กรุงศรีเผยมุมมองต่อการปรับดบ.นโยบายการเงินของกนง.ยัง กังวลเรื่องเงินเฟ้อ ความไม่แน่นอนทางการเมือง

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งมีมติเอกฉันท์ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี สู่ระดับ 2.25% ต่อปี สูงสุดในรอบ 9 ปี ซึ่งเป็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 7 นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2565

จากถ้อยแถลงระบุว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประเมินเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชน ปรากฏการณ์ เอลนีโญ รุนแรงกว่าคาดอาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนด้านอาหาร อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานปรับลดลงแต่มีแนวโน้มทรงตัวในระดับที่สูงกว่าในอดีต นอกจากนี้ กนง. ยังเน้นย้ำถึงแนวทาง การดำเนินมาตรการปรับโครงสร้างหนี้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมาตรการเฉพาะจุดและแนวทางแก้ปัญหาหนี้อย่างยั่งยืนสำหรับกลุ่มเปราะบาง

ทั้งนี้ หลังการประกาศของ กนง. ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ราว 34.33 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ โดยภาพรวมในปีนี้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง 0.6% ซึ่ง กนง. ย้ำว่า ค่าเงินบาทมีความผันผวนจากแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟด คาดการณ์เศรษฐกิจจีน และความไม่แน่นอนของสถานการณ์การเมืองภายในประเทศ

สำหรับการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินในครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นวันที่ 27 ก.ย. 66  ซึ่งจากถ้อยแถลงของ กนง. ในวันนี้บ่งชี้ว่า การลำดับความเสี่ยงของแต่ละปัจจัยค่อนข้างสมดุลมากขึ้น โดยระบุถึงความเสี่ยงที่ต้องจับตามอง ทั้งในเรื่องอัตราเงินเฟ้อ ภาคการส่งออกสินค้าที่อาจฟื้นตัวช้ากว่าคาด รวมทั้งความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ ดังนั้นกลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ยังคงคาดการณ์ว่า การปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายในวัฎจักรนี้