Key Takeaway :
- SIRI – แสนสิริโชว์ยอดขายไตรมาสแรก 12,000 ล้านบาท โตขึ้นเกือบ 70% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นกว่า 22% จากเป้าหมายยอดขายรวม 55,000 ล้านบาท
- โชว์ผลงานแคมเปญไตรมาสแรก “ได้กับได้” กวาดยอดขายทะลัก พร้อมประกาศ Sold Out! รวด 4 โครงการแนวราบ สิริ เพลส ราชพฤกษ์ – พระราม 5,อณาสิริ กรุงเทพ-ปทุมธานี, เศรษฐสิริ พหล-วัชรพล และ เศรษฐสิริ ทวีวัฒนา ปลื้ม! บูก้าน กรุงเทพกรีฑา โกยยอดขายแล้ว 85%
- พิสูจน์ความสำเร็จของแบรนด์บ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี พร้อมรุกต่อ เปิดตัว “เศรษฐสิริ ดอนเมือง” ดีไซน์ใหม่ล่าสุดของแบรนด์เศรษฐสิริ สไตล์ จอร์เจียน จ่อคิวเปิดขาย พ.ค.นี้
- ลุยต่อไตรมาส 2 เปิด 8 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท แนวราบเปิดตัวครอบคลุมทุกเซกเมนต์ ทั้งทาวน์โฮมสิริ เพลส มิกซ์โปรดักส์แบรนด์ อณาสิริ บ้านเดี่ยวแบรนด์ฮาบิเทีย สราญสิริ และเศรษฐสิริ คอนโดมิเนียมไฮไลท์เปิดตัว ดีคอนโด ไฮป์ รังสิต เริ่มเพียง 1.3x ลบ.* เปิดตัว มิ.ย. นี้
อุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) (SIRI) เปิดเผยว่า
“ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทฯ เปิดตัวโครงการใหม่ 3 โครงการ มูลค่ารวม 4,120 ล้านบาทและโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย ทั้งนี้ บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขาย Q1/2566 ได้สูงถึง 12,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นเกือบ 70% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และคิดเป็นกว่า 22% จากเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่วางไว้ 55,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 1) ยอดขายจากโครงการแนวราบ 6,500 ล้านบาท 2) ยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียม 5,500 ล้านบาท เนื่องจากความเชื่อมั่นในการเป็น “แบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้าน” ที่ลูกค้าให้การตอบรับสูง อีกทั้งเป็นการสร้างยอดขายหลักจากแคมเปญ “ได้กับได้” พร้อมประกาศ Sold Out! รวด 4 โครงการแนวราบ มูลค่ารวม 8,600 ล้านบาท ได้แก่ สิริ เพลส ราชพฤกษ์ – พระราม 5, อณาสิริ กรุงเทพ-ปทุมธานี, เศรษฐสิริ พหล-วัชรพล และเศรษฐสิริ ทวีวัฒนา สังคมคุณภาพที่มีความเป็นส่วนตัวสูง จำนวน 133 ยูนิต พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกและพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่กว่า 3 ไร่ รวมถึงการส่งบ้านปลอดฝุ่น “Dust Free House” ครั้งแรกในไทย อันเป็นจุดเด่นนวัตกรรมที่แสนสิริมุ่งรับมือปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ขณะที่ บูก้าน กรุงเทพกรีฑา มาสเตอร์พีซการอยู่อาศัยระดับเวิลด์คลาสสไตล์ Modern Luxury ราคา 35-60 ล้านบาท* มุ่งเจาะกลุ่ม Young Successors พร้อมคลับเฮาส์ดีไซน์ยูนีคบนทำเลที่ดีที่สุด นั่นจึงทำให้ แสนสิริ กรุงเทพกรีฑา คอมมูนิตี้ ได้รับการตอบรับที่ดีมาก และขณะนี้สามารถสร้างยอดขายล่าสุดแล้วถึง 85% หลังเปิดพรีเซลล์เพียง 2 สัปดาห์ พิสูจน์ความสำเร็จของแบรนด์บ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรีได้อย่างแท้จริง”
สำหรับแผนธุรกิจใน Q2/2566 แสนสิริประกาศรุกเดินหน้า ด้วยแผนเปิดตัวโครงการใหม่รวดเดียวอีกประมาณ 8 โครงการ มูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นโครงการแนวราบที่ครอบคลุมทุกระดับราคา ประกอบด้วย
- ทาวน์โฮมแบรนด์ “สิริ เพลส” ที่เตรียมเปิดตัว สิริ เพลส ลาดพร้าว101 ยืนหนึ่งทาวน์โฮมใหม่ใจกลางเมือง บนทำเลลาดพร้าว – เลียบด่วนฯ ราคาเริ่มต้น 4.5 ล้านบาท* ใจกลางทำเลบ้านระดับ Luxury ตั้งแต่ 20 – 350 ล้านบาท เตรียมเปิดให้ชมโครงการครั้งแรก 20 – 21 พฤษภาคมนี้
- “อณาสิริ” มิกซ์โปรดักส์ บ้านและทาวน์โฮมในโครงการเดียว ตอบรับความต้องการที่หลากหลาย ภายใต้แนวคิดการอยู่อาศัย Feel Just Right
- ความพอดีที่ลงตัว 3 โครงการใหม่ และบ้านเดี่ยวแบรนด์ “ฮาบิเทีย ไพร์ม 2” ติดถนนใหญ่ บนทำเลราชพฤกษ์ ต่อยอดความสำเร็จจากโครงการแรก
อุทัยเปิดเผยต่อไปว่า “แสนสิริ เตรียมเปิดตัวบ้านเดี่ยวหลังแรกของครอบครัว ซีรีส์ Modern Farmhouse แบรนด์ “สราญสิริ” และแบรนด์บ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี “เศรษฐสิริ” โดยปีนี้ จะมีความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของแบรนด์บ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี ระดับราคา 12 – 40 ล้านบาท* ที่เจาะกลุ่มเป้าหมายที่มีอายุน้อยลง และเป็นกลุ่มที่ประสบความสำเร็จเร็ว (Young Successors) ด้วยการเปิดตัว New Design Series ภายใต้แนวคิด Portrait of Success กับ 4 ดีไซน์ใหม่ และเปิดตัวโครงการแรก “เศรษฐสิริ ดอนเมือง” ในดีไซน์ใหม่ล่าสุด สไตล์ “Georgian” จอร์เจียน แรงบันดาลใจจากบ้านของเหล่าเศรษฐีอเมริกัน ที่หรูหราสง่างาม แต่ยังคงความคลาสสิกไว้ ในแบบฉบับของแบรนด์เศรษฐสิริ บนทำเลดอนเมือง เพียง 2 นาที จากรถไฟฟ้าสายสีแดงสถานีดอนเมือง และ 5 นาทีจากสนามบินดอนเมือง ราคาเริ่มต้น 20 – 40 ล้านบาท* เตรียมเปิดขายพฤษภาคมนี้
ขณะที่ไฮไลท์ที่จะได้เห็นกันอีกในช่วงไตรมาส 2 คือ คอนโดมิเนียม “แสนสิริ” ที่ยืนหนึ่งเจ้าตลาด ‘Campus Condo’ ก็เตรียมเปิดตัว “dcondo hype rangsit” (ดีคอนโด ไฮป์ รังสิต) ด้วยราคาเริ่มเพียง 1.3x ลบ.* ปักหมุด 250 เมตร จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ* ติดถนนใหญ่พหลโยธิน เข้าเมืองสะดวกใกล้ทางด่วนอุตราภิมุข และรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, โรงพยาบาลภัทร-ธนบุรี, Zpell และ ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต คุ้มค่าที่สุดในย่านตอบโจทย์นักลงทุน ราคาดีสุด ๆ เริ่มต้นเพียง1.3x ล้านบาท* ขณะที่อัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า (Rental Yield) เฉลี่ยสูงถึง 8-10% การันตีคุณภาพและความเชื่อมั่นด้วยความเป็นเจ้าตลาดที่แข็งแกร่งรุกตลาด Campus Condo อย่างจริงจังมาตั้งแต่ปี 2013 ประสบความสำเร็จ
จากการเปิดตัวมาแล้วทั้งหมด 9 โครงการ มูลค่ากว่า 8,800 ล้านบาท โดยดีคอนโด ไฮด์อเวย์ – รังสิตเป็น Campus Condo โครงการล่าสุดจากแสนสิริ ที่ปิดการขายไปเมื่อปีที่ผ่านมา ได้รับฟีดแบคที่ยอดเยี่ยมจากกลุ่มนักลงทุนปล่อยเช่า กับ Yield เฉลี่ย 5-6% และในปีนี้ แสนสิริรีเฟรชแบรนด์ “ดีคอนโด” เน้นการพัฒนาโปรดักส์ให้ตอบโจทย์กลุ่มผู้อยู่อาศัยจริงในกลุ่มคอนโดราคาเข้าถึงง่าย ผ่านคอนเซ็ปท์ ‘Stay Well-rounded คอนโดที่คิดให้ชีวิตดีรอบด้าน’ อัปเกรดฟังก์ชัน สะท้อนชีวิตแบบ Well-Being บนทำเลที่มอบความเป็นส่วนตัว และให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัย ให้กับกลุ่มผู้อยู่อาศัยที่ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย ครบจบทั้งคุณภาพ, ดีไซน์, ฟังก์ชันและเซอร์วิสในที่เดียว โดยคาดว่า ดีคอนโด ไฮป์ รังสิต จะได้รับการตอบรับที่ดี จากแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพ หลังมีประกาศปิดตัววิทยาเขตกล้วยน้ำไท และเตรียมย้ายมาที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต ทำให้ดีมานด์ความต้องการที่อยู่อาศัยจะสูงขึ้น ส่งผลดีต่อตลาดอสังหาฯ ในทำเลบริเวณโดยรอบส่อแววคึกคักและดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง คุ้มค่าแก่การครอบครองทั้งนักลงทุนปล่อยเช่าและผู้อยู่อาศัยจริง เตรียมเปิดขายมิถุนายนนี้
“ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ไตรมาส 2 มีแรงหนุนจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดีขึ้นตามลำดับ รวมทั้งความคึกคักของตลาดการท่องเที่ยว ที่ส่งผลต่อเนื่องถึงความต้องการที่อยู่อาศัยในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่ภาคเอกชนรายใหญ่ต่างเริ่มมีความมั่นใจในการช่วยกันขับเคลื่อนอุตสาหกรรม ด้วยการเปิดตัวโครงการใหม่และมอบแคมเปญการตลาดสู่กลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งหมดนี้จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับอุตสาหกรรมได้เป็นอย่างดี” อุทัย กล่าว