ในสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ท้าทายในปัจจุบัน แบรนด์ไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายสองประการ การลดต้นทุนในขณะเดียวกันก็ยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า จากภูมิทัศน์ที่ซับซ้อนด้วยงบประมาณที่ลดลง ความคาดหวังของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น และความจำเป็นในการนำเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมมาใช้ แม้แบรนด์จะมีการปรับใช้ generative AI ในการปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าอย่างแพร่หลาย แต่ปัจจัยที่แบรนด์ต่างๆ จะต้องให้ความสำคัญกับ ความปลอดภัยของข้อมูล ความยั่งยืน และการเข้าถึงสินค้า เพื่อสร้างความไว้วางใจและขับเคลื่อนความภักดี โดยรายงานจาก Adobe ได้ ไฮไลท์ประเด็นสำคัญที่ใช้ขับเคลื่อนการเติบโตอย่างต่อเนื่องดังนี้
- องค์กรในไทยกำลังตอบสนองต่อแรงกดดันจากสภาพเศรษฐกิจด้วยการลดงบประมาณด้านการตลาดและประสบการณ์ของลูกค้า โดย 34% ได้ดำเนินการไปแล้ว และ 33% วางแผนที่จะดำเนินการดังกล่าวในอีก 12 เดือนข้างหน้า
- แม้จะมีข้อจำกัดด้านงบประมาณ แต่แบรนด์ไทยก็ยังคงมองหาโซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพขั้นตอนการทำงานและยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า แบรนด์ไทย 62% ลงทุนในเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเวิร์กโฟลว์ และ 61% กำลังใช้ generative AI เพื่อสร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคลและเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญการตลาด
- ผู้บริโภคชาวไทยเปิดรับศักยภาพของ generative AI โดย 46% เชื่อว่าสามารถปรับปรุงสินค้าและบริการได้อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ ผู้บริโภค 48% ตระหนักถึงความสามารถของ generative AI ในการปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า ซึ่งทำให้สิ่งนี้กลายเป็นตัวสร้างความแตกต่างที่สำคัญในตลาดที่มีการแข่งขันสูง
- ท่ามกลางการนำเทคโนโลยีมาใช้มากขึ้น งานวิจัยของอะโดบีเน้นย้ำถึงบทบาทที่สำคัญของความไว้วางใจในแบรนด์ในการขับเคลื่อนการใช้จ่ายของผู้บริโภค ในประเทศไทย ผู้บริโภค 33% มีแนวโน้มที่จะยังคงภักดีต่อแบรนด์ที่พวกเขาไว้วางใจ ในขณะที่ 49% มีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายมากขึ้นกับแบรนด์ที่เชื่อถือได้
- โดยปัจจัยสามอันดับแรกที่ส่งเสริมความไว้วางใจและการใช้จ่ายของผู้บริโภคในประเทศไทย คือ ความปลอดภัยของข้อมูล ความยั่งยืน และความสะดวกในการเข้าถึงสินค้า ผู้บริโภคจำนวน 81% จะลดการใช้จ่ายกับแบรนด์ที่กระทบต่อความปลอดภัยของข้อมูลและความเป็นส่วนตัว ขณะเดียวกัน ผู้บริโภค 76% จะลดการใช้จ่ายกับแบรนด์ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้สำหรับผู้พิการ และ 78% เผยว่าจะลดค่าใช้จ่ายกับแบรนด์ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านความยั่งยืน
