SCBAM ส่งกองทุน #SCBDLITE ลงทุนเชิงรุกตราสารหนี้คุณภาพทั่วโลก ลุยภารกิจสร้างโอกาสรับผลตอบแทน ปรับพอร์ตยืดหยุ่นพร้อมรับทุกสภาวะตลาดพร้อมเสนอขาย 17 – 23 มิ.ย. 68
นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน #บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนไทยพาณิชย์จำกัด หรือ SCBAM เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกในช่วงกลางปี 2568 แสดงสัญญาณการเปลี่ยนผ่านที่น่าสนใจ โดยสหรัฐฯ กำลังเข้าสู่ภาวะ Soft Landing อย่างระมัดระวัง ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในครึ่งปีหลังหากแรงกดดันเงินเฟ้อคลี่คลาย ซึ่งเปิดโอกาสให้ตลาดตราสารหนี้กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง ในขณะที่ เศรษฐกิจไทยเผชิญแรงกดดันใหม่จากการปรับลดประมาณการ GDP ปี 2568 ลงโดยหน่วยงานต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ อันเนื่องมาจากอุปสงค์ภายนอกที่อ่อนแอ ความเปราะบางของภาคส่งออก และผลกระทบจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ แม้ภาคการท่องเที่ยวและมาตรการกระตุ้นภาครัฐจะยังเป็นแรงพยุงหลัก อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ ทำให้ กนง. ปรับลดดอกเบี้ยลงมาอยู่ที่ 1.75% และอาจลดลงอีกเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ

กลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ควรเน้นการกระจายความเสี่ยงระหว่างตลาดพัฒนาแล้วและตลาดเกิดใหม่ พร้อมจับตานโยบายภาษีของสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลต่อทิศทางเงินเฟ้อและดอกเบี้ย โดย SCBAM มองเป็นจังหวะเข้าลงทุนสะสมตราสารหนี้ เพื่อล็อคอัตราผลตอบแทน Bond Yield ในปัจจุบัน และเพื่อรองรับสภาวะตลาดที่ยังมีความผันผวนและหาโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ SCBAM จึงเปิด กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Dynamic Bond Lite หรือ SCBDLITE กองทุนตราสารหนี้คุณภาพ ที่มีกลยุทธ์การลงทุนเชิงรุกโดยไม่ยึดติดกับดัชนีอ้างอิงใด สามารถปรับพอร์ตลงทุนได้อย่างยืดหยุ่นเพื่อกระจายเสี่ยงและหาโอกาสสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่าได้ในทุกสภาวะตลาด พร้อมเปิดเสนอขายครั้งแรกวันที่ 17 – 23 มิถุนายน 2568 นี้กองทุน SCBDLITE เน้นลงทุนตราสารหนี้ภาครัฐ-เอกชนคุณภาพดีระดับ Investment Grade ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เงินฝาก และตราสารอนุพันธ์ โดยใช้การวิเคราะห์จากปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental) เพื่อเฟ้นหาตราสารหนี้ที่มีมูลค่าน่าสนใจ (Valuation) และ/หรือมีราคาต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน ผ่านการเปรียบเทียบอัตราผลตอบแทน (Yield) และส่วนต่างของความเสี่ยงด้านเครดิต (Credit Spread) เพื่อสร้างโอกาสในการเพิ่มผลตอบแทนให้พอร์ตลงทุน โดยกองทุนให้ความสำคัญกับการรักษาสภาพคล่องของพอร์ตลงทุน การจัดสัดส่วนการลงทุนให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด และการติดตามความเสี่ยงอย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งมีการบริหารดูเรชั่นตราสารที่ยืดหยุ่นระหว่าง -5 ปี ถึง 5 ปี และกระจายการลงทุนในระดับประเทศ ภูมิภาค และอุตสาหกรรมให้สอดคล้องกับแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ โดยภาพรวมแล้วในภาวะตลาดปกติ พอร์ตจะมีดูเรชั่นของตราสารที่ประมาณ 3 – 4 ปี และหากตลาดทุนอยู่ในช่วงขาขึ้น (ตลาดกระทิง) และอัตราดอกเบี้ยนโยบายมีแนวโน้มปรับลด กองทุนจะปรับเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในตราสารระยะยาวมากขึ้นเพื่อรับประโยชน์จากการปรับตัวของราคา ในทางกลับกัน หากตลาดมีความผันผวนหรืออยู่ในภาวะขาลง (ตลาดหมี) กองทุนจะปรับลดสัดส่วนตราสารระยะยาวและเพิ่มสัดส่วนตราสารระยะสั้นทดแทน เพื่อรักษาเสถียรภาพของพอร์ตและสร้างผลตอบแทนรวมที่เหนือกว่าตลาดในทุกสภาวะนางนันท์มนัส เพิ่มเติมว่า “จากกระแสตอบรับที่ดีของกองทุน #SCBDBOND ซึ่งเปิดตัวเมื่อต้นปี 2567 ด้วยกลยุทธ์การลงทุนในตราสารหนี้เชิงรุกแบบยืดหยุ่น ซึ่งมีกรอบดูเรชั่นกว้างระหว่าง -10 ถึง 10 ปี โดยปัจจุบันกองทุนมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิกว่า 25,000 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 16 มิถุนายน 2568) SCBAM จึงได้ต่อยอดความสำเร็จด้วยการเปิดตัวกองทุน SCBDLITE เพื่อเพิ่มทางเลือกการลงทุนตราสารหนี้คุณภาพที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยมีกรอบดูเรชั่นที่แคบลงเหลือ -5 ปี ถึง 5 ปี เพื่อช่วยจำกัดความผันผวนของมูลค่าหน่วยลงทุนให้ต่ำลง แต่ยังคงมีความคล่องตัวในการปรับพอร์ตและกระจายความเสี่ยงตามสภาวะตลาด ผ่านการใช้ Scoring Model ที่พิจารณาปัจจัยหลัก 3 ด้าน ได้แก่ ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental), การวิเคราะห์เชิงเทคนิค (Trading) และมูลค่าตราสาร (Valuation) ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทั้งเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ เพื่อกำหนดกลยุทธ์ด้านอัตราดอกเบี้ยและบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนอย่างเหมาะสม ซึ่งจะทำให้มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีได้จากการลงทุนระยะยาว หรือ 12 เดือนขึ้นไป นอกจากนี้ SCBAM ยังมีกองทุนตราสารหนี้ที่ครอบคลุมกรอบระยะเวลาการลงทุนที่หลากหลาย เพื่อเป็นทางเลือกในการกระจายความเสี่ยงและสร้างโอกาสในการรับผลตอบแทนที่เหมาะสมกับสภาวะตลาดในแต่ละช่วงเวลา”
กองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ และผลการดำเนินงานในอดีต มิได้ยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนตัดสินใจลงทุน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการที่ บลจ.ไทยพาณิชย์ หรือติดต่อหมายเลข 02-777-7777 หรือผู้สนับสนุนการขายทุกราย หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://scbam.info/4n2ZYpF สนใจลงทุนด้วยตนเองผ่านแอปพลิเคชัน SCBAM Fund Click หรือเปิดบัญชีลงทุนผ่านแอปพลิเคชัน SCBAM Fund Click ได้ที่ https://scbam.info/3SdxXz4