วงการธุรกิจความงามในไทยยังคงเติบโตขึ้น 2.5 % นับจากปี 2563-2565 เนื่องจากการเปิดประเทศทำให้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินำพาเม็ดเงินเข้ามาขับเคลื่อนเศรษฐกิจในไทยก้าวหน้าไปได้อย่างดีขึ้น
วงการธุรกิจความงามนอกจาก คลินิกศัลยกรรมความงามที่ถือว่าเป็นชิ้นเค้กก้อนใหญ่สุดในวงการนี้แล้ว ยังคงมีธุรกิจที่ทำสวยบนใบหน้าอย่างการออกแบบทรงคิ้ว หรือการสักคิ้วเป็นธุรกิจที่นิยมมากขึ้น เนื่องจากคิ้วเป็นส่วนหนึ่งบนใบหน้าที่ช่วยเสริมบุคลิกได้ โดยเฉพาะวรรคทองที่ว่า คิ้ว คือ มงกุฏบนใบหน้า
ณัฐพล สร้อยสุวรรณ์ หรือ “อาจารย์บาส” ผู้บริหารบริษัท Center Cute Beaute & Artistic จำกัด ของ สถาบันออกแบบทรงคิ้ว Cencute Eyebrows Academy ผู้มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญในการออกแบบทรงคิ้วได้มาเผยถึง นวัตกรรมและเทคนิคในการออกแบบทรงคิ้วที่สามารถตอบสนองวิถีชีวิตใหม่ โดยได้นำศาสตร์หลายแขนงมารวมกัน เพื่อออกแบบคิ้วให้เป็นทรงเฉพาะบุคคล แบบกึ่งถาวรสลายได้เองภายใน 2 ปี และไม่ต้องใช้ครีมชาในการทำอีกด้วย (เทคนิคพิเศษไร้เลือดไร้แผล ไม่เจ็บ)
ที่มาของการเป็นอาจารย์สอนออกแบบทรงคิ้ว “คิวทอง” อย่างทุกวันนี้ เนื่องจากเคยเป็นนายแบบ และมีโอกาสร่วมงานกับแบรนด์แฟชั่นใหญ่หลายครั้ง และระหว่างการเดินแบบที่ต้องเตรียมผิวหน้า หรือแต่งหน้าไปเอง เพราะช่างแต่งหน้ามีไม่พอสำหรับทุกคน ทำให้เป็นอีกจุดเปลี่ยนในชีวิตที่ต้องลงเรียนการแต่งหน้าอย่างจริงจัง แล้วไปทำงานกับแบรนด์เครื่องสำอางค์ M.A.C ประเทศไทย จนสอบได้รับตำแหน่ง Product Specialist และ Brows Expert และพบว่า คิ้วเป็นส่วนสำคัญของใบหน้าที่ทุกคนสามารถมีได้โดยไม่ต้องไปหาหมอศัลยกรรม จึงได้ศึกษาเรื่องเกี่ยวกับคิ้วอย่างเจาะลึก แล้วพบว่า คนส่วนมากแม้ไม่แต่งหน้าก็ต้องเขียนคิ้ว โดยสมัยก่อนหากไม่อยากเขียนคิ้วบ่อยๆ ก็จะไปทำการสักคิ้วแบบลงสีลึกเข้าไปในชั้นผิวหนังชั้นหนังแท้ ผลที่ได้จึงออกมาเป็นคิ้วปลิงสีดำเป็นทรงเหมือนๆ กันทุกคน พอนานวันก็กลายเป็นสีเขียว บวกกับการหย่อนคล้อยและการทรุดของกระดูกใบหน้า คิ้วปลิงที่ทำมาก็จะหย่อนคล้อยตามลงมาอีกตามอายุ หากอยากแก้ไขก็ต้องไปเลเซอร์หลายสิบครั้งกว่าจะหมด
จากการศึกษากับสถาบันออกแบบคิ้วทั้งในไทยและต่างประเทศมากกว่า 10 แห่งและการศึกษาศาสตร์หลายแขนงที่เกี่ยวกับคิ้ว เช่น แพทย์ศาสตร์, วิทยาศาสตร์, ศิลปะศาสตร์, นรลักษณ์ศาสตร์ เพื่อนำความรู้ทั้งหมดมาพัฒนามาเป็นเทคนิคการออกแบบคิ้วที่เรียกว่า Fondle Brows Hair Stroke เป็นการออกแบบคิ้วเฉพาะบุคคลที่ถนอมผิว โดยการเคล้าคลึงเม็ดสีไว้บนผิวชั้นบนผิวหนังกำพร้าความลึกเพียง 0.5 มม.โดยแสดงผลเสมือนแค่การทำให้ผิวมีรอยขีดข่วนเป็นลวดลาย แต่ไม่ลงลึก ไม่ตกสะเก็ด หลังทำ 2-3 ชม.ก็สามารถล้างหน้า ใช้ชีวิตปกติได้
อาจารย์บาสกล่าวว่า “จากการศึกษาและทดลองหลากหลายวิธีพบว่า การฝังสีในผิวชั้นหนังแท้ กับการฝังสีไว้แค่บนชั้นหนังกำพร้าโดยมีความตื้นเพียง 0.5 มม. จะให้ความคงทนของสีเท่ากันกับการฝังสีแบบลึก สีที่ใช้จะสลายไปได้ภายใน 2 ปี เหมือนการไปฉีดฟิลเลอร์ เรียกได้ว่าเป็นการออกแบบทรงคิ้วแบบกึ่งถาวร และได้รับการตอบรับอย่างดี เพราะเหมาะกับ วิถีชีวิตแต่ละคนที่เปลี่ยนไป อีกทั้งโหวงเฮ้งของแต่ละคนที่มีการเปลี่ยนไปตามช่วงวัย ฉะนั้น การสักแบบถาวรถือว่าไม่ตอบโจทย์กับคำว่า “คิ้วโหงวเฮ้ง” เพราะต้องปรับทรงและยึดตำแหน่งปัจจุบันของโครงหน้า หรือให้เข้าการใบหน้าที่หย่อนคล้อย หรือยกกระชับหลังการทำศัลยกรรมก็ตอบโจทย์ในทุกปัญหาด้วย
ส่วนเครื่องมือกับสีที่ใช้จะเป็นผลิตภัณฑ์จากยุโรปทั้งสิ้น เพราะมาตรฐานเป็นที่ยอมรับและพัฒนาไปไกล แต่ถ้าถามเรื่องเทคนิคตอนนี้ ประเทศที่นำเทรนด์ทรงคิ้ว คือ เวียดนาม เนื่องจากมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว พร้อมนำเทคนิคและนวัตกรรมของทั้งเอเชียมาผสานกับทางยุโรปได้อย่างลงตัว ดังจะเห็นได้จากการที่มีผู้สนใจเดินทางไปเรียนรู้ที่เวียดนาม ตามมาด้วยที่ประเทศไทย”
สำหรับบริการของสถาบันออกแบบทรงคิ้ว Cencute Eyebrows Academy แบ่งเป็น
- ออกแบบทรงคิ้ว จะรับเคสไม่เกิน 3 คิว/วัน เพราะต้องการใช้เวลาพูดคุยกับคนมาใช้บริการให้มากที่สุด จะได้ตรงกับการความต้องการของแต่ละบุคคล
- สอนการออกแบบทรงคิ้วให้กับคนที่สนใจ โดยมีคอร์สต่างๆ ที่ออกแบบให้เหมาะกับความสนใจของผู้ที่สนใจเข้ามาเรียน โดยไม่จำกัดชั่วโมงเรียน อีกทั้งมีอุปกรณ์เรียนเสร็จมีใบประกาศพร้อมเครื่องมือให้ออกทำงานสร้างรายได้ทันที