“ตราเสือ” พร้อมสนับสนุนยกระดับทักษะและมาตรฐานฝีมือช่างไทยสาขาช่างก่อสร้าง งานผนังและพื้นปูนซีเมนต์ อัพสกิลสถาบันเทคโนโลยีผนังและพื้นอย่างเป็นทางการ พร้อมทีมบุคลากรผู้เชี่ยวชาญมาอัพสกิลมาตรฐานฝีมือแรงงาน หวังแก้ปัญหาการขาดแคลนช่างฝีมือแรงงานและสร้างมูลค่าเพิ่มผ่านการฝึกอบรมทักษะวิชาชีพงานปูนซีเมนต์ชั้นสูง เสริมทักษะให้ช่างก่อสร้างไทยสามารถแข่งขันได้ในระดับเวทีโลก อีกทั้งร่วมมือพันธมิตรธุรกิจนำเสนอนวัตกรรมผ่านเครื่องมือ อุปกรณ์เทคโนโลยีดิจิทัล และความร่วมมือทางธุรกิจใหม่ๆ
นายนพพร กีรติบรรหาร Deputy Chief Marketing Officer -Marketing and Branding Cement and Green Solutions Business – เอสซีจี เปิดเผยว่าตราเสือ ผู้นำนวัตกรรมปูนซีเมนต์จากรุ่นสู่รุ่นที่นำเสนอนวัตกรรมสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่องกว่า 108 ปี ซึ่งที่ผ่านมาได้มุ่งเน้นการศึกษาวิจัยทางการตลาดนำไปต่อยอดพัฒนา นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ปูนซีเมนต์คุณภาพที่ครบครันตามประเภทการใช้งาน รูปแบบวิวัฒนาการงานก่อสร้างพฤติกรรมการใช้งานของช่างก่อสร้างและผู้รับเหมา รวมถึงการประยุกต์เทคโนโลยี องค์ความรู้ใหม่มาปรับใช้
ทั้งนี้ ปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะฝีมือมาตรฐานการทำงานของช่างก่อสร้างที่เรียนรู้จากประสบการณ์ และพฤติกรรมวิธีการทำงานที่คงต้องการผลลัพธ์คุณภาพของงานผนังและพื้นด้วยระยะเวลาการก่อสร้างรวดเร็วขึ้น อีกทั้งต้องสามารถบริหารจัดการงบประมาณ อันเป็นความท้าทายยิ่งสำหรับตราเสือ จึงเป็นที่มาในการยกระดับมาตรฐานฝีมือแรงงานช่างก่อสร้างไทย สาขางานก่ออิฐ ฉาบผนังและที่เกี่ยวข้องกับปูนซีเมนต์ ด้วยการยกเครื่องสถาบันเทคโนโลยีผนังและพื้น ตราเสือ (Tiger Wall and Floor Technology Center) ให้ทันสมัย เข้าถึงสื่อสาร และรองรับพฤติกรรมความสนใจของช่าง ผู้รับเหมารุ่นใหม่ ทั้งการนำเสนอเครื่องมือ อุปกรณ์ที่พัฒนาขึ้นเองร่วมพัฒนากับพันธมิตรทางธุรกิจ หรือนำเข้าจากต่างประเทศ พร้อมองค์ความรู้ต่างๆ หลักสูตรการฝึกอบรมทั้งออฟไลน์ ออนไลน์ และ Virtual Reality โปรแกรมจำลองเสมือนจริง เหมือนได้มายังสถาบันฯ
เพื่ออำนวยความสะดวก ลดระยะเวลาการเดินทาง อีกทั้งยังนับเป็นสถาบันเทคโนโลยีด้านผนังและพื้นปูนซีเมนต์รายแรกในอาเซียน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งภาคทฤษฎีและส่วนปฏิบัติการ รวมถึงเป็นศูนย์เก็บตัวเสริมสร้างทักษะให้กันเยาวชนอาชีวะเป็นตัวแทน
ของประเทศไทยในหมวด สาขาก่ออิฐ ฉาบผนัง ในการแข่งขันทักษะฝีมือแรงงานระดับโลก (World Skill Competition) นับเป็นก้าวต่อไปของตราเสือ อยู่เคียงข้างช่างก่อสร้างไทย
ยกระดับทักษะมาตรฐานฝีมือแรงงานให้ทัดเทียมในระดับสากล
นายนพพรกล่าว
ด้านนายธีระยุทธ พันธ์มีเชาว์ Technical Service Strategy Director บริษัท ผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จํากัด กล่าวว่า สถาบันเทคโนโลยีผนังและพื้น ตราเสือ มุ่งยกระดับมาตรฐานทักษะฝีมือแรงงานและต้องการให้ช่างก่อสร้างเกิดการพัฒนายกระดับคุณภาพชีวิต ผ่านการฝึกอบรมทักษะวิชาชีพ และประยุกต์เพิ่มมูลค่าฝีมือแรงงาน หรือปรับใช้เทคโน โลยีใหม่เข้ามาอำนวยความสะดวก ทั้งในรูปแบบองค์ความรู้ที่ตราเสือพัฒนาขึ้นเอง หรือร่วมกับลูกค้าพันธมิตรทางธุรกิจมาช่วยเสริมทักษะให้กับช่างและบุคลากรที่เกี่ยวข้อง
ให้ก้าวสู่ความเป็นมืออาชีพ ผ่านองค์ประกอบ 4M : Man (การพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานของบุคคล) Machine (การพัฒนาเครื่องมือ อุปรณ์ตลอดจนประยุกต์ใช้เทคโนโลยี) Method (การพัฒนาขั้นตอนการทำงาน) และ Material (การพัฒนาปูนซีเมนต์และต่อยอดวัสดุใหม่ๆ) ที่จะตอบโจทย์กลุ่มผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้าง กลุ่มผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนผู้รับเหมาใหญ่ กลาง เล็ก ที่สามารถบริหารจัดการเวลา ต้นทุน งบประมาณ และคุณภาพ
นอกจากนี้ ตราเสือ ยังได้มีหลักสูตร ฝึกอบรมในเบื้องต้น
รองรับมากกว่า 15 หลักสูตร
ครอบคลุมความรู้เกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์และการใช้งานปูนซีเมนต์
มาตรฐานการทำงานก่ออิฐ-ฉาบปูน มาตรฐานการทำงานเทปรับพื้น
มาตรฐานการทำงานปูกระเบื้องขนาดใหญ่
งานตกแต่งเพื่อเพิ่มมูลค่าสำหรับงานฉาบและงานฉาบ Décor and Loft
Wall และมาตรฐานงานก่ออิฐ ฉาบปูนตามมาตราฐาน
และทีมผู้เชี่ยวชาญ มากด้วยประสบการณ์ สมาร์ทไทเกอร์ทีม (Smart
Tiger Team) พร้อมให้คำปรึกษา อบรม สาธิต และบริการ ณ
ไซต์งานก่อสร้าง ทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ และอีก 5 หลักสูตร
ที่ได้รับการรับรองจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน
เป็นการทดสอบตามมาตรฐานวิชาชีพในหมวดสาขาอาชีพช่างก่อสร้าง
“สถาบันเทคโนโลยีผนังและพื้น ตราเสือ เป็นเสมือน สำนักตักศิลา
(ศูนย์บ่มเพาะพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานช่างก่อสร้าง) (Incubator
Center) แหล่งรวมองค์ความรู้เทคนิคการก่อสร้าง
งานปูนซีเมนต์งานผนังและพื้นอย่างครบวงจรแห่งแรกของอาเซียน
มีการพัฒนาองค์ความรู้ในด้านงานก่อ-ฉาบ งานตกแต่งพื้น และผนัง
ด้วยปูนซีเมนต์ ทั้งในด้านประยุกต์วิธีการใช้งาน
นำเสนอเทคนิคการใช้งานใหม่ๆ เพื่อยกระดับมาตรฐานฝีมือแรงงาน
ทั้งในด้านความรู้ การประยุกต์ ลงมือปฏิบัติจริง
นำเสนอเทคนิคการใช้งาน รวมถึงรวมพัฒนาความมือใหม่ๆ (Open
Innovation) ทั้งจากพัฒนาขึ้นเองจากการสำรวจความต้องการลูกค้า
ความร่วมมือจากลูกค้าหรือพันธมิตรทางธุรกิจ สถาบันการศึกษา
ตลอดจนการประยุกต์จากต่างประเทศ ที่วันนี้พร้อมเปิดรับทุกภาคส่วน
เพื่อร่วมกันยกระดับมาตรฐานทักษะฝีมือแรงงานของช่างก่อสร้างไทย”
นายธีระยุทธกล่าว
ทั้งนี้ ตราเสือ ยังได้ยกระดับอัพเลเวล
ทั้งในส่วนพัฒนาประยุกต์ใช้เทคโนโลยี
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานด้วยเครื่องมือกลุ่ม Smart Tiger
Tools ที่ได้ทำการยื่นจดสิทธิบัตร ไปแล้ว 5 ผลงาน คือ รางก่ออิฐ
เกรียงก่ออิฐมวลเบา เกรียงก่ออิฐพันปี
เครื่องเช็คความพร้อมก่อนปั่นหน้าปูน และ เครื่องผสมเทปูน
โดยในระยะแรก
ทางตราเสือได้สนับสนุนเครื่องมือเหล่านี้ให้กับกลุ่มช่างโครงการที่เป็นพั
นธมิตรกับตราเสือ
ทั้งนี้การวางจำหน่ายในท้องตลาดทั่วไปนั้นยังอยู่ในการวางแผนงานต่อ
ไป นอกจากนี้ ตราเสือ
ยังได้ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจพัฒนาเครื่องมือใหม่ๆ อาทิเช่น
เกรียงก่ออิฐพันปี ร่วมกับ เครือ Rothenburg Group
ช่วยเพิ่มความรวดเร็ว ได้มาตรฐานในการก่อผนัง
และเครื่องพ่นฉาบผนังปูนซีเมนต์เครื่องยนต์ดีเซล ร่วมกับ บริษัท
สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด และ บริษัท ไทย อชิเทค จำกัด
ช่วยตอบโจทย์งานขึ้นปูนฉาบผนังให้ได้มาตรฐาน
และลดระยะเวลาในการทำงาน ณ ไซต์งาน เป็นต้น
นับเป็นแนวมิติใหม่ในการช่วยยกระดับมาตรฐานฝืมือทักษะวิชาชีพของ
ช่างก่อสร้างไทย เพิ่มมูลค่าในงานผนังและพื้นปูนซีเมนต์
ให้แข่งขันและทัดเทียมได้ในเวทีโลก
แม้ว่าสถาบันฯ จะตั้งอยู่ที่อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี
แต่ด้วยความพร้อมของสถาบันฯ ที่มีช่องทางการสื่อสาร ติดต่อ ฝึกอบรม
พร้อมบริการ ให้คำปรึกษาทั้งช่องทางออฟไลน์ ออนไลน์ และ Virtual
Tour ทำให้มั่นใจได้ว่าช่างก่อสร้าง ผู้รับเหมา ผู้ประกอบการ
ตลอดจนผู้ที่สนใจสามารถติดต่อ แจ้งความสนใจ
หรือเข้าอบรมได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่าน https://tech.tigerbrandth.com/
รวมถึงยังมีหน่วยรถโมบายเคลื่อนที่ พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญ (Smart Tiger
Team) พร้อมบริการถึงหน้าไซต์งาน ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ
นายธีระยุทธ กล่าวสรุป
“ตราเสือ”
ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ปูนซีเมนต์คุณภาพที่มุ่งมั่นพัฒนาตลอด 108 ปี
ก้าวต่อไป ชูเทคโนโลยีนวัตกรรมต่างๆ
ทั้งผลิตภัณฑ์ปูนซีเมนต์และเกี่ยวเนื่อง บริการ และโซลูชั่น
ที่จะยกระดับมาตรฐานทักษะฝีมือแรงงานของช่างก่อสร้างไทย
เพิ่มมูลค่างานฝีมือและคุณภาพความเป็นอยู่ของบุคคลากรภาคการก่อสร้
าง ให้สามารถทัดทียมนระดับเวทีโลก
สนใจรายละเอียดหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถาบันฯ
และหลักสูตรอบรม ได้ที่ SCG Contact Center 02 586 2222