ซิลลิค ฟาร์มา ขับเคลื่อนการดูแลโรคอ้วนอย่างปลอดภัยและยั่งยืนจัดเสวนาชูประเด็น “อ้วนคือโรค” พร้อมเดินหน้าต่อโครงการ ‘ลดไซซ์ ลดโรค’

ซิลลิค ฟาร์มา (Zuellig Pharma) ผู้นำการให้บริการโซลูชันด้านการดูแลสุขภาพแบบครบวงจรชั้นนำในเอเชีย เดินหน้ารณรงค์สร้างความตระหนักรู้ผ่านโครงการ “ลดไซซ์ ลดโรค” โดยมุ่งเน้นให้สังคมไทยตระหนักว่า “อ้วนคือโรค” ที่ไม่ควรมองข้ามหรือเพียงมองว่า เป็นปัญหาความงาม หากแต่เป็นภัยเงียบที่กำลังกลายเป็นปัญหาสาธารณสุขของประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิงที่แนวโน้มเผชิญความเสี่ยงทางสุขภาพต่อโรคเรื้อรังมากขึ้น ตามข้อมูลของการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย (National Health Examination Survey) ประจำปี พ.ศ. 2557 พบว่า

ในคนไทยอายุ > 15 ปี มีอัตราอ้วน (BMI > 25) ถึง 37.5% โดยเฉพาะในผู้หญิงสูงถึง 41.8% และข้อมูลล่าสุดในปี พ.ศ. 2566 ระบุว่า 45% ของผู้หญิงไทยอยู่ในเกณฑ์อ้วน (BMI > 25) ขณะที่ผู้ชายอยู่ที่ 38%1 ซึ่งผู้หญิงที่มีภาวะอ้วนมีแนวโน้มเสี่ยงต่อกลุ่มอาการถุงน้ำในรังไข่หลายใบ หรือ PCOS, ปัญหาความผิดปกติของมดลูก, ความมีบุตรยาก, และมะเร็งเต้านม/เยื่อบุโพรงมดลูก โครงการ “ลดไซซ์ ลดโรค” ไม่เพียงมุ่งหวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงพฤติกรรมที่ยั่งยืน แต่ยังตั้งใจปรับเปลี่ยนมุมมองของสังคมที่ตีตราคนอ้วนไว้กับความล้มเหลวส่วนบุคคล ให้กลายเป็นความเข้าใจในฐานะโรคเรื้อรังที่ต้องได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม

สุนัยนา กิจเกษตรไพศาล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซิลลิค ฟาร์มา กล่าวว่า “ซิลลิค ฟาร์มา มุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับสุขภาพของคนไทย โดยเฉพาะการสร้างความเข้าใจใหม่ว่า ‘โรคอ้วนไม่ใช่เรื่องความสวยงาม แต่คือโรคเรื้อรังที่ต้องได้รับการรักษาอย่างจริงจัง’ บริษัทฯ เชื่อว่าการเข้าถึงบริการสุขภาพอย่างครอบคลุมและเท่าเทียม คือ รากฐานของสังคมที่ยั่งยืน ซึ่งไม่เพียงแค่การส่งเสริมนวัตกรรมการรักษาใหม่ ๆ เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการส่งต่อความรู้ ความเข้าใจ และแนวทางการดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม ผ่านโครงการ ‘ลดไซซ์ ลดโรค’ ที่บริษัทฯ ได้ริเริ่มขึ้น โครงการนี้สะท้อนความตั้งใจของเราที่จะขับเคลื่อนและเปลี่ยนมุมมองของสังคมต่อโรคอ้วน จากการตัดสิน ไปสู่การเข้าใจ และดูแล เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาวของทุกคน” 

ศ.ดร.พญ.รังสิมา วณิชภักดีเดชา หัวหน้าภาควิชาตจวิทยา หัวหน้าหน่วยตจศัลยศาสตร์ และ หัวหน้าศูนย์เลเซอร์ผิวหนังศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า “หัวใจของโครงการ ‘ลดไซซ์ ลดโรค’ ไม่ได้อยู่ที่การดูแลรูปร่างแค่ภายนอกเท่านั้น แต่คือการสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยได้ดูแลสุขภาพของตัวเองในทุกมิติ ใส่ใจในการดูแลรูปร่างอย่างปลอดภัยและถูกวิธี เพื่อการลดโรคร่วมต่าง ๆ ที่ตามมา เพราะเมื่อเรารักและใส่ใจตัวเอง สุขภาพดีในระยะยาวก็จะตามมา” 

ผศ.นพ.มาศ ไม้ประเสริฐ คณบดีและประธานอำนวยการบริหารหลักสูตรบัณฑิตศึกษา วิทยาลัยการแพทย์แบบบูรณาการ กล่าวว่า “ในยุคปัจจุบัน การดูแลตัวเองให้ปลอดภัยและได้ผลนั้น ต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและผู้ป่วยเองเป็นสำคัญ พฤติกรรมการใช้ชีวิต การรับประทานอาหารที่เหมาะสม หรือการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ คือหัวใจหลักของการลดน้ำหนักเจนใหม่แบบ X2 เพราะการดูแลสุขภาพที่แท้จริงไม่ได้หมายถึงแค่การอดอาหาร หรือการออกกำลังกายอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น แต่เป็นการทำควบคู่กันอย่างสมดุล เพื่อผลลัพธ์ที่ยั่งยืน”อ.นพ.รัสมิ์ภูมิ สุเมธีวิทย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม กล่าวว่า “การดูแลสัดส่วนไม่ใช่แค่การทำหัตถการอย่างเดียว แต่เป็นศิลปะของการเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลอย่างลึกซึ้ง ทั้งการใช้ยาอย่างมีประสิทธิภาพควบคู่ไปกับการทำหัตถการที่ถูกต้องและปลอดภัยภายใต้การดูแลของแพทย์ ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้การลดไซซ์เป็นมากกว่าความงาม แต่มุ่งสู่สุขภาพที่ดีและความสมดุลของร่างกายอย่างแท้จริง เราจึงมุ่งมั่นส่งเสริมให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลแบบครบวงจร เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืนและปลอดภัยในระยะยาว” 

โครงการ “ลดไซซ์ ลดโรค” มีเป้าหมายเพื่อสร้างความตระหนักรู้ว่า ‘‘อ้วนคือโรค’ ที่ไม่ควรถูกมองข้ามหรือปล่อยผ่าน และจำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างจริงจัง พร้อมตอกย้ำถึงความสำคัญของการรับมือกับภาวะน้ำหนักเกินที่น่าเป็นห่วงของประเทศไทย พร้อมชี้ให้เห็นว่า การป้องกันและดูแลอย่างถูกวิธีตั้งแต่วันนี้ คือ กุญแจสำคัญสู่สุขภาพที่ดีและคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนของคนไทยในอนาคต