เปิดตัว Smart Patient Management นวัตกรรม AI บริหารจัดการคนไข้ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ

Agnos Health บริษัทสตาร์ทอัปผู้เชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ และโรงพยาบาลกรุงเทพ  ได้ร่วมพัฒนาบริการระบบ Smart Patient Management ที่ช่วยบริหารจัดการคนไข้ด้วยการใช้  AI หรือเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์  เปิดใช้งานแล้วที่  Health Design Center (HDC) โรงพยาบาลกรุงเทพ สำนักงานใหญ่  ต่อเนื่องจากการเปิดให้บริการระบบ Smart Registration ที่สามารถใช้ตู้ Kiosk ลงทะเบียนผู้ป่วย ที่แผนกลงทะเบียน ที่ผ่านมา

นพ.สมฤทธิ์ จันทรประทิน รองผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายสารสนเทศ โรงพยาบาลกรุงเทพ กลุ่ม 1 กล่าวว่า “การนำระบบ Smart Patient Management มาใช้ที่ Health Design Center (HDC) ซึ่งมีผู้รับบริการจำนวนมากในแต่ละวัน มีขั้นตอนเยอะในการตรวจรักษา แล้วทำให้เกิดช่องว่างระหว่างแพทย์ พยาบาล และ ผู้รับบริการ เมื่อเราใช้ระบบ AI ทำให้กระบวนการสื่อสารที่ไม่จำเป็นระหว่างทีมลดลง ยังช่วยบริหารจัดการคนไข้ในขั้นตอนการรับบริการ อาทิ รายการตรวจที่รอรับบริการ เวลาที่ใช้ในการตรวจ  เพิ่มความสะดวกลดปัญหาจากการพูดคุยและต้องถามซ้ำหลายครั้ง เพราะคนไข้รู้ข้อมูลโดยระบบที่พัฒนาขึ้นมา ผลลัพธ์เหนือความคาดหวังเนื่องจาก flow คนไข้โรงพยาบาลมีความซับซ้อนมาก หากเทคโนโลยีที่ทาง Agnos ตอบรับความซับซ้อนนี้ได้ สามารถขยายการบริการไปยังศูนย์อื่นๆ ภายในโรงพยาบาลในอนาคต”

พญ.เกวลิน รังษิณาภรณ์  ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพและผู้อำนวยการ Health Design Center กล่าวว่า  “Health Design Center คือ แผนกตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ เรามีคนไข้มารับบริการวันนึง 200 – 300 ราย  ในแต่ละชุดตรวจก็จะมีความซับซ้อน  ความยากของแผนกคือการบริหารจัดการเรื่องคิว  คนไข้แต่ละคน มีชุดตรวจที่หลากหลาย  มีขั้นตอนการตรวจ มีเวลาการตรวจที่ไม่เท่ากันที่ผ่านมาใช้เจ้าหน้าที่ในการบริหารจัดการเรื่องคิว ซึ่งพอเราใช้คน ก็จะมีปัญหาอุปสรรคเกิดขึ้น หลังจากที่เราเอาระบบการบริหารจัดการคิวของ Agnos เข้ามาใช้   AI เป็นเทคโนโลยี ในการช่วยบริหารจัดการคิว ช่วยให้สามารถกระจายคิวของคนไข้ไปตรวจในส่วนต่าง ๆ ของแผนกได้อย่างทั่วถึง และลื่นไหลกว่าการใช้เจ้าหน้าที่เป็นคนบริหารจัดการคิว”


จุดเด่นของระบบ Smart Patient Management ที่ได้นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เข้ามาช่วยบริหารจัดการคนไข้ มีดังนี้

  • การแจ้งเตือนสถานะแบบทันที  (Real-time status update) ระบบสามารถดู สถานะคิว และ รับการแจ้งเตือนคิวตรวจของคนไข้ ผ่าน Line หรือเว็ปไซต์ หรือแอปพลิเคชันบนมือถือ ทั้งยังสอดคล้องกับคิวแจ้งเตือนบนจอ TV ในแผนกตรวจนั้นๆ ทำให้สามารถรู้คิวของตนเองชัดเจน คนไข้ไม่ต้องคอยถามสถานะการรอคอยจากเจ้าหน้าที่ และสามารถดูระยะเวลารอคอยได้ตลอดเวลาทำให้คนไข้ไม่ต้องแออัดหน้าห้องตรวจ
  • แบบฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์ (E-Form) และ AI แนะนำแพ็กเกจตรวจสามารถใช้งาน E-form แทนการกรอกฟอร์มบนกระดาษ คนไข้สามารถกรอกข้อมูลบนฟอร์มด้วยตนเองก่อนมาโรงพยาบาล ลดเวลาที่ต้องมารอลงทะเบียนหน้าเคาน์เตอร์ นอกจากนี้ ระบบสามารถตรวจเช็คความเสี่ยงด้านสุขภาพของคนไข้ เพื่อแนะนำแพ็กเกจตรวจที่เหมาะสมกับคนไข้แต่ละคนได้
  • AI แนะนำลำดับการตรวจ (AI next exam recommendation) เป็นตัวช่วยส่งต่อการตรวจให้กับเจ้าหน้าที่ โดยระบบ AI เสมือนผู้ช่วย (Co-pilot) จะมีการประมวลผลจากรายการตรวจของคนไข้แต่ละคน เวลาการรอคอยของแต่ละรายการ  เวลานัดหมาย และลำดับความสำคัญทางคลินิก เพื่อแนะนำลำดับการตรวจของคนไข้ให้เหมาะสม เกิดการกระจายตัวของคนไข้ให้ได้มากที่สุด เพื่อลดระยะเวลาการรอคอยของคนไข้
  • การจัดการภาพรวมของคนไข้ (Manage overall patient flow) เจ้าหน้าที่พยาบาลสามารถคอยดูแลภาพรวมคิวของคนไข้ทั้งแผนกหรือทั้งระบบ ให้คนไข้ไม่ล้น จนต้องรอคิวตรวจนานเกินไป โดยสามารถดูระยะเวลารอคอยของแต่ละรายการตรวจได้ และ สามารถโยกคนไข้ ไปตรวจรายการอื่นได้ทันที หากระยะเวลารอคอยมากเกินไป
  • การบริหารจัดการเจ้าหน้าที่ (Operation management) สามารถดูสถานะการให้บริการและบริหารจัดการเจ้าหน้าที่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ โดยระบบ AI ช่วยแนะนำปรับเปลี่ยน ห้องแบบ Multi-purpose เพื่อลดคิวตรวจที่แออัดในบางรายการได้

ความสำเร็จของการพัฒนาระบบ Smart Patient Management ในครั้งนี้ สามารถช่วยลดเวลารอคอยได้มากถึง 50%  และลดภาระงานของเจ้าหน้าที่ในหลายขั้นตอน และ ทำให้เจ้าหน้าที่มีเวลาดูแลคนไข้มากขึ้น จากที่ต้องคอยดูแลเอกสารคนไข้ และรันคิวตรวจเป็นหลัก โดยคาดหวังว่าทั้งผู้ให้บริการ เช่น แพทย์ พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาล และฝั่งผู้มารับบริการ หรือคนไข้ จะได้รับประโยชน์สูงสุดและมีความประทับใจต่อการบริการที่เพิ่มมากขึ้น 

คุณศุทธนุช หางแก้ว หัวหน้าแผนก และ คุณกุลธิดา ไวแสน พยาบาลประจำแผนก Health Design Center  ได้กล่าวว่า “จากแต่ก่อนเป็นการแจกคิวแบบระบบแมนนวล เมื่อมีการใช้ระบบคิวของ Agnos ก็ทำให้ดูสมาร์ทขึ้นโดยการใช้ระบบคิว และคนไข้สามารถดูคิวตัวเองได้จากมือถือ  ระบบช่วยในการทำงานได้มาก ลดภาระหน้างาน เพราะว่าทุกอย่างอยู่ในระบบ สามารถลดเวลาการทำงาน  ทำให้สามารถบริการคนไข้ได้เพิ่มมากขึ้น  และระบบใช้งานง่าย  ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากคนไข้ คนไข้ก็ไม่ต้องลุกมาถามเจ้าหน้าที่ สามารถตรวจสอบคิวของตัวเองจากระบบได้เลย การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัด คือการได้เห็นภาพรวมของการให้บริการในแต่ละเครื่องมือ ทราบสถานะคิวของคนไข้ในแต่ละจุด ทำให้การให้บริการมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น สร้างความประทับใจให้กับผู้รับบริการ”


ดร. ปพนวิช ชัยวัฒโนดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แอ็กนอสเฮลท์  ปิดท้ายว่า “ระบบ Smart Patient Management ได้นำ AI Co-pilot มาใช้ช่วยสถานพยาบาลบริหารจัดการคนไข้ ลดขั้นตอนต่าง ๆ ที่แมนนวล มาเป็นการใช้ระบบบริหารจัดการแบบอัตโนมัติ นับเป็นการนำระบบ AI เข้ามาใช้ช่วยดูแลคนไข้ในโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำในไทย ช่วยพัฒนาศักยภาพของโรงพยาบาลในไทยให้ไปไกลในระดับสากล ตอบสนองเทรนด์ Smart hospital นอกจากนี้ โดยระบบ ระบบ Smart Patient Management รองรับการประยุกต์ใช้กับสถานพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งการบริหารจัดการแผนกผู้ป่วยนอก และบริหารจัดการเอกสารต่าง ๆ ให้อยู่ในรูปแบบดิจิตอลแบบสมบูรณ์สามารถปรับแต่ง ปรับปรุงเฉพาะส่วน ให้เหมาะสมเข้ากับทุกระบบบริการ และช่วยเติมเต็มให้การบริการของคุณเป็นที่ประทับใจแก่กลุ่มลูกค้าได้”

สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านทาง https://www.agnoshealth.com/smart-hospital-and-clinics