อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) เปิดแผนสร้างความอยู่ดีมีสุขให้สังคมไทยรองรับการก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุแบบสุดยอดในปี 2578 เร่งผสานพันธมิตรทุกภาคส่วน ตั้งเป้าเพิ่มการรับรู้และเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ปัญหาสมรรถภาพทางกายให้ผู้สูงวัยกว่า 4 ล้านคน ให้กลับมาฟิตและเคลื่อนไวได้อย่างอิสระและมั่นใจ เดินหน้าสร้างสรรค์กิจกรรมสนับสนุนการ “กินดี มีสุข” ให้สนุกกับชีวิตหลังเกษียณอย่างเต็มที่กับครอบครัว ควบคู่ไปกับการบริโภคนวัตกรรมผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกรดอะมิโนผสมคอลลาเจนสำหรับผู้สูงวัย “อะมิโนมอฟ” ที่อุดมไปด้วยกรดอะมิโนลิวซีน และกรดอะมิโนจำเป็นอีก 8 ชนิด มีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อและข้อต่อในผู้สูงวัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างดีเยี่ยมในประเทศญี่ปุ่น
มร. อิชิโระ ซะกะกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “จากข้อมูลของกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พบว่าประเทศไทยมีประชากรผู้สูงวัยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นอันดับ 3 ของโลก และอันดับ 2 รองจากสิงคโปร์ในอาเชียน ภารกิจในการดูแลกลุ่มผู้สูงวัยจำนวน 1 ใน 5 ของประชากรไทย 66 ล้านคน ที่กำลังจะก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุแบบสุดยอดในปี 2578 นับเป็นโจทย์ที่ท้าทายของประเทศไทยในการเตรียมความพร้อมรับมือ วางแผน และปรับตัวในเชิงนโยบายและโครงสร้างในระยะยาว สอดคล้องกับเป้าหมายที่สำคัญในการพัฒนาอย่างยั่งยืนภายในปี 2573 ของกลุ่มบริษัทอายิโนะโมะโต๊ะ และวิสัยทัศน์ใหม่ในฐานะผู้นำในการสร้างความอยู่ดีมีสุข (Well-Being) ให้สังคมไทย ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์อาหารและสุขภาพ เพื่อให้คนไทยได้ ‘กินดี มีสุข’ ผ่านการประยุกต์ใช้ศาสตร์แห่งกรดอะมิโน (AminoScience) ซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญตั้งแต่เริ่มต้นธุรกิจของบริษัทฯ”
“จากการศึกษาของอายิโนะโมะโต๊ะพบว่า ผู้สูงอายุชาวไทยกว่า 4 ล้านคน มีความเสี่ยงและกำลังประสบอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง เคลื่อนไหวได้ช้าหรือเดินทางไกลลำบาก ฯลฯ เราจึงประยุกต์ใช้ศาสตร์แห่งกรดอะมิโน (AminoScience) มาสร้างสรรค์ “อะมิโนมอฟ” ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสำหรับผู้สูงวัย ที่อัดแน่นด้วย “กรดอะมิโนลิวซีน” และกรดอะมิโนจำเป็นอีก 8 ชนิดที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ รวม 3,000 มก. ให้เป็นทางเลือกในการเสริมสร้างและคงสภาพของมวลกล้ามเนื้อ รวมทั้งทำหน้าที่ในการพยุงกระดูกและข้อต่อ เตรียมความพร้อมตั้งแต่ก่อนย่างเข้าและเมื่ออยู่ในวัยสูงอายุ โดย 1 ซอง 5 กรัม ไม่มีน้ำตาล ดูดซึมเร็ว ให้พลังงาน 20 กิโลแคลอรี เทียบเท่ากับการบริโภคโปรตีนเวย์ 20 กรัม”
ทั้งนี้ จุดเด่นของ “อะมิโนมอฟ” สามารถช่วยตอบโจทย์ความต้องการในการดำเนินชีวิต ช่วยแก้ปัญหาสมรรถภาพทางกายของผู้สูงวัยชาวไทยให้กลับมาฟิตและเคลื่อนไวได้อย่างอิสระและมั่นใจ รวมทั้งสนุกกับการใช้ชีวิตในวัยเกษียณ ได้ทำกิจกรรมกับครอบครัวและคนที่รักได้อย่างเต็มที่
“เราตั้งเป้า เพิ่มการรับรู้และกระตุ้นให้ผู้สูงวัยและครอบครัว ตระหนักถึงการเสื่อมสภาพทางกายภาพและเตรียมความพร้อมได้อย่างถูกวิธี โดยมุ่งหาและสร้างสรรค์กิจกรรมร่วมกับพันธมิตรในทุกภาคส่วน รวมทั้งขยายช่องทางการจัดจำหน่ายตอบโจทย์พฤติกรรมการซื้อของผู้สูงวัย เพิ่มเติมจาก Line Account และ Facebook และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายผ่านโซเซียลเน็ตเวิร์ก, ร้านค้าออนไลน์บน Shopee Lazada TikTokShop ฯลฯ อีกทั้งยังขยายช่องทางการขายไปยังกลุ่มร้านขายยา อีกด้วย เพื่อเข้าถึงผู้สูงอายุจำนวน 26,000 คน ภายในปี 2567” มร. ซะกะกุระ กล่าวทิ้งท้าย
ด้าน รศ.ดร.สุวิมล ทรัพย์วโรบล รองคณบดีฝ่ายวิชาการและการศึกษา คณะสหเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวในงานเสวนาหัวข้อ “Well-Being Talk: Aging Society สุขดี วัยเก๋า” ว่า “ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ควรได้รับโปรตีน 1-1.2 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวัน แต่พบกว่าผู้สูงวัยโดยส่วนใหญ่ ได้รับโปรตีนไม่เพียงพอในแต่ละวัน เนื่องจากผู้สูงวัยส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายจึงมีปัญหาการดูดซึมโปรตีน รวมทั้งทานอาหารจากเนื้อสัตว์ ไข่ นม ได้น้อย กินอะไรก็ไม่อร่อย ทำให้กล้ามเนื้อไม่แข็งแรง เคลื่อนไหวไม่สะดวก ทำให้ได้รับโปรตีนไม่เพียงพอ การบริโภคกรดอะมิโนซึ่งเป็นสารอาหารที่ประกอบเป็นโปรตีนจึงเป็นทางเลือกในการเพิ่มโปรตีนให้กับร่างกาย เพื่อซ่อมแซมเนื้อเยื่อและเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้กลับมา นอกจากนี้ ยังควรหมุนเวียนกินอาหารที่หลากหลายให้ครบ 5 หมู่ โดยกินผักผลไม้ให้ถึง 5 กำมือ กินอาหารให้ครบ 5 สี ได้แก่ เขียว เหลืองหรือส้ม แดง น้ำเงินหรือม่วง และขาวหรือน้ำตาล”
ที่ผ่านมา “อะมิโนมอฟ” ยังได้ริเริ่มส่งต่อแนวคิด “สุขดี วัยเก๋า” โดยจับมือกับเครือเนชั่น จัดงานเสวนาในหัวข้อ “Well-Being Talk: Aging Society สุขดี วัยเก๋า” และ “เสน่ห์วัย 60+ กายดี สุขภาพแข็งแรง” ถ่ายทอดข้อมูลและแบ่งปันประสบการณ์ตอบโจทย์สังคมสูงอายุให้มี “สุขดี วัยเก๋า” ทั้งการให้ความสำคัญกับด้านโภชนาการ ความสำคัญของกรดอะมิโนในการเสริมสร้างโปรตีนและรสชาติอาหารให้อร่อยขึ้น ฯลฯ โดยผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายวงการ อาทิ รศ.ดร.สุวิมล ทรัพย์วโรบล พญ.จิรา ถาวรประดิษฐ์ ดร.สง่า ดามาพงษ์ นิรุตติ์ ศิริจรรยา ฟ้าใส พึ่งอุดม และสินีนาฎ ฮะตระกูล มาแสดงทัศนะ นอกจากนี้ ยังจัดกิจกรรม “ไกด์เก๋ากรุง” (The Real Local Guide) ร่วมกับ Young Happy สร้างการมีส่วนร่วมและสร้างแรงบันดาลใจ ชวนผู้บริโภควัยเก๋าออกมาใช้ชีวิตกับเพื่อนและครอบครัวในแบบ “สุขกายสุขใจ” จัดโปรแกรมพาเดินเที่ยวและสัมผัสดีเทลรวมทั้งร้านเด็ดขวัญใจคนพื้นถิ่นที่ฟิตและฟินตลอด 3 ชั่วโมง ไกด์เก๋ากรุงเจ้าถิ่นในย่านนั้น รวมทั้งการสื่อสารผ่านกลุ่ม KOLs เพื่อให้เห็นประสิทธิภาพจากการดื่มอะมิโนมอฟอย่างต่อเนื่อง
ด้านพี่เคน 1 ใน 3 ไกด์เก๋กรุง วัย 63 ปี กล่าวว่า “รู้สึกดีใจที่ได้กลับมาใช้ชีวิตที่มีความสุขมากขึ้น คือได้ทำตามความฝันที่อยากถ่ายทอดความรุ่งเรืองของย่านนางเลิ้งให้ทุกคนได้รับรู้ และยังได้สร้างแรงบันดาลใจให้คนวัยเดียวกันได้กลับมาดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเอง เพื่อออกมาทำกิจกรรมร่วมกันกับเพื่อนๆ และครอบครัวได้อีกครั้ง ผมเชื่อว่า ‘ถ้าเรายังเดินได้ ก็ยังมีความฝันได้’ ดังนั้นต้องดูแลสุขภาพกายให้แข็งแรง รับประทานสิ่งดีๆ ที่มีประโยชน์อย่างอะมิโนมอฟ ที่ช่วยสร้างเสริมความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อและช่วยพยุงกระดูกและข้อต่อ เพื่อที่จะได้ทำในสิ่งที่เราชอบได้อย่างมีความสุข”
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของกิจกรรมภายใต้แนวคิด “สุขดี วัยเก๋า” จากอะมิโนมอฟ ได้ทาง FB: Ajinomoto Amino House