SCGD ผสานพลังฐานการผลิตในไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย เพิ่มประสิทธิภาพระบบจัดหาสินค้าร่วมกันในภูมิภาค (Business Sourcing) เสริมทัพสินค้ากระเบื้อง สุขภัณฑ์ และวัสดุปิดผิวประมาณ 7,000 รายการ ป้อนตลาดอาเซียน ลูกค้ามั่นใจแบรนด์อันดับ 1 ในทุกประเทศการันตีด้วยสินค้าคุณภาพสูง ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ตั้งเป้าปีนี้เพิ่มยอดขายรวม เป็นกว่า 30,000 ล้านบาท
นายนำพล มลิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGD เปิดเผยว่า หนึ่งในกลยุทธ์หลักของ SCGD เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน คือ การบริหารจัดการซัพพลายเชนจากฐานการผลิตในภูมิภาค เพื่อเติมเต็มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ตามความต้องการของลูกค้า และเพิ่มโอกาสทางการขาย (Cross Selling) จากการจัดหาสินค้าร่วมกัน (Business Sourcing) โดยตั้งเป้าเพิ่มยอดขายรวมของ SCGD เป็นกว่า 30,000 ล้านบาทในปี 2567
ทั้งนี้ หนึ่งในจุดแข็งของ SCGD ด้านการผลิต คือ ฐานการผลิตในเวียดนามที่ครบวงจรตั้งแต่การผลิตวัตถุดิบต้นน้ำ การนำมาใช้ในกระบวนการผลิตจนถึงการผลิตบรรจุภัณฑ์ได้เอง ช่วยให้บริษัทฯ สามารถควบคุมกระบวนการได้เป็นอย่างดี ทั้งในด้านต้นทุน ปริมาณและคุณภาพของวัตถุดิบ ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ของ SCGD ยังคงมีคุณภาพสูงในราคาที่สามารถแข่งขันในตลาด ปัจจุบัน SCGD มีเป้าหมายที่จะใช้ฐานการผลิตในเวียดนามเป็นฐานการส่งออก โดยล่าสุดปริมาณสินค้ากระเบื้องเซรามิกที่ส่งออกจากฐานการผลิตในเวียดนาม คิดเป็น 40% ของสินค้ากระเบื้องเซรามิกทั้งหมดที่ SCGD ส่งออกไปจำหน่ายในอาเซียน
นายนำพล กล่าวเพิ่มเติมว่า “บริษัทฯ มีแผนที่จะสร้างฐานการจัดหาสินค้าร่วมกันสำหรับธุรกิจกระเบื้องและวัสดุปิดผิว และสร้างฐานการจัดหาสินค้าสำหรับสุขภัณฑ์และก๊อกน้ำในประเทศจีนเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านต้นทุนและเพิ่มความหลากหลายของกลุ่มสินค้าและเติมเต็มความต้องการของลูกค้า คาดว่าในปีนี้ SCGD จะสามารถนำเข้าสินค้ากระเบื้อง สุขภัณฑ์ และวัสดุปิดผิว เข้าสู่ตลาดทั้งในประเทศและตลาดต่างประเทศได้ประมาณ 7,000 รายการ โดยจะเป็นการนำเข้ากระเบื้องและวัสดุปิดผิวจากประเทศจีน อินเดีย อิตาลีและสเปน ประมาณ 20 ล้าน ตร.ม. จำหน่ายภายใต้แบรนด์ COTTO, LT by COTTO, SOSUCO, Campana, Prime, Mariwasa, และKIA ซึ่งเป็น แบรนด์สินค้าที่แข็งแกร่งในแต่ละประเทศ การันตีด้วยคุณภาพและสร้างความเชื่อมั่นให้มายาวนาน
ปัจจุบัน บริษัทฯ มีการนำเข้ากระเบื้องเซรามิกสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในประเทศจึงมั่นใจได้ว่า SCGD จะสามารถนำเสนอสินค้าที่หลากหลายและเติมเต็มความต้องการของลูกค้าได้ทุกระดับ และจากกลยุทธ์ของ SCGD ที่ผสานความร่วมมือฐานการผลิตแต่ละประเทศและการสร้างฐานการจัดหาสินค้าร่วมกัน จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การบริหารต้นทุน เพิ่มขีดความสามารถในการสร้างรายได้และศักยภาพในการทำกำไร ตอกย้ำการเป็นผู้นำธุรกิจตกแต่งพื้นผิวและสุขภัณฑ์ครบวงจรในภูมิภาคอาเซียนต่อไป”