กิฟฟารีน ปลื้มคว้ารางวัล Thailand’s Most Admired Company 2023-2024 ขึ้นแท่นเป็นบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือสูงสุด ในกลุ่มธุรกิจขายตรง จากผลสำรวจทั่วประเทศ เหมือนเป็นเสียงสะท้อนจากมหาชนในการเป็นบริษัทที่ยืนหนึ่งในใจผู้บริโภคคนไทยมาอย่างยาวนาน มอบรางวัลโดยนิตยสาร BrandAge พร้อมเผยไตรมาสแรกปี 67 ธุรกิจมีสัญญาณสดใส เตรียมแผนทำตลาดเชิงรุกกระตุ้นยอดสิ้นปี 2567 เติบโต 5-10 % ต่อเนื่องจากปี 2566 หลังเห็นสัญญาณของภาพรวมเศรษฐกิจประเทศว่า สินค้ากลุ่มสุขภาพและความงาม เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ต้นปี
นายพงศ์พสุ อุณาพรหม รองกรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่เพื่อการเติบโตองค์กร บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด กล่าวว่า “กิฟฟารีน มีความภูมิใจเป็นอย่างมากที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติในครั้งนี้ ขอขอบคุณนิตยสารBrandAge และคณาจารย์ผู้ทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการสำรวจวัดผล รางวัลนี้เป็นเหมือนของขวัญวันเกิดครบรอบ 28 ปี ที่ดีที่สุดของกิฟฟารีน ซึ่งวันเกิดของกิฟฟารีนคือวันที่ 17 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา ที่สำคัญรางวัลนี้ถือเป็นกำลังใจในความมุ่งมั่นของเราในการดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใสและมีคุณธรรม รวมถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพให้แก่ผู้บริโภค” โดยนิตยสาร BrandAge และ BrandAge Online ได้จัดงานมอบรางวัล Thailand’s Most Admired Company 2023-2024 ขึ้นในวันที่ 27 มี.ค.2567 นี้ ที่โรงแรมพูลแมน คิงเพาเวอร์ กรุงเทพฯ
กิฟฟารีน เป็นบริษัทขายตรงสัญชาติไทย ที่มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจมาตลอด 28 ปี และกำลังจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 29 เพื่อสร้างอาชีพ รายได้ และคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนไทยหลายแสนคน รางวัล Thailand’s Most Admired Company 2023-2024 นี้ เป็นรางวัลที่การันตีคุณภาพและความภูมิใจที่สุดของกิฟฟารีน ที่สามารถคว้ารางวัล ได้สำเร็จอีกปี เป็นปีที่ 2 โดยได้คะแนนสูงสุด เป็นบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือสูงสุด ในกลุ่มธุรกิจขายตรง โดยมีผลคะแนนพิจารณา 6 ปัจจัย ในด้านความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรม ความสามารถในการดำเนินธุรกิจ ภาพลักษณ์ การบริหารการจัดการ ความรับผิดชอบต่อสังคม และการบริการ ถือเป็นสุดยอดองค์กรแห่งปี ที่ครองแชมป์บริษัทขายตรงในใจผู้บริโภคคนไทยมายาวนาน ซึ่งรางวัลนี้เป็นการยืนยันถึงความแข็งแกร่งของกิฟฟารีน ในตลาดขายตรงทั้งเมืองไทยและต่างประเทศเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการดีๆ ต่อเนื่องด้วย เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
คุณพงศ์พสุ เสริมว่า “สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯ ไตรมาสแรกของปี 2567 นี้ มองเห็นสัญญาณสดใส ที่ยังพอเติบโตได้ และเห็นสัญญาณของภาพรวมเศรษฐกิจประเทศว่า สินค้ากลุ่มสุขภาพและความงาม เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ต้นปี ดังนั้นปี 2567 นี้ บริษัทฯ จะทำการตลาดเชิงรุกต่อเนื่องทั้งออฟไลน์และออนไลน์ พร้อมเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อีกหลายรายการออกสู่ตลาด อัดกิจกรรมส่งเสริมการขายทุกรูปแบบตลอดทั้งปี และเตรียมวางแผนแคมเปญโฆษณาประชาสัมพันธ์สร้างกระแสการรับรู้ในทุกช่องทาง เพื่อกระตุ้นยอดรายได้รวมสิ้นปี 2567 ให้เติบโต 5-10% ต่อเนื่องจากปี 2566 และรักษาตำแหน่งผู้นำในอุตสาหกรรมขายตรงไว้”