“ชาบูชิ” (Shabushi) ร้านอาหารญี่ปุ่นในเครือโออิชิ ประกาศรีเฟรชแบรนด์ครั้งใหญ่ในรอบกว่า 20 ปี เปิดตัวแบรนด์พรีเซนเตอร์คู่แรก “สกาย – นานิ” พร้อมแคมเปญ “ชาบูชิ x สกาย – นานิ: ALL YOU CAN กรี๊ด ฟินสุดกรี๊ด ยิ่งอีทยิ่งฟิน” เสิร์ฟประสบการณ์บน 3 แกนหลัก Quality – Creativity – Great Moment เจาะกลุ่ม Young Gen ที่มองหาประสบการณ์มากกว่าความอิ่มอร่อย พร้อมตั้งเป้าขยายสาขาในปี 2569-70 อีกกว่า 20 สาขา
Refreshing Brand
“ชาบูชิ” (Shabushi) ร้านอาหารญี่ปุ่นในเครือโออิชิ ภายใต้กลุ่มธุรกิจอาหารในเครือไทยเบฟเดินหน้าประกาศรีเฟรชแบรนด์ครั้งใหญ่ในรอบกว่า 20 ปี ด้วยการรุกขยายฐานเจาะลูกค้ากลุ่ม Young Gen พร้อมประสบการณ์บน 3 แกนหลัก Quality – Creativity – Great Moment

“แซม” ไพศาล อ่าวสถาพร ผู้อำนวยการอาวุโส สายธุรกิจอาหาร (ประเทศไทย) บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ กล่าวถึงยุทธศาสตร์ครั้งใหม่ของ “ชาบูชิ” ว่า “จากจุดเริ่มต้นเมื่อกว่า 20 ปีที่ผ่านมา Brand Awareness ของ “ชาบูชิ” นั้น คือ ผู้นำตลาดบุฟเฟต์ “ชาบู + ซูชิ” ด้วยคอนเซ็ปต์การเสิร์ฟอาหารบนสายพานเป็นรายแรกๆ และมีสาขาที่ครอบคลุมทั่วประเทศประมาณ190 แห่ง ทว่า ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงในวงรอบที่รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม ดังนั้น การ “ยกเครื่องแบรนด์” จึงกลายเป็นภารกิจสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการ เพื่อให้ “ชาบูชิ” สามารถเชื่อมโยงกับคนรุ่นใหม่ได้อย่างลึกซึ้งและยั่งยืน จนนำไปสู่การรีเฟรชแบรนด์ครั้งใหญ่ในครั้งนี้”
การรีเฟรชแบรนด์ “ชาบูชิ” ในครั้งนี้ คือ การเดินหน้าเพื่อหา Target Insight เพื่อทำความเข้าใจและ Connect กับผู้บริโภครุ่นใหม่ โดยมิได้ลงแค่ระดับของ Functional Benefit เท่านั้น หากแต่ลงลึกถึง Emotional Benefit และ Customer Experience (CX) ด้วย นั่นคือ การลงลึกถึงระดับอารมณ์ ความรู้สึก และประสบการณ์ที่แบรนด์สามารถมอบให้ได้ เพื่อสร้างแบรนด์ ‘“ชาบูชิ” ให้เป็นพื้นที่ของความสัมพันธ์และการสร้างคุณค่าร่วมระหว่างแบรนด์ กับกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ ด้วยภาพลักษณ์ที่สดใหม่ สนุก และพร้อมเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

การรีเฟรชแบรนด์ครั้งนี้ ไพศาลกล่าวว่า “เราไม่ได้แค่ปรับยุทธศาสตร์เพื่อให้แบรนด์เติบโตทางธุรกิจเท่านั้น ทว่า นี่คือ การเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญของแบรนด์ที่จะเติบโตในใจผู้บริโภค ด้วยวิธีคิดใหม่ที่เข้าใจคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง ซึ่งหนึ่งในไฮไลต์สำคัญของการรีเฟรชแบรนด์ครั้งนี้ คือ การเปิดตัวพรีเซนเตอร์คู่แรกของแบรนด์ ได้แก่ คู่มิตรภาพ(สุดฮอต) แห่งปี #สกายนานิ “สกาย” วงศ์รวี นทีธร และ “นานิ” หิรัญกฤษฎิ์ ช่างคำ ซึ่งเป็นตัวแทนของความสดใส มิตรภาพ และพลังบวกในแบบที่ผู้บริโภครุ่นใหม่สามารถเชื่อมโยงได้อย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังสะท้อนถึงเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่รวมความแตกต่างแต่ลงตัว ทั้งชาบู – ชาบู และซูชิ สองรสชาติที่ขาดกันไม่ได้ และช่วยยกระดับแบรนด์ให้ดูเข้าถึงง่าย แต่มีเสน่ห์ เหมาะกับกลุ่มวัยรุ่นและกลุ่มแฟนคลับที่มีอิทธิพลต่อเทรนด์ในโซเชียล พร้อมกับการยิงแคมเปญ “ชาบูชิ x สกาย – นานิ: ALL YOU CAN กรี๊ด ฟินสุดกรี๊ด ยิ่งอีทยิ่งฟิน” ที่พร้อมสร้างสีสันให้ลูกค้า “กรี๊ด” กับ 1) Menu เมนูน้ำซุป และ ซูชิ ของ สกายและนานิ 2) Hour ชั่วโมงสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ทางร้านเตรียมเซอร์ไพรส์มากับสายพานให้ลูกค้าได้กรี๊ดกันเต็มที่ โดยเริ่มดีเดย์วันที่ 16 มิถุนายนนี้ 3) Passport พาสปอร์ตให้ลูกค้าได้สะสมสแตมป์เพื่อรับของขวัญสุดเอ็กซ์คลูซีฟจาก สกายและนานิ”

3 แกนหลัก “Quality – Creativity – Great Moment”
ขณะที่ ศสัย ตังเดชะหิรัญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวเสริมว่า “การรีเฟรชแบรนด์ครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนภาพลักษณ์ แต่เป็นการปรับวิธีคิดจากข้างใน พร้อมออกแบบประสบการณ์ใหม่ให้เชื่อมโยงกับพฤติกรรมจริงของผู้บริโภค ด้วยความเชื่อว่า ร้านอาหารยุคนี้ไม่ได้ขายแค่อาหาร แต่คือแพลตฟอร์มที่สร้างความรู้สึกร่วม และสร้างคุณค่าให้กับทุกโมเมนต์ของลูกค้าได้จริงๆ พร้อมกันนี้ “ชาบูชิ” ก็ยังส่งกลยุทธ์การตลาดภายใต้แนวคิด Emotional Experience โดยดึงจุดแข็งและแนวคิดหลักของแบรนด์ “รสชาติความสุขไม่สิ้นสุด” (Good Taste Great Time Never End) มาพัฒนาต่อยอดสู่ประสบการณ์ที่เชื่อมโยงทั้งอารมณ์และความฟิน ผ่านสามแกนสำคัญ Quality – Creativity – Great Moment (engagement) ได้แก่
- QUALITY: Shabushi ALL-STAR SERIES ด้วยการยกทัพเมนูชาบู – ชาบูระดับพรีเมียม และวัตถุดิบคุณภาพที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสถึงความใส่ใจ ความคุ้มค่า และความอร่อยอย่างต่อเนื่องในทุกครั้งที่มาใช้บริการ
- CREATIVITY: Shabushi SUSHI-MASTER SERIES ด้วยการยกระดับประสบการณ์ซูชิ…ข้าวปั้นสารพัดหน้า อันเป็นเมนูใหม่ที่บรรจงสร้างสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถัน ให้ลูกค้าได้ลองของใหม่ที่อร่อยขึ้นอีกขั้น ตอบโจทย์ทั้งคอซูชิจริงจัง และนักกินสายแชร์
- GREAT MOMENT (ENGAGEMENT): Shabushi GREAT MOMENY ด้วยการเสริมความประทับใจไปกับบริการที่อบอุ่น และกิจกรรมในร้านที่สร้างโมเมนต์สนุกอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทุกมื้อไม่ใช่แค่กิน…แต่คือความรู้สึกดี ๆ ที่น่าจดจำและอยากกลับมาอีก

ศสัย กล่าวเสริมว่า สำหรับการสื่อสารทางการตลาดครั้งนี้ “ชาบูชิ” ได้วางแผนการสื่อสารแบบครบวงจร ผ่านเครื่องมือที่หลากหลาย ทั้งการจัดงานแถลงข่าวในรูปแบบกึ่งแฟนมีต การผลิตภาพยนตร์โฆษณาออนไลน์ที่มี “สกาย – นานิ” ร่วมถ่ายทอดเรื่องราว และส่งต่อ “รสชาติความสุขไม่สิ้นสุด” ไปจนถึงการปล่อยเพลงธีมพิเศษ ที่เชิญแฟน ๆ ร่วมสนุกไปกับจังหวะสดใสแบบฉบับ ชาบูชิ โดยสามารถติดตามคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้ผ่านช่องทางสื่อโซเชียล และสื่อโฆษณานอกบ้าน (OOH) ที่ครอบคลุมทั่วกรุงเทพฯ และหัวเมืองหลักทั่วประเทศ
ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าปัจจุบันที่คุ้นเคย หรือกลุ่มลูกค้าใหม่ที่เพิ่งรู้จักแบรนด์เป็นครั้งแรก “ชาบูชิ” พร้อมมอบประสบการณ์และรสชาติความสุขไม่สิ้นสุด ผ่านแคมเปญที่หลากหลายและโปรโมชันพิเศษที่จะทยอยเปิดตัวอย่างต่อเนื่อง โดยคาดหวังว่าจะสามารถปลุกกระแสและสร้างสีสันให้ตลาดร้านอาหารกลับมาคึกคักอีกครั้ง พร้อมตั้งเป้าเป็นแบรนด์ในใจผู้บริโภค (Top of Mind Brand) เมื่อนึกถึงชาบู – ชาบู และซูชิ ต้องนึกถึง “ชาบูชิ” เป็นชื่อแรกเสมอ”

แผนขับเคลื่อน
ไพศาลกล่าวถึงแผนการขับเคลื่อน “ชาบูชิ” โฉมใหม่ว่า “สำหรับราคานั้นเราจะยังคงราคาเดิม ซึ่งมีสามระดับไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม นั่นคือ ราคา 399, 499, 599 บาท และจะทยอยปรับโฉมสาขาต่างๆ ซึ่งจะมีพื้นที่สำหรับเคาน์เตอร์ซูชิที่เชฟมาทำอาหารสดๆ ให้กับลูกค้า และพร้อมเผยโฉมใหม่เป็นแห่งแรกที่ซีคอน ศรีนครินทร์ สิ้นเดือนมิถุนายน 2568 นี้ ส่วนแผนการขยายสาขาใหม่นั้น บริษัทมีแผนที่จะเปิดเพิ่มเติมในปี 2569 -70 อีกกว่า 20 สาขา ขณะที่ในปีนี้ได้เปิดเพิ่มแล้วกว่า 10 สาขา ขณะที่มีบางสาขาที่ต้องปิดตัวลงบ้าง เนื่องจากหมดสัญญา หรือเจ้าของพื้นที่ไม่ต่อสัญญา หรืออาจมีผลประกอบการที่ไม่ตอบโจทย์ เนื่องจาก Traffic ของลูกค้าเปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะห้างใหม่ๆ ที่เปิดตัว เป็นต้น”
สำหรับการรีเฟรชแบรนด์ครั้งนี้ ไพศาลกล่าวว่า “เรายังเชื่อมั่นว่า เราจะสามารถเติบโตได้ในอัตราตัวเลขสองหลัก (Double-Digit) จากปัจจุบันที่ชาบูชิสามารถทำรายได้มากถึง 80% ให้กับกลุ่มธุรกิจร้านอาหารทั้งหมดของ โออิชิโฮลดิ้ง