“ลัคกี้ ยูเนี่ยน ฟู้ดส์” หรือ LUF ลุยแผนบุกตลาดส่งออกอย่างจริงจังผ่านเวที THAIFEX-ANUGA ASIA 2025 เปิดตัว Product Line ใหม่ทั้ง ซาลาเปาเนื้อปลาไส้ซุปกุ้งและไส้เห็ดหอม เจาะกลุ่มพรีเมียม พร้อมปรับโฉมบรรจุภัณฑ์ทันสมัย ตอบโจทย์ค้าปลีก ดันภาพลักษณ์แบรนด์ Kani Family (คานิ แฟมิลี่) สู่ตลาดโลกอย่างชัดเจน ตั้งเป้ารายได้เติบโตกว่า 4,000 ล้านบาทจากปีก่อน รุกเปิดเกมทั่วเอเชียและตะวันออกกลางที่ยังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ตอกย้ำความมั่นใจในตลาดแช่แข็งทั่วเอเชียและตะวันออกกลาง
เปิดเกม Go Inter
การเข้าร่วมงานแสดงสินค้า THAIFEX-ANUGA ASIA 2025 ในปีนี้ระหว่างวันที่ 27-31 พฤษภาคม 2568 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี พร้อมกิจกรรมพิเศษจากเชฟอิน เชฟดังในโลกโซเซียลและเชฟปิง จากดีกรีแขมป์ระดับชาติและนานาชาติจากหลายเวทีที่จะร่วมโชว์เมนูจากซาลาเปาเนื้อปลาสุดล้ำนั้น บริษัท ลัคกี้ ยูเนี่ยน ฟู้ดส์ จำกัด (LUF) มิได้มาแค่การเปิดตัวสินค้าใหม่ ทว่า นี่คือจิ๊กซอว์ที่บริษัทต้องการต่อยอดสำหรับแผน Go Inter ในตลาดโลก

ทั้งนี้ นายยศวร วิริยะเชษฐ์กุล ผู้อำนวยการกลุ่มงานการตลาดในประเทศ บริษัท ลัคกี้ ยูเนี่ยน ฟู้ดส์ จำกัด (LUF) เปิดเผยว่า
“การร่วมงาน THAIFEX-ANUGA ASIA 2025 ในปีนี้ เราต้องการแสดงให้เห็นว่า ประเทศไทยสามารถพัฒนาอาหารทะเลแปรรูปให้มีคุณค่าเพิ่มในเชิงสุขภาพ นวัตกรรม และสิ่งแวดล้อม พร้อมไปกับการขยายสู่ตลาดโลกอย่างมีเป้าหมาย ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวมปีล่าสุดทะลุ 4,000 ล้านบาท เติบโตมากกว่า 10% โดยแบ่งเป็นยอดขายต่างประเทศกว่า 2,400 ล้านบาท และในประเทศกว่า 1,600 ล้านบาท ซึ่งทั้งสองตลาดต่างก็เติบโตเกิน 10% และในปีนี้เราก็คาดว่าเราจะสามารถเติบโตได้ในอัตราตัวเลขสองหลัก (Double Digit) แม้ภาพรวมเศรษฐกิจจะอยู่ในภาวะชะลอตัว และตลาดโลกยังเผชิญความไม่แน่นอนจากนโยบายภาษีของสหรัฐอเมริกาก็ตาม
ทว่า ด้วยสถานะของบริษัทฯ ที่เป็นผู้ส่งออกอาหารทะเลแปรรูปกลุ่มปูอัดอันดับ 1 ของไทย และส่งออกไปแล้วมากกว่า 44 ประเทศ นายยศวรกล่าวต่อไปว่า “บริษัทมีแผนการกระจายตลาดเพื่อลดความเสี่ยงจากภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา ด้วยการเข้าสู่ตลาดในโซนต่างๆ เพื่อช่วยลดสัดส่วนการพึ่งพาตลาดอเมริกา ซึ่งถือเป็นตลาดหลักที่มีสัดส่วนประมาณ 10-20% ของการส่งออก และเดินหน้าขยายฐานในตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่องไปยังตลาดจีน เวียดนาม พม่า ฮ่องกง ตะวันออกกลาง และยุโรป รวมถึงวางแผนเจาะตลาดใหม่ใน ละตินอเมริกา ตอบรับเทรนด์การบริโภคอาหารแช่แข็งแบบ “Ready to Cook” และ “Ready to Eat” ที่เติบโตเฉลี่ย 6–8% ต่อปีทั่วโลก และเป็นการกระจายความเสี่ยงและเพิ่มฐานรายได้ให้มั่นคงในระยะยาว โดยบริษัทได้วางแผนที่จะใช้แบรนด์ที่มีชื่อเสียงในตลาด เช่น แบรนด์ “KANI” เพื่อช่วยเพิ่มการรับรู้และยอดขายในตลาดภายในประเทศและส่งออกไปต่างประเทศอีกด้วย”
นายยศวรกล่าวต่อไปว่า สำหรับการทำตลาดต่างประเทศนั้น บริษัทฯ ยังคงโฟกัสกับการขยายฐานตลาดในประเทศอื่นๆ ในเอเชียอย่างมาเลเซีย สิงคโปร์และจีนที่มีปัจจัยหลายประการที่ส่งผลต่อการเติบโต เช่น เป็นตลาดที่ยอมรับคุณภาพสินค้าจากประเทศไทย
ตลอดจนขยายสู่ตลาดละตินอเมริกา และตะวันออกกลาง แต่ทั้งนี้ ในการทำตลาดต่างประเทศ นอกจากประเด็นเรื่องภาษีสินค้านำเข้าของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาแล้ว ก็ยังมีตัวแปรทางด้านความแข็งแกร่งของค่าเงินที่ยังต้องจับตาเรื่องค่าเงินบาทเริ่มแข็งขึ้น ซึ่งส่งผลให้ต้องติดตามแนวโน้มและการประเมินผลกระทบต่อธุรกิจอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ บริษัทฯ ก็ยังโฟกัสกับการโปรโมตสินค้าเพื่อสร้างการรับรู้ในระดับสากล เนื่องจากในตลาดสินค้าประเภทนี้มีการแข่งขันสูง”

เปิดตัวสินค้าใหม่ และนวัตกรรมอาหาร
สำหรับปีนี้ LUF เดินหน้าเปิดตัว Product Line ใหม่ กับ “ซาลาเปาเนื้อปลาไส้เห็ดหอม” และรุกเปิดเกมไปอีกขั้นด้วยกลยุทธ์ Category Creator กับ “ซาลาเปาเนื้อปลา ไส้ซุปกุ้ง” ที่ใส่ไส้ทะลักแบบ “เซียวหลงเปา”
นายยศวร เปิดเผยถึงความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เป็นไฮไลท์เด็ดของปีนี้ว่า “สำหรับ ซาลาเปาเนื้อปลาไส้ซุปกุ้ง และไส้เห็ดหอม” มีจุดขายที่โดดเด่น คือ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากปลาซูริมิ (Surimi Based Product) ซึ่งเป็นการใช้เนื้อปลาทะเลสดเพื่อหุ้มไส้ที่ทำด้วยน้ำซุปเข้มข้นหอมกลิ่นกุ้งและน้ำมันงา (สำหรับไส้ซุปกุ้ง) หรือหุ้มใสเห็ดหอมสไตล์ญี่ปุ่น (สำหรับไส้เห็ดหอม) เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการโปรตีนดี ย่อยง่าย และหลีกเลี่ยงคาร์โบไฮเดรต สำหรับ “ซาลาเปาเนื้อปลา ไส้ซุปกุ้ง” กล่าวได้ว่า เป็นนวัตกรรมทางด้านอาหารของบริษัทที่ส่งเข้าตลาดในหมวดหมู่ใหม่ เนื่องจากตัวแป้งซาลาเปาทำจากเนื้อปลา และไส้ด้านในเป็นซุปกุ้งที่มีน้ำซุปผสมเข้มข้น และจะมีน้ำซุปไหลออกมาขณะรับประทาน ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับการรับประทาน ถือเป็น Differentiate ที่เราใช้วัตถุดิบที่แตกต่างจากแบรนด์อื่น ทำให้ตอบโจทย์ตลาดที่มองหาประสบการณ์ใหม่ในอาหาร นอกจากนี้ การมีซุปกุ้งภายในยังช่วยเพิ่มรสชาติและเนื้อสัมผัสที่หลากหลาย ให้ความรู้สึกเหมือนรับประทานอาหารในสไตล์ชาบูหรือซุปหลายอย่างพร้อมกัน และสินค้าตัวนี้ เราได้รับการตอบรับที่ดีในตลาด โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่ยอมรับนวัตกรรมและความหลากหลายของอาหาร”

ต่อยอดจากแบรนด์ Kani Family
นายยศวรกล่าวเพิ่มเติมว่า “LUF ยังมีไลน์ผลิตภัณฑ์ลูกชิ้นคุณภาพสูง เช่น ลูกชิ้นกุ้งมังกร ลูกชิ้นปลาแบบสิงคโปร์ และลูกชิ้นสอดไส้ไข่ปลาและ ลูกชิ้นกุ้งทอด ที่วางตำแหน่งเป็นสินค้าพรีเมียมในตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศจากแบรนด์ที่เริ่มต้นด้วยการผลิต “ปูอัด” ปัจจุบัน Kani Family (คานิ แฟมิลี่) ได้ต่อยอดมาเป็นแบรนด์อาหารทะเลแปรรูปแบบครบวงจร ภายใต้แนวคิด “คุณภาพเหนือความคาดหมาย” สินค้าทุกชิ้นผลิตจากวัตถุดิบที่ผ่านการรับรองมาตรฐานสากล เช่น GMP, HACCP, MSC, ISO22000, ISO45001 และ Halal โดยไม่มีการใช้วัตถุกันเสีย นอกจากนี้ สินค้าแบรนด์ Kani Family ยังได้
นอกจากตัวเลขทางธุรกิจ LUF ยังให้ความสำคัญกับเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจน โดยเลือกใช้วัตถุดิบจากแหล่งประมงที่ยั่งยืน มีระบบ Traceability ย้อนกลับได้ และติดตั้ง โซลาร์เซลล์ในโรงงาน เพื่อลดการปล่อยคาร์บอน พร้อมพัฒนา “บรรจุภัณฑ์แบบ Thermoform” ที่ช่วยลดการใช้พลาสติกและเพิ่มความมั่นใจให้ผู้บริโภค
ผู้สนใจสามารถทดลองชิมและเลือกซื้อสินค้าในราคาพิเศษได้ตลอดงานและติดตามข่าวสาร https://www.facebook.com/KaniFamilyThailand
#LUF #KaniFamily #SustainableForTheFuture #THAIFEX2025 #SeafoodInnovation