เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จัดทัพเสริมความแกร่งรับศึกปี 2025 ด้วยการรีฟอร์ม 3 เครื่องยนต์สำคัญ “ปรับพอร์ตธุรกิจ– ปรับโครงสร้างต้นทุนและค่าใช้จ่ายให้เหมาะสม – ปรับโครงสร้างองค์กร” หวังดันให้รายได้องค์กรเติบโต 11% และทำยอดขายแตะ 2.6 หมื่นล้านบาท
นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น หรือ SC ผู้นำการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์คุณภาพสูง และมีนวัตกรรม เปิดเผยว่า
ปี 2024 SC ปรับตัวอย่างรวดเร็ว เพื่อรับมือ 3 ความท้าทายของธุรกิจอสังหาฯ อันได้แก่ หนี้ครัวเรือนสูง, อุปทานล้น, และความเชื่อมั่นต่ำ ด้วยการสะสมที่ดินทำเลคุณภาพรองรับการเติบโต ไม่น้อยกว่า 3 ปี สำหรับพัฒนาอสังหาฯหลากหลาย ที่อยู่อาศัย โรงแรม และ คลังสินค้า ยังยืนยันความแข็งแกร่ง มีสภาพคล่องรองรับการเติบโตมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท พร้อมทั้งมีพันธมิตรร่วมทุนที่แข็งแกร่ง
อย่างไรก็ตาม 3 ความท้าทายดังกล่าวก็ยังดำรงอยู่อย่างต่อเนื่องในปี 2025 และยังมีปัจจัยผันผวนจากภูมิรัฐศาสตร์เพิ่มเติมอีกด้วยนั้น SC ก็มีแผนและเป้าหมายในการดำเนินงานของปีนี้ ด้วยการทำให้ธุรกิจฟื้นตัวแข็งแกร่ง ให้เติบโตทั้งยอดขาย รายได้ และกำไร สภาพคล่องแข็งแกร่ง สัดส่วนหนี้ต่อทุนลดลงอย่างมีนัย และตั้งเป้าขาย2.6 หมื่นล้านบาท (+4% YoY) และ รายได้รวมจากทุกกลุ่มธุรกิจ 2.5 หมื่นล้านบาท (+11% YoY) อีกทั้งลงทุนอย่างต่อเนื่องด้วยงบลงทุน 7,000 ล้านบาท ในธุรกิจหลากหลาย รักษาตำแหน่งผู้นำบ้านเดี่ยว เพิ่มส่วนแบ่งตลาดคอนโด และสัดส่วนกำไรจากอสังหาฯ รายได้ประจำสม่ำเสมอ
3 Reform
ดังนั้น เพื่อรับมือกับความท้าทายดังกล่าว SC จึงได้ปรับตัวอย่างต่อเนื่องด้วยยุทธศาสตร์ #RethinkToReform เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และเติบโตสร้างคุณค่าได้อย่างยั่งยืน นายณัฐพงศ์ กล่าวถึงการปรับตัวครั้งสำคัญของ SC ที่ดำเนินภายใต้กลยุทธ์ 3 Reform อันได้แก่
Reform 1 ปรับพอร์ตโฟลิโอธุรกิจ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม เพื่อกระจายความเสี่ยง เพิ่มความสมดุลของพอร์ตโฟลิโอ มีกำไรจากธุรกิจที่หลากหลายมากขึ้น การลงทุนจะเป็นไปอย่างรอบคอบ ร่วมทุนกับพันธมิตรแข็งแกร่ง และสัดส่วนหนี้ต่อทุนจะลดลงอย่างมีนัยในปีนี้ ผ่าน 3 Engine ได้แก่
- Engine 1 – อสังหาฯ ที่อยู่อาศัยเพื่อขาย แนวราบและคอนโด ประกอบด้วย 1) แนวราบ 12 โครงการ 18,000 ล้านบาท ไฮไลต์คือแบรนด์ใหม่ SONLE บ้านเดี่ยวสไตล์ Sophisticated Modern Tropical ราคาเริ่มต้น 200 ล้านบาท และ บ้านเดี่ยวซีรีส์ใหม่ 2025 จากแบรนด์ Bangkok Boulevard 2) คอนโด 3 โครงการ 1 หมื่นล้านบาท ครบทุกเซ็กเมนต์ ภายใต้แบรนด์ Reference และ COBE ต่อยอดความสำเร็จคอนโด SC สะท้อนจากยอดขาย Reference เอกมัย ที่สร้างยอดขายได้ถึง 80% ในช่วงแรกของการเปิดตัว และจะมีแบรนด์ใหม่เปิดตัวปลายปี ทำเลติดถนนสุขุมวิท ใกล้รถไฟฟ้าพร้อมพงษ์
- Engine 2 – อสังหาฯ สร้างรายได้ประจำ โรงแรม คลังสินค้า อาคารสำนักงาน และอพาร์ตเมนต์ในสหรัฐอเมริกา
- Engine 3 – โอกาสใหม่ ลงทุนในธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตในอนาคต
Reform 2 ปรับโครงสร้างต้นทุนและค่าใช้จ่ายให้เหมาะสม เน้นย้ำคุณภาพสูง นวัตกรรมตอบโจทย์ลูกค้า และ เพิ่มความสามารถในการทำกำไร โดยในปลายปี 2025 SC จะมีจำนวนโครงการรวมทั้งหมด 19 โครงการ จาก 4 ธุรกิจ ได้แก่ โรงแรมรวม 545 ห้อง, คลังสินค้าให้เช่ารวม 2 แสนตารางเมตร, อาคารสำนักงาน 1,2 แสนตารางเมตร และอพาร์ตเมนต์เพื่อเช่าในสหรัฐอเมริกา 5 อาคาร โดยมีไฮไลต์ คือ โรงแรมใหม่ 2 ทำเล เปิดตัวไตรมาส 2/2025 คือ KROMO, Curio Collection by Hilton ทำเลติดถนนสุขุมวิท ตรงข้ามห้าง EmSphere และ The Standard หนึ่งเดียวในพัทยา ติดหาดนาจอมเทียน และคลังสินค้าเพื่อเช่า 3 โครงการใหม่ ในทำเล บางนา กม. 20, แหลมฉบัง และ นิคมอมตะ ชลบุรี
Reform 3 ปรับโครงสร้างองค์กร เพิ่มความคล่องตัว รองรับการเติบโตของธุรกิจที่หลากหลาย และเพิ่มโอกาสเติบโตของพนักงาน
นายณัฐพงศ์ กล่าวสรุปว่า “ปี 2025 ที่ท้าทายนี้ SC จะปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจฟื้นแข็งแกร่งกำไรเติบโต ลงทุนอย่างรอบคอบ และกระจายความเสี่ยงในธุรกิจที่หลากหลาย รักษาความเชื่อมั่นของแบรนด์ผ่านมาตรฐานสินค้าคุณภาพสูงและบริการที่อบอุ่น รวมทั้งตั้งเป้าหมายลด GHG รวมกัน >1 แสนตันคาร์บอน ในปี 2025-2030 เพื่ออนาคตของคนรุ่นต่อไป”
#SCAsset #RethinktoReform #SCBusinessDirection2025