“วาโก้” ในฐานะผู้นำผลิตภัณฑ์ชุดชั้นใน ที่มุ่งมั่นสู่ความเป็นผู้เชี่ยวชาญการค้าธุรกิจชุดชั้นในสตรีครบวงจรระดับชั้นนำของโลก ให้ความสำคัญกับสุขภาพของผู้หญิงมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการรณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับมะเร็งเต้านมมาอย่างยาวนานถึง 25 ปี ด้วยหวังให้ผู้หญิงไทยมีความรู้ความเข้าใจและสามารถตรวจพบความผิดปกติได้ตั้งแต่เริ่มมีอาการ เพื่อเข้ารับการรักษาได้อย่างทันท่วงที
เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) ได้จัดงาน “วาโก้โบว์ชมพู สู้มะเร็งเต้านม” ปีที่ 25 โดยมี นางสาวการุณี สุหร่าย กรรมการบริษัทและกรรมการสายงานสื่อสารองค์กรและกิจกรรมเพื่อสังคม ร่วมกับ นพ.พรเทพ แซ่เฮ้ง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ และนางสาวสุพรทิพย์ ช่วงรังษี ประธานกรรมการมูลนิธิรักษ์ไทย ร่วมกันเปิดงาน ณ บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน)

ภายในงาน นายแพทย์กำพล รัชวรพงศ์ แพทย์กลุ่มงานศัลยกรรม โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ ได้บรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับมะเร็งเต้านม จากนั้นทีมแพทย์และพยาบาลได้ฝึกสอนการตรวจเต้านมด้วยตนเองและให้บริการตรวจคัดกรองเบื้องต้นแก่ผู้เข้าร่วมงานกว่า 100 คน ซึ่งประกอบด้วยพนักงานของบริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) สมาชิกชุมชนเขตบางคอแหลม และหน่วยงานพันธมิตร อาทิ ตัวแทนจากศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ เขตยานนาวา ตัวแทนจากสำนักงานเขตสาทร และตัวแทนพนักงานจาก ขสมก.
โครงการ “วาโก้โบว์ชมพู สู้มะเร็งเต้านม” ยังคงมุ่งมั่นให้ความรู้และตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชนอย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมแล้วกว่า 3,000 คน และในปีนี้ ได้ขยายการดำเนินงานร่วมกับมูลนิธิรักษ์ไทย ไปยัง 4 จังหวัดในภาคตะวันออก ได้แก่ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด เพื่อให้ความรู้เรื่องมะเร็งเต้านมในวงกว้างมากขึ้น
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ไทยวาโก้ ได้ริเริ่มกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมมาโดยตลอด เช่น การจัดซื้อรถเอกซเรย์เต้านมเคลื่อนที่คันแรกของประเทศไทยให้กับมูลนิธิถันยรักษ์ เพื่อเพิ่มโอกาสในการตรวจคัดกรองในพื้นที่ห่างไกล การมอบทุนสนับสนุนให้กับโรงพยาบาลต่าง ๆ เพื่อจัดซื้อเครื่องมือที่ทันสมัย กิจกรรม Hat from Heart เพื่อมอบหมวกเป็นกำลังใจให้กับผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากการทำเคมีบำบัด รวมถึงการมอบ Balancing Bra และเต้านมเทียม เพื่อให้ผู้ป่วยที่เข้ารับการผ่าตัดสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมั่นใจ
แม้ว่ามะเร็งเต้านมจะสามารถรักษาให้หายขาดได้หากตรวจพบตั้งแต่ระยะเริ่มต้น แต่ยังมีผู้หญิงอีกจำนวนมากที่ขาดความรู้ในเรื่องดังกล่าว ทำให้โรคลุกลามและเสียชีวิตในที่สุด การให้ความรู้และฝึกการตรวจเต้านมด้วยตนเองจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งเต้านมได้อย่างยั่งยืน