โฮมโปร ประกาศยุทธศาสตร์ 5 ปี สู่ธุรกิจแสนล้าน ครั้งแรก! กับ “First Closed Loop Circular Appliances” ปั้นธุรกิจเติบโตสมดุลอย่างยั่งยืน

ผู้นำเรื่องบ้านรายใหญ่อย่าง “โฮมโปร (HomePro)” ปรับตัวนำเทรนด์ ตอกย้ำความเป็นเบอร์หนึ่งผู้นำธุรกิจด้าน Home Solution and Living Experience ในประเทศไทย ด้วยการประกาศทิศทางและแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ขยายธุรกิจสู่แสนล้านบาท ตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาดเติบโตต่อเนื่อง พร้อมขับเคลื่อนโมเดลธุรกิจด้วยแผน Sustainability เติบโตสมดุลอย่างยั่งยืน สู่เป้าหมายองค์กร Net Zero ระดับโลก ภายในปี ค.ศ.2050 และผนึกกำลังพันธมิตรทุกภาคส่วน รับเทรนด์โลกอนาคตมุ่งเน้นพลังงานสะอาดครบวงจร พร้อมเปิดตัวครั้งแรก! “First Closed Loop Circular Appliances” ในงาน HOMEPRO NEXT CHAPTER ก้าวไปสู่ความสำเร็จ ภายใต้แนวคิด “MAKE EVERY CHANGE A BETTER LIFE” สร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ในทุกความเปลี่ยนแปลงของช่วงชีวิต

ยุทธศาสตร์ 5 ปี

นายวีรพันธ์ อังสุมาลี กรรมการผู้จัดการ บมจ. โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์  หรือ โฮมโปร (HomePro) เปิดเผยถึงทิศทางและแผนยุทธศาสตร์ 5 ปีว่าโฮมโปร พลิกบทบาทธุรกิจครั้งใหญ่บนความท้าทายใหม่ๆ พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า คู่ค้า รวมถึงพันธมิตร ตอกย้ำแบรนด์เบอร์หนึ่งผู้นำเรื่องบ้าน ด้วยยุทธศาสตร์ 5 ปี เพื่อก้าวสู่ธุรกิจแสนล้าน ภายใต้แผนการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน ประกอบด้วย

  • ขยายสาขาครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศกว่า 170 สาขา
  • ช่องทางการขายออนไลน์ที่ครอบคลุม และเชื่อมถึงกันแบบไร้รอยต่อ รองรับลูกค้า B2C และขยายฐานลูกค้าไป B2B มากขึ้น พร้อมพัฒนา 3 แอปฯ ช้อปได้ไม่มีสะดุด ได้แก่ HomePro Online, Home Service, Home Card
  • พัฒนาระบบขนส่งและโลจิสติกส์ ขยายพื้นที่เพิ่มกว่า 1 แสนตร.ม. รองรับทุกความต้องการทั่วประเทศ
  • เพิ่มประสิทธิภาพศูนย์กระจายสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย รับและส่งออกสินค้ามากกว่า 4 แสนชิ้น/วัน, ระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ-จัดการคลังได้มีประสิทธิภาพ แม่นยำ ลดความผิดพลาด, บริการให้เช่าคลังสินค้า, บริการขนส่งกลับ ด้วยต้นทุนต่ำ ตลอดจนส่งมอบสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ รวดเร็ว ถึงมือลูกค้า
  • ยกระดับประสบการณ์การซื้อสินค้าและบริการสุดพิเศษให้กับลูกค้า ภายใต้แนวคิด Lifetime Eco-System

เดินหน้าสู่ความยั่งยืน

นายวีรพันธ์กล่าวถึงแผนการเดินหน้าสู่ความยั่งยืนว่า “โฮมโปรมุ่งทำธุรกิจอย่างยั่งยืน” บนหลักการ 3S ประกอบด้วย เชื่อมต่อทุกช่องทาง อย่างไร้ขอบเขต (Synergized Omnichannel), สร้างประสบการณ์พิเศษเฉพาะคุณ (Superior Experiences) และสร้างนวัตกรรมอย่างยั่งยืน (Sustainable Innovation)”

S1 : การเชื่อมต่อทุกช่องทาง อย่างไร้ขอบเขต (Synergized Omnichannel) ด้วยการขยายสโตร์ไปกว่า 170 สาขาครอบคลุมทั่วประเทศ พัฒนาช่องทางการขายออนไลน์ที่ครอบคลุม และเชื่อมถึงกันแบบไร้รอยต่อ ด้วยตัวเลือกสินค้าที่หลากหลายผ่านโฮมโปรออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ HomePro Living (Shopee, Lazada, TikTok) และขยายฐานลูกค้าไปกลุ่มธุรกิจ B2B ให้มากขึ้น ด้วยการสร้างประสบการณ์ที่ดีและเพิ่มความสะดวกสบายในการสั่งซื้อสินค้า เสมือนมาซื้อสินค้าที่สาขาด้วยตนเอง ทั้งนี้โฮมโปรยังได้พัฒนา 3 แอปพลิเคชัน (Connected Seamless Apps.) ให้เชื่อมต่อแบบไม่มีสะดุด ช้อปและรับสิทธิประโยชน์ได้ง่ายๆ ตอบโจทย์ทุกความต้องการ สะดวกสบายมากขึ้น ได้แก่

  • HomePro Online App. แอปพลิเคชัน เพื่อคนรักบ้าน เสมือนมีร้านโฮมโปรอยู่ในมือ สามารถเลือกซื้อสินค้าและบริการทั้งหมดในร้านโฮมโปรได้ทั่วประเทศ ค้นหาสินค้า ตรวจสอบสต็อกและรับสินค้าได้ในทุกสาขา จัดส่งด่วนภายในวัน ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกค้าเลือกซื้อสินค้าและบริการได้ครบ จบ ในแอปเดียว
  • Home Service App. กับฟังก์ชั่นบริการที่หลากหลาย อาทิ การซื้อสินค้า การจัดส่ง รวมทั้งบริการหลังการขาย พร้อมบริการฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ยกระดับเป็น All In One App. แอปฯ เดียวก็สามารถทำได้อย่างครบครัน ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่มองหาความสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็น My Order-ระบบตรวจสอบติดตาม ติดตามวางแผนสินค้า บริการ และสถานะการจัดส่ง-ติดตั้ง, My Reminder-ระบบผู้ช่วยเตือน จัดเก็บข้อมูลเครื่องใช้ไฟฟ้า และแจ้งเตือนรอบบำรุงรักษา และ My IoT-ระบบควบคุมสั่งการ ควบคุมการใช้งาน เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อัจฉริยะ และพลังงานด้วยระบบ IoT
  • Home Card App. สิทธิและบริการพิเศษที่เพิ่มขึ้นของสมาชิก Home Card Member เมื่อซื้อสินค้าและบริการผ่าน HomePro Wallet สะสมเป็นคะแนน สามารถนำไปแลกสิทธิประโยชน์ Earn/Burn Point สำหรับส่วนลด รวมไปถึง Cashback เงินคืนไปยัง Wallet การโอนคะแนน หรือการเช็คสต๊อกสินค้า และนัดหมายเพื่อรับบริการจากสาขาที่ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น

ขณะเดียวกัน โฮมโปรขยายพื้นที่และเพิ่มประสิทธิภาพศูนย์กระจายสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย บนพื้นที่ 373,795 ตร.ม.และอนาคตจะขยายพื้นที่คลังสินค้าเพิ่มอีกกว่า 1 แสนตร.ม. เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ ภายในระยะเวลา 5 ปี โดยมีการเพิ่มศักยภาพ (Speed Efficiency) รับและส่งออกสินค้าขนาดเล็กและใหญ่ มากกว่า 4 แสนชิ้น/วัน และด้วยระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ System : ASRS (Automated Storage and Retrieval System) ทำให้การบริหารจัดการคลังสินค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ แม่นยำ ลดความผิดพลาด และรวดเร็วมากขึ้น รองรับการแข่งขันในธุรกิจ Home Solutionอีกทั้งมีบริการเช่าคลังสินค้า ประหยัด คุ้มค่า (Rental Space) รองรับการเติบโตธุรกิจของคู่ค้า และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับคู่ค้าในระยะยาว พร้อมพัฒนาเทคโนโลยีให้มีประสิทธิภาพที่ทันสมัยมากขึ้น รวมถึงบริการขนส่งกลับ (Backhaul) เพื่อช่วยคู่ค้าด้วยต้นทุนที่ต่ำ และยังเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าที่มีคุณภาพและรวดเร็ว (Last Mile Delivery)พร้อมส่งมอบถึงมือลูกค้า พร้อมพนักงานผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าจะได้รับสินค้าและบริการที่ตรงตามความต้องการ

S2 : การสร้างประสบการณ์พิเศษเฉพาะคุณ (Superior Experiences) ในการซื้อสินค้าและบริการ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ภายใต้การบริหารงานระบบ Lifetime Eco-System เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นเราออกแบบวงจรการบริโภคสินค้าและบริการ ภายใต้แนวคิดหมุนเวียนที่มีประสิทธิภาพ พร้อมส่งมอบประสบการณ์เหนือระดับและครบครันให้กับลูกค้า รวมถึงสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับภาพรวมธุรกิจ ด้วยการบริหารจัดการตั้งแต่การซื้อสินค้าและบริการ การดูแลตลอดอายุการใช้งาน ตลอดจนบริการหลังการขาย บริการซ่อมบำรุง การจัดการทรัพยากรเหลือใช้อย่างถูกวิธี และการนำสินค้ามาผลิตใหม่ ที่เชื่อมโยงทุกอย่างเข้าด้วยกัน ครอบคลุมทุกๆ ช่วงชีวิตของการใช้งานสินค้า

ไม่ว่าจะเป็นระบบ VVIP+Notification/Navigation แจ้งเตือนทุกครั้ง เมื่อมีลูกค้าเข้าใช้บริการที่สาขา สะดวกสบายครบครัน ด้วยบริการที่ให้ลูกค้าสามารถค้นหาสินค้าได้ทันที ไม่ต้องเดินไปที่ชั้นโชว์สินค้า ขณะที่ยังคงความเป็นส่วนตัวให้กับลูกค้า, บริการใหม่ Pre-Order ที่ลูกค้าสามารถช้อปสินค้าได้ล่วงหน้า แล้วรอรับของได้อย่างสบายใจ, บริการ Booking ช่วยให้ลูกค้าช้อปสินค้าทันใจ และนัดบริการต่างๆ ได้ง่าย รวดเร็ว, บริการ Customer Mobile Shopping ลูกค้าสแกนเลือกซื้อสินค้า พร้อมชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ เลือกที่จะรอรับสินค้ากลับ หรือจัดส่งสินค้าถึงบ้าน ได้ตามความต้องการ อีกทั้งยังมีที่ปรึกษาอย่างมืออาชีพ (Home Solution Consultants) คอยให้คำแนะนำและบริการ ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ที่สำคัญยังมีเครื่องมือที่ช่วยออกแบบได้อย่างตรงใจลูกค้า อย่าง Home Solution Tool & Home Inspiration และ ระบบ BYOD ที่จะช่วยยกระดับการขายสินค้าและบริการให้มีความสะดวก ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น รวมไปถึงบริการ E-catalogue ที่ลูกค้าสามารถเลือกและสั่งซื้อสินค้าได้ด้วยตัวเอง ช้อปง่าย ช้อปสบาย จ่ายสะดวก พร้อมจัดส่งรวดเร็ว (Same Day Delivery and Installation) ทั้งหมดที่เราพัฒนาและออกแบบมา ก็เพื่อยกระดับประสบการณ์ช้อปพิเศษเฉพาะคุณให้ลูกค้าทุกคน ทำให้ทุกการซื้อเป็นไปด้วยความสะดวก ตัดสินใจได้ง่าย และประทับใจทุกๆ ครั้งผ่านการใช้บริการที่โฮมโปร

S3 : การสร้างสรรค์นวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน (Sustainable Innovation) ในปี พ.ศ. 2567 พร้อมเปิดตัว “First Retailer Making WEEE* For Closed Loop Circular Appliances by Post HomePro Consumers Recycled”หรือ ผู้ค้าปลีกรายแรกที่ดำเนินโครงการ รีไซเคิล WEEE* พัฒนาสู่ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าหมุนเวียนแบบครบกระบวนการตั้งแต่การเก็บของที่ใช้งานแล้วจากบ้านลูกค้า (HomePro Consumers) เพื่อเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลที่มีมาตรฐาน GRS (Global Recycle Standard) รองรับ เพื่อให้ได้เม็ดพลาสติก PCR (Post Consumer Recycled) ที่มีคุณภาพ เพื่อนำกลับมาผลิตใหม่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าร่วมกับพันธมิตร ได้แก่ Haier, Toshiba และ Venz เพื่อเป้าหมายร่วมกันคือ การลดปริมาณขยะให้กับโลก ซึ่งก่อนหน้านี้โฮมโปรได้จัดทำโครงการ “Trade In-แลกเก่าเพื่อโลกใหม่” พร้อมผนึกกำลังร่วมกับ SCG พัฒนาผลิตสินค้ารักษ์โลก (Circular Product) นำวัสดุเหลือใช้มาออกแบบใหม่เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สามารถนำกลับมาได้ใช้อีกครั้ง และอนาคตเตรียมผนึกกำลังทุกภาคส่วน มุ่งสู่ธุรกิจพลังงานสะอาด และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งในระยะสั้นและยาว รวมถึงปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี ค.ศ.2050 ผ่านโครงการต่างๆ อาทิ ด้านขนส่ง เปลี่ยนเป็นรถขนส่งพลังงานไฟฟ้า (EV Car) ที่เร่งดำเนินการให้ได้ราว 50% ของพาหนะทั้งหมดภายในปี ค.ศ.2030, การติดตั้งโซลาร์เซลล์ ให้กับโฮมโปรและเมกาโฮม ไปแล้วกว่า 80 สาขา และมีแผนที่จะขยายการติดตั้งเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง

โฮมโปรได้รับรางวัลแห่งความภาคภูมิใจ ที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน มาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการได้รับคัดเลือกอยู่ใน Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI 2017-2023, MSCI Global Sustainability Index และ MSCI ESG Ratings Index 2015-2023, FTSE4Good Index 2015-2023, Thailand Sustainability Investment (THSI) 2015-2023 รวมถึงได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 100 บริษัทจดทะเบียนที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล โดยสถาบันไทยพัฒน์ 2015-2023, บริษัทจดทะเบียนที่มีความโดดเด่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน SET Awards 2016-2022 และ Thailand’s Top Corporate Brands 2022-2023 ซึ่งรางวัลเหล่านี้ถือเป็นการการันตีว่าโฮมโปรนั้นได้ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมควบคู่กับการเติบโตที่ยั่งยืนของบริษัทฯ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต อีกด้วย

นอกจากนี้ ผนึกกำลังพันธมิตรทุกภาคส่วน รับเทรนด์โลกอนาคต มุ่งเน้นพลังงานสะอาดครบวงจร

  • ด้านขนส่ง เปลี่ยนเป็นรถขนส่งพลังงานไฟฟ้า (EV Truck) ที่เร่งดำเนินการให้ได้ราว 50% ภายในปี ค.ศ.2030
  • ติดตั้งโซล่าเซลล์ ไปแล้วกว่า 80 สาขา คิดเป็นกำลังการผลิตไฟมากกว่า 60 MWh และมีแผนที่จะขยายเพิ่มเติมต่อเนื่อง
  • EV Car สนับสนุนและส่งเสริมพนักงานใช้รถพลังงานสะอาด

“เชื่อมั่นว่าครั้งนี้ จะเป็นก้าวใหม่ที่นำไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืนของธุรกิจโฮมโปร สร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกภาคส่วน ว่าจะเติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมๆ กัน” นายวีรพันธ์ กล่าว            

#HOMEPRONextChapter #MakeEveryChangeABetterLife #HomePro #homeprothailand #โฮมโปร #เรื่องบ้านโฮมโปรคือคำตอบ #Homepropr