คปภ.ลงพื้นที่ทันทีให้ความช่วยเหลือ ด้านประกันภัยกรณีเกิดอุบัติเหตุ “รถกระบะชนกัน” เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 8 บาดเจ็บ 3 คน ที่นราธิวาส

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณีรถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน บฉ 2400 นราธิวาส เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับรถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน บต 4091 นราธิวาส และเสียหลักไปกระแทกกับต้นไม้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 8 ราย และบาดเจ็บ 3 คน เหตุเกิดบริเวณบ้านกูแบบาเดาะ หมู่ที่ 7 ตำบลมะรือโบตก อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2566 นั้น 

เบื้องต้นได้สั่งการให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ บูรณาการร่วมกับสายส่งเสริมและประกันภัยภูมิภาค สำนักงาน คปภ. ภาค 9 (สงขลา) และสำนักงาน คปภ. จังหวัดนราธิวาส ในฐานะเจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ ตรวจสอบการทำประกันภัยพร้อมเร่งอำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับผู้ประสบภัย ตลอดจนติดตามรายงานความเสียหายอย่างเร่งด่วนผ่าน Platform การรายงานข้อมูลกรณีอุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ 

รวมทั้งให้ลงพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับผู้ประสบภัยและครอบครัวอย่างเต็มที่ เพื่อให้ระบบประกันภัยช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม

ทั้งนี้ ได้รับรายงานจากสำนักงาน คปภ. จังหวัดนราธิวาส ว่ารถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน บฉ 2400 นราธิวาส ได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับบริษัท ไทยไพบูลย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) เริ่มต้นคุ้มครองวันที่ 29 มี.ค. 2566 สิ้นสุดวันที่ 20 มิ.ย. 2567 โดยคุ้มครองกรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง 5 แสนบาท/คน กรณีบาดเจ็บสูงสุดไม่เกิน 8 หมื่นบาท/คน กรณีสูญเสียอวัยวะ 2 – 5 แสนบาท/คน 

กรณีทุพพลภาพอย่างถาวร 3 แสนบาทต่อคน และกรณีเข้ารักษาในสถานพยาบาลในฐานะคนไข้ใน จะได้รับค่าชดเชยรายวัน 200 บาท/วัน รวมกันไม่เกิน 20 วัน โดยไม่พบข้อมูลการทำประกันภัยรถภาคสมัครใจ 

ส่วนรถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน บต 4091 นราธิวาส ได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับบริษัท อินทรประกันภัย จำกัด (มหาชน) เริ่มต้นคุ้มครองวันที่ 26 ตุลาคม 2565 สิ้นสุดวันที่ 26 ตุลาคม 2566 โดยคุ้มครองกรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง 5 แสนบาท/คน กรณีบาดเจ็บสูงสุดไม่เกิน 8 หมื่นบาท/คน กรณีสูญเสียอวัยวะ 2 – 5 แสนบาท/คน กรณีทุพพลภาพอย่างถาวร 3 แสนบาท/คน และกรณีเข้ารักษาในสถานพยาบาลในฐานะคนไข้ใน จะได้รับค่าชดเชยรายวัน 200 บาท/วัน รวมกันไม่เกิน 20 วัน โดยไม่พบข้อมูลการทำประกันภัยรถภาคสมัครใจ 

สำหรับการจ่ายค่าสินไหมทดแทนของผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นผู้โดยสารรถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน บฉ 2400 นราธิวาส ทั้ง 7 ราย ในเบื้องต้นครอบครัวผู้เสียชีวิตจะได้รับค่าสินไหมทดแทนจากการประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) รายละ 5 แสนบาท และกรณีของผู้ขับขี่ที่เสียชีวิตเบื้องต้นครอบครัวผู้เสียชีวิตจะได้รับค่าปลงศพจากการประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) จำนวน 3.5 หมื่นบาท 

ทั้งนี้ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดนราธิวาส สำนักงาน คปภ. จังหวัดนราธิวาส ได้ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกประสานงานบริษัทประกันภัยเพื่อให้การจ่ายค่าสินไหมทดแทนเป็นไปอย่างรวดเร็วแล้ว ในส่วนของผู้บาดเจ็บ 3 ราย ที่ถูกนำส่งเข้ารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ. จังหวัดนราธิวาส ได้ประสานกับบริษัทประกันภัยเข้าไปอำนวยความสะดวกและรับรองสิทธิค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้นกับโรงพยาบาลโดยตรง โดยผู้บาดเจ็บไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาแต่อย่างใด 

นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ. จะบูรณาการการทำงานร่วมกับสมาคมประกันชีวิตไทย และสมาคมประกันวินาศภัยไทย เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติมว่า ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บในอุบัติเหตุครั้งนี้มีการทำประกันภัยประเภทอื่น ๆ ไว้ด้วยหรือไม่ หากตรวจสอบพบภายหลังว่าผู้ประสบภัยมีการทำประกันภัยประเภทอื่น ๆ เพิ่มเติมอีก ก็จะช่วยประสานงานให้ได้รับค่าสินไหมทดแทนเพิ่มเติมตามสัญญาประกันภัยที่ระบุไว้

สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและมีความห่วงใยต่อผู้บาดเจ็บ จากอุบัติเหตุครั้งนี้ พร้อมจะดูแลในด้านประกันภัยอย่างเต็มที่ ทั้งนี้อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลาและกับทุกคน โดยเฉพาะการเดินทางในช่วงฝนตก 

จึงขอให้ผู้ใช้รถตรวจสอบสภาพความพร้อมของรถ รวมทั้งเมาแล้วต้องไม่ขับรถ ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด และเพื่อความอุ่นใจ ควรให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยเพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงภัย โดยเฉพาะการประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) การประกันภัยรถภาคสมัครใจ และการประกันภัยประเภทอื่น ๆ เพื่อให้ระบบประกันภัยช่วยบริหารความเสี่ยงและเยียวยาความสูญเสียต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมด้านประกันภัย ติดต่อสายด่วน คปภ. 1186” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย