บริษัท ร็อคเทค โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือROCTEC รายงานผลการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ 2567/68 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2568 โดยมีรายได้จากการดำเนินงานรวมทั้งสิ้น 3,093 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.7% จากปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 340 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.2% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ผลประกอบการดังกล่าวสะท้อนถึงความสำเร็จของบริษัทฯ ในการปรับกลยุทธ์สู่การเป็นผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT Solutions) อย่างเต็มรูปแบบ
โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการขยายตัวของโครงการทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน
ประกอบกับการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยผลักดันการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจ
นายเว่ย แซม แลม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ROCTEC กล่าวว่า “ผลประกอบการในปีนี้สะท้อนถึงความสำเร็จของการทรานส์ฟอร์มธุรกิจสู่การให้บริการไอซีทีอย่างเต็มรูปแบบ
ด้วยการเติบโตที่แข็งแกร่งทั้งในภาครัฐและเอกชน เราจะยังคงมุ่งมั่นต่อยอดศักยภาพเพื่อสร้างโอกาสใหม่ ๆ และขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป” ในเดือนเมษายน 2568 ROCTECได้บรรลุหมุดหมายสำคัญด้วยการคว้างานโครงการภาครัฐธุรกิจในกลุ่มงานระบบคมนาคมขนส่ง (Transportation Solutions) ครั้งแรกในประเทศไทย โดยเข้าร่วมกับพันธมิตรในรูปแบบกิจการร่วมค้าเพื่อดำเนินโครงการติดตั้งระบบโครงข่ายโทรคมนาคมของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ซึ่งมีมูลค่าสัญญารวมกว่า 1,500 ล้านบาท
โครงการนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายบทบาทของบริษัทฯ ในโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารที่สำคัญของประเทศโดยเป็นระบบพื้นฐานของโครงข่ายทางรถไฟที่จะรองรับการพัฒนาเทคโนโลยีในอนาคต ทั้งระบบขนส่งอัจฉริยะและการบูรณาการข้อมูลแบบเรียลไทม์
ทั้งนี้ โครงการได้ลงนามในสัญญาหลังสิ้นสุดปีงบประมาณ 2567/68 และจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ในปีงบประมาณถัดไป ซึ่งจะช่วยเสริมเสถียรภาพของรายได้ในระยะยาว ความสำเร็จดังกล่าวยังสะท้อนถึงความสามารถของ ROCTEC ในการนำประสบการณ์จากตลาดฮ่องกงมาต่อยอดสู่ประเทศไทย ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพและกำลังเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าในการปรับพอร์ตธุรกิจอย่างต่อเนื่องโดยเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 คณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติการปรับเงื่อนไขของการจำหน่ายหุ้นในบริษัท ฮัลโหล แบงคอก แอลอีดี จำกัด (Hello LED) ต่อบริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) (PlanB) bโดยราคาธุรกรรมยังคงอยู่ที่ 2,000 ล้านบาทตามที่ผู้ถือหุ้นได้อนุมัติไว้ก่อนหน้า โดยมีการกำหนดเงินมัดจำจำนวน 240 ล้านบาทที่ไม่สามารถขอคืนได้และขยายระยะเวลาการดำเนินธุรกรรมไปจนถึงเดือนสิงหาคม 2570 (การปรับเงื่อนไขในครั้งนี้จะต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้น ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 24 กรกฏาคม 2568)
การปรับเงื่อนไขในครั้งนี้สะท้อนถึงการบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน ขณะเดียวกัน ยังคงยึดมั่นในทิศทางระยะยาวของ ROCTEC
ที่มุ่งเน้นการเติบโตในธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างชัดเจน
ROCTEC ยังคงมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยไม่มีภาระหนี้สินเงินกู้และมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดอยู่ที่ 1,838 ล้านบาท ณ สิ้นปีงบประมาณ ขณะเดียวกัน บริษัทฯ มีปริมาณงานในมือ (Backlog) คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของประมาณการรายได้ในปีถัดไป
ซึ่งสะท้อนถึงความชัดเจนในรายได้ล่วงหน้าและเสริมความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มการเติบโตในระยะกลาง
สำหรับปีงบประมาณ 2568/69 บริษัทฯ ตั้งเป้ารักษาการเติบโตในระดับเลขสองหลัก
โดยมุ่งยกระดับขีดความสามารถในการให้บริการผ่านการลงทุนในงานวิจัยและพัฒนา
(in-house R&D) อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)
มาใช้พัฒนาโซลูชันที่ตอบโจทย์การเปลี่ยนผ่านสู่โครงสร้างพื้นฐานเมืองอัจฉริยะ
แม้เศรษฐกิจโลกจะยังเผชิญกับความไม่แน่นอนจากปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ บริษัทฯ
มั่นใจว่าตลาดหลักของบริษัทฯ อย่างประเทศไทยและฮ่องกงจะได้รับผลกระทบน้อยกว่าเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น และ ROCTEC พร้อมเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
พร้อมส่งมอบคุณค่าระยะยาวให้แก่ผู้ถือหุ้นต่อไปอย่างมั่นคง