ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดเวทีประชันไอเดียปั้นนวัตกรรุ่นใหม่ “ทรูแล็บแฮกกาธอน TrueLabHackathon” ชูไฮไลท์นำเทคดูแลสุขภาพคนไทยถ้วนหน้า ผนึกแอปหมอดี-ผู้นำเทเลเมดิซีนแอป ชวนนิสิต นักศึกษา และคนรุ่นใหม่อายุไม่เกิน 30 ปี ประชันแผนธุรกิจและไอเดียฟีเจอร์ใหม่ ตอบโจทย์พฤติกรรมและความต้องการของคนไข้ในอนาคต สนใจสมัครได้แล้ววันนี้ ถึง 17 ส.ค. 2566 ประกาศผลคัดเลือกแผนงานธุรกิจที่เข้ารอบ 20 ทีม วันที่ 20 ส.ค. 2566 และปฐมนิเทศทีมที่เข้ารอบ ในวันที่ 26 ส.ค. 2566 งาน Hackathon ในวันที่ 2-3 ก.ย. 2566
เทเลเมดิซีน S-Curve ที่ผลักดันประเทศไทย 4.0
ดร.ยศวีร์ นิรันดร์วิชย กรรมการผู้จัดการ ดิจิทัล เฮลท์ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป ผู้ให้บริการแพทย์ทางไกลภายใต้ชื่อแอปพลิเคชัน “หมอดี” กล่าวถึง บริการทางการแพทย์โดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่รวมถึงการแพทย์ทางไกล กำลังเข้าสู่อุตสาหกรรม S-Curve ที่ผลักดันให้ประเทศไทย ก้าวสู่ยุค 4.0 โดยแนวโน้มเทเลเมดิซีนของไทยยังมีโอกาสเติบโตสูงขึ้นอีกมาก โดยปัจจุบันจำนวนผู้ใช้งาน (Adoption rate) ยังมีสัดส่วนน้อยกว่า อเมริกา อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ เนื่องจากคนไทยยังมีปัญหาเรื่อง การเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล และการเปลี่ยนพฤติกรรมสู่ดิจิทัล โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สูงวัยที่เป็นกลุ่มหลักของการใช้บริการแพทย์ทางไกล
แอปหมอดี มีเป้าหมายสูงสุดคือ การลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการดูแลสุขภาพของคนไทย โดยมีภารกิจ 3 ด้าน คือ 1. Accessibility ให้คนไทยเข้าถึงการดูแลสุขภาพได้สะดวกทั่วถึงทุกพื้นที่ 2. Affordability ราคาที่ย่อมเยา และ 3.มาตรฐานการรักษาระดับเดียวกับโรงพยาบาลเอกชน เป็นลักษณะ end to end มีขั้นตอนการรักษาตั้งแต่ต้นจนจบ สร้างระบบนิเวศน์การดูแลสุขภาพเป็นโรงพยาบาล On Cloud โดยแอปหมอดีปัจจุบันมีแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพมากกว่า 500 ท่าน ครอบคลุมกว่า 20 สาขาเฉพาะทาง ซึ่งเทเลเมดิซีนนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมาก โดยเฉพาะคนไข้ในพื้นที่ต่างจังหวัดที่การเข้าถึงแพทย์อาจยากลำบาก จะช่วยประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย รวมทั้งสามารถรอรับยาได้ที่บ้าน และหากลูกค้ามีประกันสุขภาพกับบริษัทพันธมิตรหมอดี ก็สามารถเคลมค่าใช้จ่ายได้โดยไม่ต้องสำรองจ่าย นอกจากนี้หมอดียังร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ให้บริการผู้ใช้สิทธิบัตรทองในกรุงเทพฯ และ 5 จังหวัดปริมณฑลอีกด้วย
เทรนด์ดิจิทัล อุตสาหกรรมเฮลท์แคร์ของไทย
นายแพทย์กวิน วงศ์ธรรมริน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญประจำ หมอดีแอป กล่าวถึง แนวโน้มด้านเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมการแพทย์และสาธารณสุขในอนาคตหลังจากนี้ จะก้าวสู่บริการที่ทุกคนเข้าถึงได้ ผ่านการใช้เทคโนโลยี ซึ่งประเทศไทยนั้น เราได้เห็นพัฒนาการเกิดขึ้นหลายรูปแบบ เช่น
- การนำเทคโนโลยีระบบ Video Conference มาใช้เพื่อรองรับการสื่อสารรักษาทางไกลแบบเทเลเมดิซีน
- การพัฒนา Mobile Application เพื่อให้ติดตาม แจ้งเตือน และจองคิวเพื่อบริหารจัดการการฉีดวัคซีน
- การนำอุปกรณ์ Wearable Device และ IoT มาใช้ในการติดตาม ดูแล และรักษาผู้ป่วย
- การนำ AI มาใช้วิเคราะห์ข้อมูลผู้ป่วย ช่วยประกอบการตัดสินใจในการดำเนินการรักษาได้รวดเร็วและแม่นยำ
สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงการพัฒนาและปรับตัวส่วนหนึ่งที่เกิดขึ้นเท่านั้น ซึ่งส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในวงการสาธารณสุขเป็นวงกว้าง ในการเปิดรับนำเทคโนโลยีมาใช้ และก้าวข้ามข้อจำกัดต่างๆ ที่เคยมีในการทำงาน และแน่นอนว่าแนวทางเหล่านี้จะยังคงอยู่กับวงการการแพทย์และสาธารณสุขต่อเนื่องไปอีกหลังจากนี้ ดังนั้นการลงทุนด้านระบบเทคโนโลยีทางการแพทย์นี้ก็จะยังคงเกิดขึ้นต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาระบบ แอปพลิเคชันทางการแพทย์ใหม่ๆ โครงการด้าน AI สำหรับการรักษา การพัฒนาระบบ เทเลเมดิซีน ให้ต่อยอดมากขึ้นและสอดคล้องกับกระบวนการการรักษามากยิ่งขึ้น
แนวทางการพัฒนาแอปหมอดี และเทเลเมดิซีนในอนาคต
สิ่งที่น่าสนใจคือการพัฒนา Digital Device ต่างๆ เช่น Smart watch ที่สามารถเก็บข้อมูลสุขภาพ เช่นการเต้นของหัวใจ หรือข้อมูลสุขภาพได้อย่างเรียลไทม์ และทำอย่างไรให้ข้อมูลเหล่านี้เชื่อมโยงกับข้อมูลในระบบของแอป ก่อนที่คนไข้จะมาพบแพทย์ แล้วยังรวมไปถึงเรื่องของการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต แบนด์วิชท์ ที่จะช่วยให้การเชื่อมต่อเครื่องมือแพทย์และการเชื่อมโยงข้อมูลลื่นไหลสะดวกขึ้น ที่สำคัญคือการพัฒนาตัวซอฟท์แวร์ หรือ AI มาเป็นผู้ช่วยแพทย์ในการจัดการข้อมูล Digital Health Data ต่างๆ ทั้งการ Input Data การประมวลวิเคราะห์ ได้ Output ผลวินิจฉัยโรค ซึ่งตรงนี้ยังมีช่องว่างให้พัฒนาได้อีกมาก
เทเลเมดิซีน ทำให้เบี้ยประกันสุขภาพลดลง
ฐนพล กิตติดุลยการ ผู้จัดการด้านการพัฒนาธุรกิจ บริษัท เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวถึงบทบาทของบริษัทประกันชีวิต ว่า เราเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่สำคัญของ เทเลเมดิซีน ที่ช่วยลูกค้าที่มีประกันดูแลสุขภาพได้ดีขึ้น บริษัทประกันจะช่วยให้คนไทยเข้าถึงประกันสุขภาพได้มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันคนไทย 72 ล้านคน เข้าถึงประกันสุขภาพเพียง 1% ในอนาคตบริษัทประกันชีวิตสามารถออกแพ็กเกจประกันเทเลเมดิซีน ได้ในราคาที่สมเหตุผล จากการมีข้อมูลสุขภาพของลูกค้ามากพอที่จะช่วยคำนวณเบี้ยประกันได้แม่นยำได้ยิ่งขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับในปัจจุบันที่เบี้ยสุขภาพมีราคาแพง เพราะเราไม่มีข้อมูลการดูแลสุขภาพของลูกค้ามากพอ
จักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกิจการองค์กร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ทรู คอร์ปอเรชั่น มุ่งเป็นผู้นำเทคโนโลยีโทรคมนาคม ที่จะเปลี่ยนผ่านวิถีชีวิตคนไทยและขับเคลื่อนธุรกิให้ก้าวสู่แถวหน้าของเศรษฐกิจดิจิทัล โดยเร่งพัฒนาระบบนิเวศด้านเทคโนโลยีร่วมเติมเต็มชีวิตอัจฉริยะยิ่งขึ้นเพื่อทุกไลฟ์สไตล์ลูกค้า พร้อมสนับสนุนคนเก่งรุ่นใหม่ด้านดิจิทัล โดยล่าสุด เปิดโครงการ “ทรูแล็บแฮกกาธอน TrueLabHackathon” ร่วมกับ แอปหมอดี โดย ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป เชิญชวนนิสิตนักศึกษาและผู้ที่สนใจด้าน Health Tech ระดมไอเดียเพื่อนำเทคโนโลยีดูแลสุขภาพคนไทย ในหัวข้อ Feature for Future ชวนประชันกลยุทธ์ทางธุรกิจ และสร้างสรรค์ฟีเจอร์เพื่อให้คนไทยเข้าถึงการดูแลสุขภาพได้ทั่วถึงด้วยเทเลเมดิซีน แอป มุ่งสร้างความเปลี่ยนแปลงสาธารณสุขไทยให้คนไทยได้เข้าถึงและใช้เทคโนโลยีในการดูแลสุขภาพ จากการใช้บริการแอปหมอดีให้ได้ประโยชน์และตอบโจทย์ความต้องการด้านสุขภาพให้มากที่สุด