ในงาน THAIFEX – Anuga Asia 2024 อีกหนึ่งไฮไลต์ที่น่าสนใจคือบูธของ บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MK Group ที่นำเสนอความหลากหลายของธุรกิจในเครือเป็นครั้งแรก มาพร้อมกับโซลูชันด้านอาหารครบวงจร (All Food Supply Chain Solutions) ตอบโจทย์ทุกความต้องการของธุรกิจทุกประเภท ครอบคลุมตั้งแต่ B2B ไปจนถึงการค้าปลีก และการส่งออก เปิดโอกาสให้นักลงทุน คู่ค้า ผู้ประกอบการ และผู้ที่สนใจได้ร่วมเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน นับเป็นก้าวสำคัญของ MK Group ที่ต่อยอดจากการเป็นผู้นำธุรกิจเชนร้านอาหารยอดนิยมของไทย
นายฤทธิ์ ธีระโกเมน ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็มเค เรสโตรองค์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “บูธ MK Group ในปีนี้ นอกจากจะสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ “เติมเต็มความสุขให้ทุกครอบครัว” (Nourish Happiness in Every Family) ในฐานะเจ้าของแบรนด์ร้านอาหารมากมายที่ครองใจผู้บริโภคมายาวนานแล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพทางธุรกิจของเราที่แตกไลน์ออกไปนอกเหนือเครือร้านอาหาร แต่ครอบคลุมตลอดห่วงโซ่คุณค่าของอุตสาหกรรมอาหารครบวงจร ตลอดจนธุรกิจอื่น ๆ ทั้งในประเทศและพร้อมไปสู่ต่างประเทศ นับเป็นครั้งแรกที่ผู้มาร่วมงานจะได้สัมผัสกับหน่วยธุรกิจใหม่ของ MK Group โดยมีไฮไลต์ที่สำคัญอย่าง การเปิดรับคู่ค้าขยายแฟรนไชส์แบรนด์ร้านอาหารไทยสู่ต่างประเทศ ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมเพื่อสุขภาพ บริการด้านโลจิสติกส์แบบครบวงจรสำหรับธุรกิจทุกประเภท ล้วนแสดงให้เห็นว่าธุรกิจของ MK Group ในวันนี้เรามีมากกว่าแค่เครือร้านอาหารแล้ว”ความน่าสนใจของกลุ่มธุรกิจใหม่เครือ MK Group ล้วนเป็นการต่อยอดจากประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมอาหารที่ยาวนานพร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโต แฟรนไชส์ร้านอาหารไทยพร้อมก้าวไปสู่เวทีโลกถือเป็นโอกาสสำหรับผู้ที่สนใจอยากเป็นเจ้าของธุรกิจร้านอาหารไทยในต่างประเทศ International Franchise หนึ่งในหน่วยธุรกิจของ MK Group พร้อมเปิดรับคู่ค้าที่จะมาร่วมผนึกกำลังขยายสาขา โดยจะช่วยดูแลในทุกขั้นตอนทั้งการวางแผน การฝึกอบรม ไปจนถึงการขนส่งวัตถุดิบ เพื่อคงคุณภาพและมาตรฐานการบริการตามแบบฉบับของต้นตำรับกับ สุกี้ MK Restaurants แบรนด์สุกี้อันดับ 1 ของไทย และร้านแหลมเจริญ ซีฟู้ด แบรนด์อาหารไทยซีฟู้ดที่มีประวัติยาวนาน จึงสามารถมั่นใจในความแข็งแกร่งของแบรนด์ และศักยภาพที่พร้อมจะเติบโตไปด้วยกันกับร้านอาหารในเครือ MK Group โลจิสติกส์ One Stop Services สำหรับธุรกิจทุกประเภทโลจิสติกส์ที่ดีเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญของการทำให้ธุรกิจเติบโตและเดินหน้าได้ ด้วยเหตุนี้จึงนำมาสู่การผนึกกำลังความเชี่ยวชาญของ MK Group ที่มีประสบการณ์อย่างยาวนานในธุรกิจอาหาร กับ Senko Group Holding ผู้นำด้านโลจิสติกส์ในประเทศญี่ปุ่น อันมีจุดแข็งและองค์ความรู้เกี่ยวกับบริการโลจิสติกส์แบบห้องเย็นเพื่อส่งสินค้ามายาวนานกว่า 100 ปี สู่ M-Senko Logistics ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์แบบ One Stop Services สำหรับธุรกิจทุกประเภท รองรับสินค้าทั้ง Food และ Non – Food พร้อมความเชี่ยวชาญในการขนส่งแบบ Cold – chain Logistics ได้ทั่วประเทศไทย โดยมีรถขนส่งทุกอุณหภูมิและทุกขนาด บริการคลังสินค้าคุณภาพสูง (Warehouse) ที่มีระบบจัดเก็บและเบิกจ่ายสินค้าอัตโนมัติด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ศูนย์กระจายสินค้าที่ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ใกล้สนามบินและท่าเรือ รองรับการทำ Forwarding การนำเข้าและส่งออกสินค้าที่ครบทุกความต้องการด้านโลจิสติกส์ พร้อมระบบติดตามการขนส่งแบบเรียลไทม์ตามมาตรฐานสากล ให้บริการขนส่งทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ครอบคลุมพื้นที่ทั้งในเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา สินค้าเพื่อสุขภาพสำหรับทุกคน ที่สร้างรายได้ให้เกษตรกรไทยเพื่อให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจสุขภาพเพิ่มมากขึ้น Mark One Innovation Center ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ เอ็มเค เวลเนส (MK Wellness) สินค้าทางเลือกเพื่อสุขภาพของคนไทย และสนับสนุนเกษตรกรไทย พร้อมเปิดรับตัวแทนจำหน่ายเพื่อขยายตลาดสู่ต่างประเทศ โดยมีสินค้าเพื่อสุขภาพที่หลากหลาย อาทิ นมยูเอชทีและนมอัดเม็ด Memberry ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Memplus และ Fiber Plus เอ็มเค วิตามินกัมมี ผักกรอบเอ็มเคพร้อมทาน เป็นต้น รวมกว่า 30 รายการ มีวางจำหน่ายที่ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต และห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และส่งออกไปยังต่างประเทศแล้ว โดยมีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดอีกมากมาย ภายใต้มาตรฐานการผลิตโดยศูนย์นวัตกรรม ซึ่งวิจัยค้นคว้าร่วมกับมหาวิทยาลัยขอนแก่น, มหาวิทยาลัยเทนเนสซี สหรัฐอเมริกา, สถาบันวิทยาศาสตร์สุขภาพและการกีฬาของมหาวิทยาลัยสึคุบะ ประเทศญี่ปุ่น จึงมั่นใจได้ว่าสินค้าสุขภาพจาก MK Group มีมาตรฐานในระดับสากล และพร้อมกระจายสินค้าไปทั่วโลก เพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพดีจากการบริโภคอาหารที่ดีซอสรสชาติไทยต้นตำรับที่ครองใจผู้บริโภคอย่างยาวนานจากจุดเริ่มต้นของ น้ำจิ้มสุกี้ MK น้ำจิ้มไทยต้นตำรับยอดนิยมของ MK Restaurants สู่ผลิตภัณฑ์น้ำจิ้มสุกี้ MK แบบขวด ชูจุดเด่น ไม่ใส่ผงชูรส สี และสารกันเสีย เก็บได้นาน 1 ปีหากยังไม่เปิดขวด เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคได้รับประทานน้ำจิ้ม MK นอกร้านกับมื้ออร่อยที่หลากหลาย อร่อยได้ทุกที่ เติมสุขได้ทุกเวลา หรือเป็นเครื่องปรุงประกอบอาหารมื้อสำคัญ หลังเปิดตัวได้จัดจำหน่ายที่ร้าน MK ทุกสาขาและร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศไทย พร้อมส่งออกไปเกาหลี อังกฤษ แคนาดา และสหรัฐอเมริกา และตั้งเป้าขยายการเติบโตส่งออกในหลายประเทศทั่วโลก ตลอดจนมุ่งเจาะกลุ่มธุรกิจ HORECA เพื่อผลักดันน้ำจิ้มต้นตำรับของไทยไปสู่ครัวโลก นอกจากยังมีอีก 2 กลุ่มธุรกิจที่ต่อยอดความสำเร็จจากความเชี่ยวชาญในธุรกิจอาหาร คือ บริการ OEM/ODM ภายใต้บริษัท IFS เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่มองหาซัพพลายอาหาร ครอบคลุมสินค้าอาหารหมวด เกี๊ยว, ชุบแป้งทอด, ติ่มซำ, บะหมี่ และอื่น ๆ ตามความต้องการของลูกค้า ให้บริการโซลูชันอาหารครบวงจร ตั้งแต่ให้คำปรึกษา ออกแบบผลิตภัณฑ์ การผลิตและหาบรรจุภัณฑ์ การวิเคราะห์ ทดสอบคุณภาพ ไปจนถึงการจดแจ้งทะเบียนอาหาร และบริการด้านโลจิสติกส์ และ บริการอาหารจากครัวกลางคุณภาพมาตรฐานสากล อย่าง MK Food Service สำหรับลูกค้าองค์กรที่กำลังมองหาบริการอาหารพร้อมทาน ที่มั่นใจได้ในรสชาติ และคุณภาพของอาหาร เหมาะสำหรับลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ สายการบิน โรงพยาบาล โรงเรียน เป็นต้น จากความใส่ใจตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพสูง กระบวนการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัย และควบคุมคุณภาพตามมาตรฐานสากล และความเชี่ยวชาญในธุรกิจอาหาร ทำให้สามารถมั่นใจในคุณภาพของสินค้าและบริการ“ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจอาหารมากว่า 63 ปี กับแบรนด์ร้านอาหารที่หลากหลายครองใจผู้บริโภคอย่างยาวนาน เราจึงมั่นใจในศักยภาพที่พร้อมจะก้าวไปสู่อีกขั้นในการส่งมอบโซลูชันด้านอาหารครบวงจร ตลอดจนการขยายธุรกิจสู่สินค้าและบริการใหม่ ๆ ที่มีคุณภาพ เสริมแกร่งศักยภาพการเติบโตทั้งในไทยและต่างประเทศ เราไม่หยุดที่จะพัฒนา เพื่อสร้างการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืนไปพร้อมกับพันธมิตร คู่ค้า ตลอดจนผู้ประกอบการทุกขนาด” นายฤทธิ์ กล่าวเสริมมาร่วมสร้างโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจไปพร้อมกับ MK Group ที่ในวันนี้เป็นมากกว่าแค่เครือร้านอาหาร ที่บูธ 12YY01 โซน Fine Food อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่นเซ็นเตอร์ ฮอลล์ 12 อิมแพ็คเมืองทองธานี ตั้งแต่วันนี้ – 31 พฤษภาคม 2567 เวลา 10.00 น. – 18.00 น. และสำหรับวันสุดท้ายของงาน วันเสาร์ที่ 1 มิถุนายน 2567 พบกับกิจกรรมพิเศษและการจำหน่ายสินค้าราคาพิเศษเฉพาะในงาน THAIFEX – Anuga Asia 2024 เท่านั้น ตั้งแต่ 10.00 น. – 20.00 น.