ท่ามกลางความร้อนระอุของอากาศเมืองไทยปีนี้คงยังไม่พอ เมื่อผู้บริหารหญิงเก่งจากทั้ง 2 แบรนด์ คุณน้ำหวาน – วรัญญา วิญญรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยเทพรส จำกัด (มหาชน) แบรนด์ “ซอสพริกศรีราชาพานิช” ต้นตำรับรายแรกของคนไทยที่มีอายุกว่า 90 ปี และคุณเม – กุลพัชร์ กนกวัฒนาวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท อาฟเตอร์ ยู จำกัด (มหาชน) ผู้ปลุกปั้นแบรนด์ After You สู่คาเฟ่ขนมหวานครองใจคนไทยและชาวต่างชาติ มาร่วมสร้างปรากฏการณ์เมนูใหม่รับซัมเมอร์ “คากิโกริแมงโก้นาดาซอสศรีราชา” (Mangonada Sriracha Kakigōri) ที่สายเผ็ด vs สายหวาน ต้องลองสักตั้ง…จำหน่ายถึงวันที่ 10 พฤษภาคมนี้เท่านั้น!
“ซอสพริกศรีราชาพานิช” ฉีกกรอบเดิม-เพิ่มภาพจำใหม่
“ซอสพริกศรีราชาพานิช” เป็นซอสพริกศรีราชาต้นตำรับรายแรกของคนไทยที่ก่อตั้งในปี ค.ศ 1935 ดำเนินธุรกิจมาแล้วกว่า 90 ปี แต่ปัญหาคือ แม้แต่คนไทยกันเองยังสับสนว่าแบรนด์ใดเป็นเจ้าแรก นั่นเป็นเหตุผลให้เราทำการบ้านหนักขึ้น โดยศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค (Consumer Insight) ทำความเข้าใจคุณค่าที่แบรนด์จะมอบให้ลูกค้า (Value Proposition) และสื่อสารออกมาให้ตรงจุดและตรงใจผู้บริโภคทุกกลุ่ม ซึ่งที่ผ่านมาผู้บริโภคมีภาพจำว่าซอสพริกต้องทานคู่กับอาหารคาวรสชาติเผ็ดจัดจ้าน เราจึงพยายามฉีกกรอบเดิมๆ ว่า ซอสพริกสามารถทานคู่กับหลากหลายเมนูทั้งคาวหวาน ซึ่งแบรนด์แรกในใจที่นึกถึงคือ อาฟเตอร์ ยู (After You) จึงเป็นที่มาของความร่วมมือระหว่างทั้ง 2 แบรนด์ (Collaboration Marketing) เพื่อก้าวข้ามข้อจำกัดเดิมและเพิ่มภาพจำใหม่ๆ แก่ผู้บริโภคด้วยเมนูที่ตั้งใจทำขึ้นเป็นพิเศษในช่วงฤดูร้อนนี้” คุณวรัญญา กล่าว

“อาฟเตอร์ ยู” คาเฟ่ขนมหวานของทุกคน ท้าทายตัวเอง-สร้างความแปลกใหม่อยู่เสมอ
คุณกุลพัชร์ กล่าวต่อว่า “ที่ผ่านมาอาฟเตอร์ ยู ไม่หยุดสร้างสรรค์เมนูประจำฤดูกาล (Seasonal Menu) ให้ผู้บริโภคได้ชิมขนมหวานรสชาติใหม่อยู่เสมอ ตอนคุณวรัญญามาพูดคุยกัน รู้สึกว่าทั้ง 2 แบรนด์เรามองเป้าหมายเดียวกัน คือ มอบความสุขให้ผู้บริโภคได้ตื่นตาตื่นใจกับเมนูของหวานที่มีรสชาติเอกลักษณ์และหาทานได้แค่ที่อาฟเตอร์ ยู เท่านั้น ซึ่งพอมาเป็นซอสพริกศรีราชาพานิชนับเป็นความท้าทายและสนุกไปอีกขั้นที่จะดึงเอาเมนูขนมหวานมาผสมผสานกับซอสรสเผ็ดให้ได้อย่างกลมกล่อมและลงตัว หวังว่าเมนู “คากิโกริแมงโก้นาดาซอสศรีราชา” (Mangonada Sriracha Kakigōri) จะเป็นอีกหนึ่งเมนูต้อนรับหน้าร้อนที่ถูกใจใครหลายคนนะคะ”
กลยุทธ์ “มะม่วง” ดึงคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ
“แผนปีนี้ของซอสพริกศรีราชาพานิชเป็นการตอกย้ำถึงความเป็นแบรนด์ต้นตำรับรายแรกของซอสพริกศรีราชาธุรกิจของคนไทย100% ซึ่งกว่าจะออกมาเป็นเมนูคอลแลปส์สุดฮอตปีนี้ ทั้ง 2 แบรนด์ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด โดยเชื่อมโยงผลไม้ตามฤดูกาลอย่างมะม่วงที่นักท่องเที่ยวต่างชาติค่อนข้างคุ้นเคยเวลามาเยือนประเทศไทยมาเป็นส่วนหนึ่งของการบอกเล่าเรื่องราวความพิเศษของเมนูนี้ให้น่าสนใจยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยถ่ายทอดเสน่ห์ของซอสพริกศรีราชาพานิชสู่เมนูของหวานในแง่มุมที่สดใหม่ โดยให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมสนุกกับเมนู “คากิโกริแมงโก้นาดาซอสศรีราชา” ไปด้วยกัน” คุณวรัญญา กล่าว

กว่าจะมาเป็น “คากิโกริแมงโก้นาดาซอสศรีราชา”
“ทีม R&D ของอาฟเตอร์ ยู ค่อนข้างพิถีพิถันกับการเลือกวัตถุดิบมาเป็นส่วนผสมหลักของเมนู ซึ่งมะม่วงนอกจากจะเป็นผลไม้ตามฤดูกาลและเป็นที่โปรดปรานจากคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วการเลือกสายพันธุ์และคิดค้นสูตรที่สามารถบ่งบอกและสะท้อนเอกลักษณ์ของทั้ง 2 แบรนด์ออกไปยังผู้คนเมื่อได้ทานแล้วนึกถึงเราเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ความโดดเด่นเมนู คือ การใช้มะม่วงสุกและดิบหลายสายพันธุ์มาทำเกล็ดน้ำแข็ง ท็อปปิ้งด้วยมะม่วงให้รสหวานอมเปรี้ยว เสิร์ฟคู่กับซอสพริกศรีราชาพานิชและโรยผงบ๊วยช่วยเพิ่มความเค็มเผ็ดตัดความหวานได้ดี มอบเนื้อสัมผัสอร่อยกลมกล่อมและกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร เชื่อมั่นว่าน่าจะได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติหลายกลุ่ม” คุณกุลพัชร์ กล่าว
ถ้วยละ 275 บาทแถมซอสพริกศรีราชาพานิชกลับบ้าน
คุณวรัญญา กล่าวอีกว่าความสนุกของการทานเมนูนี้ คือ เมื่อสั่ง “คากิโกริแมงโก้นาดาซอสศรีราชา” ราคาถ้วยละ 275 บาท รับซอสพริกศรีราชาพานิช 1 ขวด มาทานคู่กันแล้วยังสามารถนำซอสพริกทั้งขวดกลับบ้านไปได้เลย โดยเราชูเคล็ดลับ (Gimmick) ความสนุกให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมเป็นหนึ่งในการเลือกรสชาติและระดับความเผ็ดในแบบฉบับของตัวเอง โดยทำแคมเปญสื่อสารการตลาดแบ่งตามใจชอบออกเป็น 2 ทีม #ทีมโรยผงบ๊วย หรือ #ทีมราดซอสพริกศรีราชาพานิช ใครจะชอบเผ็ดมาก หรือ เผ็ดน้อย จะเลือกทานสไตล์ไหนก็อร่อยฟินกับเมนูได้ไม่แพ้กัน…เพื่อให้ผู้บริโภคได้ค่อยๆ ซึมซับรสชาติและมีความสุขที่ได้ลอง
“คากิโกริแมงโก้นาดาซอสศรีราชา” ล้อมทุกจุดเช็คอินช่วงสงกรานต์
จากสภาพอากาศเมืองไทยปีนี้ที่ร้อนทะลุ 40 องศา ซึ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติมักออกมาเล่นน้ำกันอย่างคึกคัก หากใครกำลังมองหาของหวานคลายร้อน เติมความสดชื่น เมนู “คากิโกริแมงโก้นาดาซอสศรีราชา” พร้อมเสิร์ฟแล้วตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน จนถึงวันที่ 10 พฤษภาคม 2568 (ระยะเวลา 1 เดือน) หรือจนกว่าสินค้าจะหมด โดยสามารถอร่อยกับเมนูนี้ได้ ณ อาฟเตอร์ ยู หลายสาขาใกล้บ้าน (ยกเว้น สาขาสุวรรณภูมิ) ทั่วจุดเช็คอินเทศกาลสงกรานต์นี้
ความน่าสนใจของความร่วมมือระหว่างสองแบรนด์ชั้นนำระดับประเทศครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงการเปิดตัวเมนูใหม่ตามฤดูกาลเท่านั้นแต่ยังสะท้อนถึงวิสัยทัศน์และบทบาทของผู้บริหารที่ต้องการขยายฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งร่วมกันในอนาคตเพื่อนำพาแบรนด์ก้าวข้ามทุกความท้าทายและเติบโตอย่างยั่งยืน.