้าทั้งหมดประมาณ 25,000 รายและส่งออกไปขายในต่างประเทศ อย่างอเมริกา ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย แล้วในช่วงมกราคม –กุมภาพันธ์ 2561 รามีลูกค้าใหม่อีกประมาณ 361 ราย
ลูกค้าที่เป็นองค์กรขนาดใหญ่ระดับประเทศของเรา อาทิ เอสซีจีกรุ๊ป, การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย, แบตเตอรี่ 3K, แอร์ยอร์ค, บิวติดริ๊งก์, ทรู, ทีโอที, การไฟฟ้า, การประปา ฯลฯ แต่ทั้งนี้ ชื่อหน่วยงานที่กล่าวถึงบางแห่งไม่ได้จ้างเราทั้งองค์กร แต่จ้างเราเฉพาะส่วน เฉพาะแผนกก็มี
เมื่อพิจารณาในส่วนของรายได้ ตรงนี้ผมว่าชัดเจน เพราะแรกก่อตั้งเมื่อ 6 ปีก่อนที่มีลูกค้ารายเดียวนั้น เมื่อดูจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยอย่างมีนัยสำคัญ จะเห็นได้ว่า ฐานธุรกิจเราเพิ่มขึ้น โดยในปี 58 เรามีรายได้กว่า 30 ล้านบาท ขณะที่ปี 59 มีรายได้ 40 ล้านบาท, ปี 60 – 50 ล้านบาท และปี 61 นี้ละที่รายได้เราคาดการณ์ว่า รายได้ของน่าจะได้ประมาณ 150 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 3 เท่า เนื่องจากเฉพาะช่วงช่วงมกราคม –กุมภาพันธ์ 2561 ยอดรายได้ของเราก็เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าแล้ว
ในส่วนของการผลิต เราขยายกำลังการผลิตที่สามารถผลิตเสื้อได้มากกว่า1แสนตัวต่อเดือนและส่งยูนิฟอร์มไปสู่ตลาดแล้วมากกว่า 4 ล้านตัว ทั้งนี้ เราตั้งเป้าการผลิตไว้ที่ 2 แสนตัว/เดือน แต่เราก็คงไม่ได้ใช้กำลังการผลิตเต็มศักยภาพ เนื่องจากเราก็มีการบริหารจัดการกำลังการผลิตด้วยระบบที่เราดูแลและให้พันธมิตรที่เป็นเอาท์ซอร์ส (Outsource) ทั้งโรงงานขนาดเล็ก-ใหญ่ที่มีอยู่ 50-60 รายมีงานทำอย่างต่อเรื่อง
ในฐานะที่เป็นผู้นำองค์กร12Teesมองแผนธุรกิจของตนเองอย่างไรบ้าง
แผนในระยะสั้นก็คือ ในปี 2562 เรามีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตและมีเป้าหมายที่จะขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มประเทศต่างๆ ในตลาด AEC
แต่สำหรับปีนี้เรากำลังพัฒนาระบบหลังบ้านของเราให้นิ่ง โดยก่อนหน้านี้เราได้ใช้ ERP (Enterprise Resource Planning)เพื่อดูแลระบบการผลิตทั้งบริษัท รวมทั้งเพื่อควบคุมระบบการผลิตและเพื่อให้เห็นภาพรวมของระบบ นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถเข้ามาดูสถานการณ์สั่งซื้อ การผลิตของตนเองได้ทางออนไลน์ เพียงแค่กรอกอีเมล, ใบเสนอราคาเท่านั้น
ส่วนเป้าหมายในระยะยาว เราก็ตั้งเป้าที่จะเติบโตในตลาดโลก ซึ่งตอนนี้เราก็มีฐานลูกค้าจากออสเตรเลียอยู่พอสมควร เนื่องจากผมเรียนปริญญาโทจากออสเตรเลียจึงขยายตลาดจากตรงนี้ก่อนและตลาดส่งออกในอนาคตที่จะเพิ่มเติมเข้ามาคือกลุ่มตลาดยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลีและประเทศที่มีโครงสร้างค่าจ้างแรงงานสูง
12Tees ขยายตลาดไปยังต่างประเทศมากขึ้น ได้แก่ ออสเตรเลีย อังกฤษ อเมริกา ปัจจุบัน 12Tees มีฐานลูกค้าที่ออสเตรเลียมากกว่า 100 ราย สั่งซื้อเสื้อโปโล ดีไซด์ผ่านหน้าเว็บไซด์และเป้าหมายต่อไปจะโฟกัสไปที่ตลาดอเมริกามากขึ้น และตั้งเป้าอีกว่าภายในปี 2562 สัดส่วนฐานลูกค้าจะเปลี่ยนไปโดยตลาดในประเทศและตลาดส่งออกจะมีสัดส่วนตลาดละ50% เท่ากัน
ตลาดต่างประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เพราะเราสามารถตอบโจทย์ที่ลูกค้าต้องการได้ครอบคลุม ยกตัวอย่างสิ่งที่เรามีให้แต่ในประเทศเขาไม่มี เช่น ความได้เปรียบเรื่องของการสั่งผ้าและการหาช่างเย็บ หรือถ้ามีราคาก็สูงมากอาจจะราคา 700-800 บาท เมื่อเทียบกับการสั่งยูนิฟอร์มจาก 12Tees ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ลูกค้าสามารถออกแบบได้เอง ตรงตามแบบที่ต้องการ ถูกใจ และราคาถูกกว่า ตัวละประมาณ 200-400 บาท ถ้าคิดราคารวมขนส่งแล้วไม่เกิน 500 บาท ต่อ ตัว ส่งขั้นต่ำ 30 ตัว ขึ้นไป”
ส่วนราคาเสื้อยืด ตัวละ 100 บาท ต่อ ตัว เสื้อโปโลตัวละ 200บาท ต่อ ตัว สั่งเกิน 8,000 บาท ส่งฟรี แล้วแต่โปรโมชั่นของแต่ละเดือน
สำหรับสิ่งที่ลูกค้าได้รับนั้น เป็นการมอบสิ่งที่ดีให้ลูกค้าอย่างคุ้มค่าที่สุด เพราะจะได้รับทั้งสินค้าราคาถูกที่สามารถออกแบบเองได้ตามที่ต้องการ ยังไม่รวมถึงความสะดวกสบายจากการสั่งสินค้าทางออนไลน์ อย่างไรก็ตามในปี 2561 ยอดขายของบริษัทอยู่ที่ 150ล้านบาท และภายใน 5ปี ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 35เท่า หรือ 3,000 ล้านบาท
นอกจากฐานลูกค้าที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และ 12Tees ได้รับการยอมรับจากกลุ่มทุนการ์เมนต์รายใหญ่ให้ความสนใจเข้ามาร่วมทุนในการขยายธุรกิจอีกด้วย 12Tees ยังได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า องค์กรขนาดใหญ่ทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เข้ามาสั่งผลิตยูนิฟอร์ตจาก 12Teesอย่างมาก อาทิ ปตท.,ยอร์ค,แอร์เอเชีย,การไฟฟ้าฝ่ายผลิต,การประปานครหลวง เป็นต้น
ที่ผ่านมายึดหลักการดำเนินธุรกิจของรัชการลที่9 คำสอนที่ว่า “คิดจะทำการงานใด เราต้องไม่หยุดพัฒนาตัวเราเอง และไม่หยุดพัฒนาธุรกิจ”จนทำให้ธุรกิจเติบโตและได้รับการยอมรับจากลูกค้า
ผู้เขียน จุฑาทิพ อิงวัฒนโภคา