บลจ.กสิกรไทย ชี้จากกรณีศาลสหรัฐฯ ระงับภาษีทรัมป์ ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกตอบรับเชิงบวก พร้อมแนะนำกองทุน K-GPINUH สร้างกระแสเงินสดสม่ำเสมอ เน้นกลยุทธ์ที่แตกต่างจากกองทุนหุ้นโลกทั่วไปด้วยการสร้าง “รายได้ประจำ”
จากการขาย Call Option ควบคู่เงินปันผล พร้อมลงทุนในหุ้น Defensive
ทั่วโลก
นายวจนะ วงศ์ศุภสวัสดิ์, CFA กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน
กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า จากกรณีที่ศาลสหรัฐฯ ได้มีคำวินิจฉัยสำคัญที่ระบุว่า พระราชบัญญัติอำนาจทางเศรษฐกิจในภาวะฉุกเฉินระหว่างประเทศ (IEEPA) ไม่ได้ให้อำนาจประธานาธิบดีในการเรียกเก็บภาษีอย่างไม่จำกัด ซึ่งส่งผลให้คำสั่งเก็บภาษีที่เคยถูกท้าทายภายใต้กฎหมายนี้ถูกยกเลิกไป การตัดสินดังกล่าวกระทบโดยตรงต่อนโยบายการค้าของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ โดยเฉพาะการเก็บภาษีนำเข้าสูงจากประเทศคู่ค้าที่มีดุลการค้าเกินดุลกับสหรัฐฯ
แม้ว่าทำเนียบขาวจะสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ แต่ตลาดการเงินได้ตอบรับเชิงบวกต่อสถานการณ์นี้สะท้อนความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นจากการลดลงของความไม่แน่นอนทางการค้า
โดยดัชนี Nikkei 225 และ Kospi ปรับเพิ่มขึ้น 2.43% และ 2.15% ตามลำดับขณะที่ S&P 500 Futures และ Nasdaq Futures ของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น 0.4%และ 0.39% (ข้อมูล ณ วันที่ 29 พ.ค. 68)
อย่างไรก็ตาม คาดว่า ตลาดหุ้นยังคงมีความผันผวนต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้ บลจ.กสิกรไทย จึงแนะนำ กองทุนเปิดเค พรีเมียมอินคัมหุ้นโลก UH (K-GPINUH) ซึ่งมี 2 รูปแบบ ได้แก่ K-GPINUH-A(A) สำหรับเน้นการเติบโตระยะยาว และ K-GPINUH-A(R) สำหรับเน้นกระแสเงินสดรายเดือนสูงสุด 12 ครั้งต่อปี
นายวจนะกล่าวต่อไปว่า กองทุน K-GPINUH โดดเด่นด้วยการกระจายลงทุนในหุ้นคุณภาพสูงทั่วโลก ทั้งในสหรัฐฯ ยุโรปและญี่ปุ่น เน้นหุ้นกลุ่มธุรกิจที่ไม่ผันผวนตามวัฏจักรเศรษฐกิจ (Defensive Stocks) เพื่อลดความผันผวนของพอร์ตให้ต่ำกว่าดัชนีหุ้นโลกอย่าง MSCI WorldIndex นอกจากกำไรจากการลงทุนในหุ้นแล้ว กองทุนยังสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มสม่ำเสมอทุกเดือนจากการใช้กลยุทธ์การขาย
“Call Option” แบบรายสัปดาห์ ซึ่งช่วยสร้างกระแสเงินสดแม้ในภาวะตลาดผันผวนหรือปรับตัวลงโดยลงทุนในกองทุนหลัก JPM Global Equity Premium Income Active
UCITS ETF ที่มีประวัติจ่ายปันผลเฉลี่ย 6-7% ต่อปี และด้วยกลไก “Auto
Redemption” ของกองทุน K-GPINUH-A(R) ผู้ลงทุนจะได้รับกระแสเงินสดแบบไม่ถูกหักภาษีเงินปันผลและไม่กระทบเงินต้น
“ถึงแม้ว่าเรื่องภาษี Reciprocal Tariff จะยังทำให้ตลาดหุ้นผันผวนอยู่ โดยทำเนียบขาวยังสามารถยื่นอุทธรณ์คำตัดสินนี้ได้และเรื่องอาจถูกส่งขึ้นไปถึง Supreme Court แต่ตลาดหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยงตอบรับในเชิงบวกแสดงถึง sentiment ของผู้ลงทุนที่ลดความกังวล และผ่อนคลายมากขึ้น เนื่องจากเริ่มมีความชัดเจนขึ้นว่า ภาษีตอบโต้จะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำและตลาดได้รับข่าวไปมากพอสมควร”
นายวจนะกล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุน K-GPINUH เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาความมั่นคงให้กับพอร์ตลงทุน โดยสามารถรับมือความผันผวนได้ดี และมีโอกาสสร้างกระแสเงินสดสม่ำเสมอทุกเดือน ทั้งนี้ ผู้ลงทุนที่สนใจสามารถเริ่มต้นลงทุนเพียง 500 บาท ผ่าน App K PLUS, K-My Funds, Private Banking Group ธนาคารกสิกรไทยและผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน โดยติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนได้ตามช่องทางการลงทุนข้างต้น หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888 ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยงและขอคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน