สมาคมการค้ายาสูบไทย จี้หน่วยงานภาครัฐยกระดับการปราบปรามขบวนการค้าบุหรี่เถื่อนอย่างเด็ดขาด ย้ำต้องทำงานร่วมบริการขนส่งพัสดุทุกค่าย หลังพบผู้ขายเปิดร้านส่งพัสดุบังหน้า แต่หลังร้านแพคบุหรี่เถื่อนขายออนไลน์กระจายทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว ซ้ำยังใช้รถกระบะและรถตู้เป็นโกดังเคลื่อนที่ตบตารัฐ เย้ยกฎหมาย โกยเงินจนร้านค้าถูกกฎหมายแทบไม่มีที่ยืน
สืบเนื่องจากปฏิบัติการ “สิงห์สยบควัน” บุกทลายบุหรี่เถื่อน บุหรี่ไฟฟ้า และสุราเถื่อน 7 จุดในเมืองหาดใหญ่ ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
นางสาวธัญญศรัณ แสงทอง ผู้อำนวยการบริหาร สมาคมการค้ายาสูบไทย ให้ข้อมูลว่า สมาคมฯ พบเทคนิคการกระทำผิดใหม่ เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่รัฐ ด้วยการเปลี่ยนโฉมเป็นร้านโชห่วย และไม่มีโกดังเก็บบุหรี่เถื่อนเป็นหลักแหล่ง เพราะง่ายต่อการตกเป็นเป้าของปราบปราม ยากต่อการหลบหนี แต่หันไปขายออนไลน์ ส่งสินค้าผ่านบริการขนส่งพัสดุที่เข้าถึงผู้ซื้อทั่วประเทศได้ในเวลาอันรวดเร็ว นอกจากนี้ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจบุหรี่เถื่อนเติบโตอย่างก้าวกระโดด จนกินส่วนแบ่งถึง 1 ใน 4 ของทั้งอุตสาหกรรม คือ “การเก็บเงินปลายทาง” เพราะจะทำให้เจ้าหน้าที่รัฐไม่สามารถสืบหาเส้นทางการเงินได้เมื่อร้านค้าถูกจับกุมและมีการสืบสวนสอบสวนต่อ
นางสาวธัญญศรัณ กล่าวเสริมว่า “ปัจจุบัน หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายต่างทำหน้าที่กันอย่างเต็มที่ในการจับกุมและปรามปรามผู้กระทำผิดค้าบุหรี่เถื่อน บุหรี่ไฟฟ้า แต่ก็ไม่สามารถสืบสาวถึงต้นตอของการลักลอบนำเข้าได้เต็มประสิทธิภาพเพราะผู้กระทำผิดสรรหาวิธีการใหม่ ๆ มาลัดเลาะตามช่องว่างทางกฎหมายเสมอ หากจะปราบปรามบุหรี่เถื่อนให้สิ้นซาก หน่วยงานรัฐต้องได้รับความร่วมมือจากผู้ให้บริการขนส่งพัสดุทั้งรัฐและเอกชนทุกค่าย ในการออกมาตรการคัดกรองพัสดุ และระบุโทษหากพบเจอการส่งสินค้าผิดกฎหมาย นอกจากนี้ยังรวมถึงแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ด้วย ที่เปิดให้ขายสินค้าเหล่านี้โดยไม่มีการคัดกรองก่อน”
สมาคมการค้ายาสูบไทยให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ของร้านค้าบุหรี่ถูกกฎหมายว่า การเติบโตของบุหรี่เถื่อนและบุหรี่ไฟฟ้า มีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย เช่น ราคาขายปลีกที่สูงทำให้เกิดช่องว่างด้านราคา เปิดช่องให้ผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปหาสินค้าทดแทนที่ราคาถูกเข้าถึงง่าย และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่มากขึ้น สะท้อนให้เห็นจากสัดส่วนการบริโภคบุหรี่ผิดกฎหมายในประเทศไทยที่พุ่งสูงถึง 25.5% ในไตรมาสที่ 1 ปีพ.ศ. 2567 เป็นผลให้ยอดขายบุหรี่ของร้านค้าถูกกฎหมายกว่า 500,000 ร้านทั่วไทยตกประมาณ 15% – 30% ของรายได้รวมต่อวัน และยังมีขบวนการชักชวนให้เข้ามาขายบุหรี่เถื่อนโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายด้วย
“สมาคมฯ วอนหน่วยงานที่มีอำนาจบังคับใช้กฎหมายเช่น กรมสรรรพสามิต กรมศุลกากร ตำรวจ ปอท. กรมสอบสวนคดีพิเศษ และกระทรวงดิจิทัลฯ ยกระดับมาตรการควบคุมการขายออนไลน์กับการเข้มงวดกับผู้ให้บริการขนส่งพัสดุในการขนส่งบุหรี่ผิดกฎหมาย และขยายผลสืบสวนไปยังผู้อยู่เบื้องหลังการค้าบุหรี่เถื่อนในทุกช่องทางที่เกิดขึ้นนี้ ทางสมาคมฯ จะรวบรวมเบาะแสจากร้านค้าในท้องถิ่นเพื่อส่งให้เจ้าหน้าที่ไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป” ผู้อำนวยการบริหาร สมาคมการค้ายาสูบไทย กล่าว