เปิดตัว “บันยันทรี เรสซิเดนซ์ เครสตัน ฮิลล์​” Branded Residences ระดับมาสเตอร์พีซแห่งแรกของเขาใหญ่

บันยันทรี กรุ๊ป X เครสตั้น โฮลดิ้ง” เผยแผนเปิดตัววิลล่าหรู ขนาด 3 และ 4 ห้องนอนแบบตกแต่งครบครันรวม 21 ยูนิต และคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ขนาด 1, 2 และ 3 ห้องนอนทั้งสิ้น 16 อาคารในเฟสแรก และคอนโดมิเนียมบนหนึ่งในทำเลที่ดีที่สุดของเขาใหญ่ สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้วงการอสังหาฯ ด้วยที่อยู่อาศัยที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันงดงามด้วยพลังผนึกของ เชนโรงแรมระดับโลก X ผู้นำธุรกิจอสังหาฯ ของไทย เพื่อปั้นโครง การ Branded Residences ระดับลักชัวรีแห่งแรกของเขาใหญ่ด้วยมูลค่าโครงการรวมกว่า 1.7 หมื่นล้านบาท บนที่ดินผืนใหญ่ขนาด 226 ไร่ และมีทะเลสาบขนาด 30 ไร่ใจกลางโครงการ ด้วยทำเลที่โอบล้อมด้วยอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่ได้รับการประกาศเป็นผืนป่ามรดกโลกจากองค์การยูเนสโก พร้อมมอบเอกสิทธิ์และไลฟ์สไตล์ที่เหนือระดับจากเครือบันยันทรี

ทั้งนี้ โฮ กวงปิง ประธานกรรมการบริษัท บันยันทรี กรุ๊ป เปิดเผยถึงการเปิดตัว บันยันทรี เรสซิเดนซ์ โครงการใหม่ล่าสุดในประเทศไทยว่า “โครงการฯ นี้ ประกอบด้วยวิลล่าหรู คอนโด ไปจนถึงโรงแรมและ Veya Wellness Resort เพราะเราเข้าใจดีว่า สำหรับใครหลาย ๆ คน บ้านไม่ได้เป็นเพียงแค่ที่พักอาศัย แต่บ้านจะต้องสะท้อนความงดงามของการใช้ชีวิตที่เปี่ยมด้วยคุณค่า เราจึงมุ่งมั่นรังสรรค์ประสบการณ์การอยู่อาศัยในแบบหนึ่งเดียวในโลกให้แก่ลูกค้าของเรา”

ขณะที่ ชยดิฐ หุตานุวัชร์ ประธานกรรมการ บริษัท เครสตั้น โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่า “การผนึกกำลังระหว่าง บันยันทรี กรุ๊ป และเครสตั้น โฮลดิ้ง นับเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับวงการอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรีของไทยการพัฒนาโครงการบันยันทรี เรสซิเดนซ์ เครสตัน ฮิลล์​ บนผืนดินที่อยู่ติดกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่นั้นทางบริษัทฯ ให้ความสำคัญสูงสุดกับการออกแบบที่สวยงามและกลมกลืนไปกับธรรมชาติอันบริสุทธิ์โดยรอบ และเราภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับบันยันทรี เครือโรงแรมระดับโลก เพื่อร่วมสร้างมาตรฐานใหม่ให้ที่อยู่อาศัยระดับมาสเตอร์พีซในเมืองไทย”

ผู้ที่ได้ครอบครองที่อยู่อาศัยในโครงการบันยันทรี เรสซิเดนซ์ เครสตัน ฮิลล์ จะได้รับสิทธิประโยชน์เหนือระดับในฐานะเจ้าของผ่านโปรแกรมสมาชิกสุดเอ็กซ์คลูซีฟของเครือบันยันทรี “The Sanctuary Club” ที่มอบเอกสิทธิ์พิเศษและส่วนลดเมื่อเข้ารับบริการในเครือข่ายบันยันทรีทั่วโลก

ด้าน สจ๊วต เรดดิ้ง กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มบริษัทบันยันทรี กล่าวว่า “เทรนด์การเติบโตของโครงการ Branded Residences ในเมืองไทยยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งพื้นที่โดยรอบอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ถือเป็นพื้นที่เปี่ยมศักยภาพ เป็นทำเลสุดไพรม์สำหรับตลาดในประเทศไทยมานานหลายปี ด้วยระยะทางที่ห่างจากกทม. เพียง 200 กม. ผู้มาเยือนจะได้สัมผัสทั้งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ การท่องเที่ยวแนวผจญภัย และอากาศที่บริสุทธิ์ เขาใหญ่ถือเป็นเดสติเนชันการพักผ่อนที่ช่วยให้คนไทยได้หลีกหนีความวุ่นวายของกรุงเทพฯ ตลอดเวลาที่ผ่านมา บันยันทรี ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงการคงไว้ซึ่งธรรมชาติอันงดงาม เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวด ล้อมร่วมกับพันมิตรในทุก ๆ พื้นที่ที่เราให้บริการ เรายึดมั่นในพันธกิจ 3 ประการ ได้แก่ การกระตุ้นเศรษฐกิจ การสร้างคุณค่าให้แก่สังคม และความรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อม”

ไฮไลท์ของวิลล่า โครงการ บันยันทรี เรสซิเดนซ์ เครสตัน ฮิลล์​

  • มีทั้งแบบ 3, 4 ห้องนอน ราคาเริ่มต้น 60 ล้านบาท บริหารจัดการระดับโรงแรม 5 ดาว
  • พื้นที่ใช้สอยภายในขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาอย่างลงตัวพร้อมลานระเบียงกว้างขวางด้านนอก ให้ผู้อยู่อาศัยได้พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติอันร่มรื่น
  • วิลล่าทุกหลังได้รับการตกแต่งอย่างครบครันและให้ลงทุนได้อย่างมั่นใจ
  • เจ้าของวิลล่ายังได้รับการสิทธิพิเศษในการเข้าพักโรงแรมในเครือบันยันทรีทั่วโลก
  • พูลวิลล่าได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงความเงียบสงบเป็นส่วนตัวเพื่อเพิ่มสุนทรียภาพสูงสุดให้กับผู้พักอาศัยโดยเน้นดีไซน์ที่เปิดรับธรรมชาติด้านนอก อาทิ การเลือกใช้หน้าต่างที่สูงโปร่งและประตูกระจกบานเลื่อน ห้องนอนทุกห้องได้รับการออกแบบให้มีสวนส่วนตัว สามารถมองเห็นพื้นที่สีเขียวภายนอกได้ทุกครั้งที่พักผ่อนอยู่ภายใน การออกแบบภายในวิลล่าใช้โทนสีที่เข้ากันกับผืนป่าและทิวทัศน์หุบเขาอันเงียบสงบด้านนอก

ไฮไลท์ของคอนโด โครงการ บันยันทรี เรสซิเดนซ์ เครสตัน ฮิลล์​

  • มีห้องชุดแบบ 1, 2 หรือ 3 ห้องนอน ขนาด 64 – 295 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 15 ล้านบาท
  • ความเป็นส่วนตัวให้กับผู้พักอาศัย ที่สุดแห่งการพักผ่อนด้วยทิวทัศน์สุดตระการตาของทิวเขาและทะเลสาบแบบพาโนรามา ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ตั้งแต่สระว่ายน้ำที่ดีไซน์ให้ยื่นออกจากระเบียง พื้นที่ระเบียงกว้างขวางสำหรับห้องชุดแบบ 3 ห้องนอน ไปจนถึงสวนส่วนตัวบนดาดฟ้าสำหรับยูนิตเพนต์เฮาส์ คอนโดมิเนียมของโครงการเหมาะสำหรับเป็นบ้านพักอาศัยหรือบ้านพักตากอากาศ
  • แพ็กเกจเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งเสริมและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ รวมถึงการให้เช่าและการดูแลรักษา

บันยันทรี เรสซิเดนซ์ เครสตัน ฮิลล์ ดีไซน์ขึ้นมาอย่างพิถีพิถัน และเป็นนิยามใหม่แห่งความหรูหรา และเหมาะกับการซื้อเพื่อลงทุน หรือเป็นบ้านพักอาศัยหลังที่สอง หรือบ้านพักตากอากาศ โดยผู้ครอบครองบ้านในโครงการสามารถมั่นใจได้กับมาตรฐานสูงสุดของการอยู่อาศัยภายใต้แบรนด์ “บันยันทรี” ที่ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย พร้อมด้วยทีมงานที่ช่วยอำนวยความสะดวกตลอดการอยู่อาศัย ซึ่งมั่นใจได้ว่าเจ้าของโครงการจะสะดวกสบายไปกับการจัดการทรัพย์สินที่ไม่ยุ่งยากควบคู่ไปกับการดูแลโครงการเพื่อการขายต่อที่คุ้มค่าในอนาคต”

สจ๊วต เรดดิ้ง กล่าวเพิ่มเติมว่า “เจ้าของโครงการจะได้เอกสิทธิ์ในการเป็นสมาชิก The Sanctuary Club ซึ่งเป็นโปรแกรมซิกเนเจอร์ที่จะมอบสิทธิประโยชน์มากมาย อาทิ ส่วน ลดพิเศษสำหรับที่พักในเครือบันยันทรีทั่วโลก สิทธิ์ในการจองก่อนใคร การเช็กอินก่อนเวลา การเช็กเอาต์หลังเวลา และการรับเชิญก่อนใครผ่านโปรแกรม Xperential Guest

นอกจากนี้ เรายังมีทีมงานที่บริการได้ในหลายภาษา และมอบข้อเสนอพิเศษสำหรับโปรเจกต์ใหม่ ๆ ก่อนใครเพื่อยกระดับการอยู่อาศัยขึ้นไปอีกขั้น บันยันทรีมุ่งมั่นที่จะผสานไลฟ์สไตล์เหนือระดับให้สอดรับกับธรรมชาติอันงดงามของแต่ละพื้นที่ และยังจะสนุกสนานกับกิจกรรมสันทนาการอื่นๆ ได้อีกมากมาย เช่น การเดินป่าในเส้นทางอุทยานแห่งชาติ การชมนกหลายสายพันธุ์ หรือจะแวะเวียนไปนั่งคาเฟ่เก๋ๆ ออกกำลังกายสนุกๆ ด้วยการเล่นแพดเดิลบอร์ดแบบยืน หรือพายเรือคายัคบนทะเลสาบเครสตัน ฮิลล์ ทั้งหมดนี้ทำได้ที่โครงการฯ ซึ่งห่างจากกทม. เพียง 200 กม.

โครงการแห่งนี้มีโครงสร้างพื้นฐานครบครัน ทั้งระบบไฟฟ้าใต้ดิน ระบบน้ำประปา ถนน การระบายน้ำ และกล้องวงจรปิด ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อประสบการณ์การอยู่อาศัยสุดเอ็กซ์คลูซีฟ พร้อมทั้งยังตั้งอยู่ติดกับชุมชนที่มีรั้วรอบขอบชิดอันหรูหราของโครงการบ้าน Creston Hill ด้านทำเลของโครงการยังเดินทางสะดวกด้วยทางด่วนมอเตอร์เวย์สายใหม่ที่ช่วยลดระยะเวลาการเดินทางจากกรุงเทพฯ ได้อย่างมาก พร้อมดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ และผู้ที่กำลังมองหาบ้านพักอาศัยหรือบ้านพักตากอากาศ

บันยันทรี เรสซิเดนซ์ เครสตัน ฮิลล์ ตั้งเป้าผู้ซื้อส่วนใหญ่เป็นชาวไทย รองลงมาเป็นชาวต่างชาติเพราะเขาใหญ่เริ่มเป็นที่รู้จักในฐานะเดสติเนชันการพักผ่อนระดับโลก ทั้งยังสอดคล้องกับแนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยในปี 2566 โดยตลาดที่อยู่อาศัยของไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยแรงหนุนจากการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการขยายตัวของเขตเมืองที่เพิ่มขึ้น ตามการคาดการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยใน 6 จังหวัดหลัก รวมนครราชสีมา ซึ่งเป็นที่ตั้งของเขาใหญ่จะเติบโตแข็งแกร่งขึ้นช่วงปี 2566-2568 ด้วยปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน และคาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวต่างประเทศจะกลับมามีจำนวนเท่าช่วงก่อนโควิด-19 ภายในปี 2568 ตลาดอสังหาฯ นครราชสีมาและเขาใหญ่ได้รับแรงหนุนจากบทบาทในการเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ ถนนมอเตอร์เวย์และเส้นทางรถไฟความเร็วสูงที่จะนำไปสู่การเพิ่มยอดขายบ้านพักตากอากาศในอนาคต