บริษัท โคโค โกลบอล ฮอสพิทอลลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ KGH บริษัทรับบริหารจัดการโรงแรมอย่างมืออาชีพที่ก่อตั้งในประเทศไทยโดยผู้ประกอบการชาวญี่ปุ่นเดินหน้าเปิด 3 บริการใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์เจ้าของโรงแรม ช่วยสร้างผลตอบแทนและขยายฐานลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เล็งสยายปีกการให้บริการไปยังฟิลิปปินส์ พร้อมขับเคลื่อนสู่เป้าหมายระดับโลก ตั้งเป้าร่วมมือพันธมิตรในการบริหารโรงแรม 1,000 แห่งใน 10 ประเทศ จาก 6 ทวีปทั่วโลก นอกจากนี้ ยังมุ่งพัฒนาบุคลากรมืออาชีพที่มีเส้นทางความก้าวหน้าที่ชัดเจนและพัฒนาศักยภาพจนกลายเป็นมืออาชีพตัวจริง
เบื้องหลังทศวรรษแห่งความสำเร็จของ KGH
นายเรย์ มัทสึดะ ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร บริษัท โคโค โกลบอล ฮอสพิทอลลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า
“กลยุทธ์ความสำเร็จตลอด 10 ปีของการดำเนินธุรกิจที่เข้ามาพลิกโฉมการบริหารงานโรงแรมในประเทศไทยของ KGH เป็นการนำแนวคิดการทำงานตามปรัชญาไคเซ็น (Kaizen) ของญี่ปุ่นเข้ามาใช้ โดยเน้นระบบการจัดการ ความเที่ยงตรง ความใส่ใจในรายละเอียด และการปรับปรุงประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยตอบโจทย์ความท้าทายต่าง ๆ ที่เจ้าของโรงแรมขนาดกลางต้องเผชิญตั้งแต่เริ่มต้นธุรกิจเลยทีเดียว โดยโมเดลการบริหารจัดการจากส่วนกลาง (Centralized Operation) ของ KGH ช่วยให้การบริหารมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยใช้บุคลากรหน้างานน้อยลงและต้นทุนลดลง พร้อมทีมสนับสนุนหลังบ้านที่มีประสิทธิภาพจากสำนักงานใหญ่ การสนับสนุนของทีมงานช่วยให้โรงแรมแต่ละแห่งสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการขายและสร้างผลตอบแทนเพิ่มขึ้นได้ ขณะที่มีต้นทุนการบริหารลดลง
ตัวอย่างเช่น โรงแรมขนาด 75 ห้องที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งมีพนักงานให้บริการที่โรงแรมเพียง 17 คน สำหรับปฏิบัติงานด้านต่าง ๆ เช่น ผู้จัดการโรงแรม ต้อนรับและบริการลูกค้า แม่บ้าน และวิศวกร สำหรับงานบางตำแหน่ง เช่น เชฟ ฝ่ายบัญชี ฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายไอที ฝ่ายขายและการตลาด และฝ่ายทรัพยากรบุคคล อาจไม่จำเป็นต้องประจำที่โรงแรม แต่ดำเนินงานโดยทีมสนับสนุนจากส่วนกลางหรือสำนักงานใหญ่ สำหรับโรงแรมที่มีฝ่ายงานต่าง ๆ คล้ายกันนี้ และมีห้องอาหารด้วย ก็อาจต้องมีพนักงานประจำเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว”
นอกจากนี้ KGH ยังจัดตั้ง KokoHub ศูนย์กลางระบบจัดซื้อและกระจายสินค้าจากส่วนกลาง เพื่อให้บริการแบรนด์โรงแรมในเครือ KGH ทั้งหมด การมีทีมงานมืออาชีพจากส่วนกลางและอำนาจต่อรองจากการสั่งซื้อจำนวนมาก ทำให้พันธมิตรได้ประโยชน์จากราคาที่ถูกลง ลดความถี่ในการจัดส่ง และลดความเสี่ยงที่จะเกิดข้อผิดพลาดได้อีกด้วย
มาตรฐานเหนือระดับ – อินไซต์เชิงลึก
“บริษัทประสบความสำเร็จในระดับสูงกว่ามาตรฐานอุตสาหกรรม โดยมีอัตรากำไรจากการดำเนินการของอสังหาริมทรัพย์ (Profit Margin at Property Level) ที่ 57% ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานของโรงแรมระดับกลาง (Industry Average) ที่ 25% – 35% ส่วน ADR (Average Daily Rate) ก็ทำได้สูงขึ้นแบบมีนัยสำคัญกว่า ก่อนหน้าที่ KGH จะเข้ามาร่วมบริหาร ตัวอย่างเช่น โคโคเทล แบงค็อก เทวา ทองหล่อ ที่มีอัตราค่าห้องเฉลี่ยต่อวัน (ADR) เพิ่มขึ้น 106% จาก 694 บาท ก่อนที่ KGH จะเริ่มดำเนินการในปี 2563 เป็น 1,434 บาท
ในปี 2567 ความสำเร็จเหล่านี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการบริหารงานอย่างมืออาชีพของเรา ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้บริษัทสามารถบรรลุข้อตกลงได้ทั้งในประเทศไทย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ ซึ่งเรามั่นใจว่า จะสามารถปิดดีลได้ประมาณ 100 แห่งภายในปี 2569”
ทั้งนี้ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ได้ประเมินว่า ธุรกิจโรงแรมและที่พักจะยังคงเติบโตต่อเนื่องในปี 2568 จากการที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นจากทั้งจีน เอเชียใต้ ยุโรปกลางและยุโรปตะวันออก รวมทั้งการเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยไปยังเมืองหลักและเมืองรอง นอกจากนี้ ยังมีการเดินทางท่องเที่ยวแบบหมู่คณะกับครอบครัวและเพื่อนกันมากขึ้น สอดคล้องกับผลการสำรวจผู้เข้าชมงานไทยเที่ยวไทยประจำปี 2567 ที่พบว่า 35% ของนักท่องเที่ยวแบบ Tribe Travel ให้ความสนใจซื้อแพ็คเกจที่พักและจองทัวร์แบบหมู่คณะ
“สำหรับประเทศไทย มีโรงแรมขนาดกลางประมาณ 5,400 แห่ง แต่ละแห่งมีห้องพัก 50-200 ห้อง ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ KGH ให้ความสำคัญ โดยหวังจะนำความรู้ความเชี่ยวชาญของบริษัท เข้าไปช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการในการเพิ่มรายได้ ด้วยการลดต้นทุน ยกระดับคุณภาพและมาตรฐานบริหาร พร้อมสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าและทำให้เกิดความผูกพันกับโรงแรมมากขึ้น” นายเรย์ กล่าว

เปิดตัว 3 บริการใหม่ ขับเคลื่อน Future Vision
ด้านนายภวัติ เพียรเพ็ญศิริวงศ์ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจ การสร้างสรรค์แบรนด์และการออกแบบโรงแรม บริษัท โคโค โกลบอล ฮอสพิทอลลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า
“ในฐานะบริษัทบริหารจัดการโรงแรมที่มีแบรนด์ไลฟ์สไตล์หลากหลาย บริการใหม่ที่จะนำเสนอ จะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการทำการตลาด และการขายได้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ช่วยให้การดำเนินงานของโรงแรมในเครือแข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยทั้ง 3 บริการได้รับการออกแบบมาให้ตอบโจทย์ตรงใจ มั่นใจว่าจะได้รับความสนใจจากทั้งลูกค้าใหม่ และลูกค้าเดิม ประกอบด้วย
- บริการสนับสนุนการขายออนไลน์ ( โดยรับผิดชอบด้านการขายออนไลน์และการจัดการรายได้ซึ่งรวมถึงการบริหารแพลตฟอร์มการจองที่พักและเดินทาง (OTA) ปรับอัตราค่าห้องพักผ่านระบบให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าได้ รวมทั้งทำรายงานวิเคราะห์คู่แข่ง
- บริการสนับสนุนการตลาดออนไลน์ ที่ช่วยวางแผนแพ็คเกจห้องพักและโปรโมชั่นต่าง ๆ พร้อมจัดทำโฆษณาออนไลน์ บริหารเว็บไซต์ และบัญชีโซเชียลมีเดีย (Facebook และ Instagram) สามารถผนวกแพ็คเกจนี้เข้ากับบริการสนับสนุนการขายออนไลน์ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพิ่มโอกาสการจดจำและรับรู้แบรนด์โรงแรม กระตุ้นให้มีการจองมาทางออนไลน์ และเพิ่มอันดับของโรงแรมบนแพลตฟอร์ม OTA ให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
- บริการด้านการบริหารและให้คำปรึกษา บริการใหม่ล่าสุดที่ KGH จะมอบหมายให้ผู้จัดการทั่วไป ที่ผ่านการฝึกอบรมและมีประสบการณ์ เข้าไปทำงานที่โรงแรมนั้น ๆ และดูแลการบริหารงานประจำวันของโรงแรมโดยตรง
“KGH มุ่งมั่นปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบประสบการณ์ “ว้าว” ให้กับแขกผู้มาเยือน เจ้าของกิจการ รวมทั้งพนักงาน การเปิดตัว 3 บริการใหม่นี้ก็เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการบริการในระดับโลก สะท้อนความมุ่งมั่นของเราที่พร้อมจะร่วมก้าวเดินกับเจ้าของโรงแรมสู่เส้นทางแห่งความสำเร็จในการบริหารโรงแรมในเครือทั้งในประเทศไทยและระดับโลก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการเติบโตอย่างมั่นคงในฐานะบริษัทรับบริหารจัดการโรงแรมมืออาชีพ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายบริหารโรงแรม 100 แห่งภายในปี 2569 และขยายเครือข่ายโรงแรมในเครือให้ได้ถึง 1,000 แห่ง ใน 10 ประเทศภายในปี 2578” นายเรย์ กล่าวสรุป
เกี่ยวกับ โคโค โกลบอล ฮอสพิทอลลิตี้ (KGH)
โคโค โกลบอล ฮอสพิทอลลิตี้ หรือ KGH เป็นบริษัทรับบริหารจัดการโรงแรมมืออาชีพครบวงจรที่ก่อตั้งในประเทศไทยโดยผู้ประกอบการชาวญี่ปุ่น ด้วยความมุ่งมั่นส่งมอบบริการที่เป็นมิตรและน่าประทับใจของไทย ผสานกับระบบการทำงานด้วยมาตรฐานญี่ปุ่นอย่างลงตัว และสร้างประสบการณ์สุด “ว้าว” ให้กับทั้งเจ้าของกิจการ แขกผู้มาเยือน และพนักงาน
KGH ก่อตั้งในปี 2558 ได้ดำเนินงานบริหารโรงแรมขนาดกลางหลากหลายประเภทและให้ความสำคัญกับความเป็นเลิศในการดำเนินงาน ที่ผ่านมา KGH ให้บริการโรงแรมต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพและมีคุณภาพสูงในทุกมิติ ด้วยการใช้โมเดลการจัดการจากส่วนกลาง (Centralized Operation) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพและอัตราการทำกำไรของโรงแรม พร้อมกันนั้น ยังมีทีมสนับสนุนจากสำนักงานใหญ่ส่วนกลางโดยเฉพาะ ซึ่งมีการบริหารแบบมืออาชีพตามปรัชญาการทำงานแบบ “ไคเซน” (Kaizen) ช่วยยกระดับการดำเนินงานและรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ
ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2568) KGH ดำเนินการบริหารโรงแรมถึง 41 แห่งในประเทศไทย ญี่ปุ่น และฟิลิปปินส์ โดยเป็นการบริหารโรงแรมทั้งหมด 34 แห่ง (10 แห่งอยู่ในช่วงเตรียมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ) และการบริการให้คำปรึกษาทั้งหมด 7 แห่ง รวมจำนวนห้องพักภายใต้การบริหารงานกว่า 2,500 ห้อง ประกอบไปด้วย 2 แบรนด์ของ KGH และแบรนด์โรงแรมของเจ้าของโรงแรมอิสระอื่น ๆ ได้แก่
- โคโคเทล (Kokotel) แบรนด์ที่เน้นความคุ้มค่า คุ้มราคา ในเมืองท่องเที่ยว ดีไชน์สไตล์มินิมัลลิสต์แบบญี่ปุ่น พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และบริการที่ดูแลใส่ใจในทุกรายละเอียด ภายใต้คอนเซปต์ “Kokotel as Entertainment” ที่จะมอบประสบการณ์สุด “ว้าว” สร้างโมเมนต์แห่งความประทับใจและน่าจดจำไม่รู้ลืมร่วมกับเพื่อนและสมาชิกในครอบครัว โรงแรมภายใต้แบรนด์นี้ อาทิ โรงแรมโคโคเทล แบงค็อก เทวา ทองหล่อ โรงแรมโคโคเทล กรุงเทพ สุรวงศ์ โรงแรมโคโคเทล เชียงใหม่ นิมมาน โรงแรมโคโคเทล ภูเก็ต ในยาง ฯลฯ
- จำนวนโรงแรมที่เปิดให้บริการรวม 16 แห่ง (15 แห่งในประเทศไทย และ 1 แห่งในญี่ปุ่น)
- มีกำหนดจะเปิดให้บริการในปี 2569 อีก 4 แห่ง (3 แห่งในประเทศไทย และ 1 แห่งในฟิลิปปินส์)
- “วิฟเทล” (VIVTEL) แบรนด์โรงแรมพรีเมียมไลฟ์สไตล์ด้วยการออกแบบสไตล์โมเดิร์นโดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นคู่รักที่มองหาสถานที่พักผ่อนอย่างมีชีวิตชีวาและเป็นส่วนตัว เป็นสถานที่ให้ได้ดื่มด่ำช่วงเวลาความสุขกับคนพิเศษและไวน์ชั้นเลิศ (A Place for Honey and Fine Wine) ภายใต้แนวคิด ‘Sleepover to Oversleep’ ที่รวมความโรแมนติกแบบอิตาเลียนผสานกับความเป็นเลิศในการบริหารงานแบบญี่ปุ่นที่เน้นประสบการณ์อย่างแท้จริง โรงแรมภายใต้แบรนด์นี้ อาทิ วิฟเทล ภูเก็ต ป่าตอง (VIVTEL Phuket Patong) ซึ่งมีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2569 มีกำหนดจะเปิดให้บริการในปี 2569 จำนวน 2 แห่งในประเทศไทย
- แบรนด์โรงแรมของเจ้าของโรงแรมอิสระ ที่ KGH รับหน้าที่เข้าไปบริหาร โดยยังคงเอกลักษณ์ความโดดเด่นของแต่ละแบรนด์โรงแรมเอาไว้ ผสานกับการบริหารงานแบบมืออาชีพของ KGH
- จำนวนโรงแรมที่เปิดให้บริการรวม 8 แห่งในประเทศไทย
- มีกำหนดจะเปิดให้บริการในปี 2569 อีก 4 แห่ง (3 แห่งในประเทศไทย และ 1 แห่งในฟิลิปปินส์)