อาร์เอส มิวสิค ในเครือ อาร์เอส กรุ๊ป กลับมารุกธุรกิจเพลง ทรานส์ฟอร์มธุรกิจผ่านโมเดลธุรกิจที่ไร้กรอบและแตกต่าง ผสานกับกลยุทธ์เชิงรุกที่หลากหลาย เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์การฟังเพลงของคนในยุคปัจจุบัน และบริการมิวสิค สตรีมมิงที่เติบโตขึ้น ตั้งเป้าผลิตเพลงใหม่กับศิลปินเดิมที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว พัฒนาศิลปินใหม่ – ร่วมมือกับศิลปินภายนอก พร้อมมองหาโอกาสใหม่ๆ ต่อยอดความแข็งแกร่งของธุรกิจร่วมกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ ล่าสุด ร่วมกันจัดตั้งกิจการร่วมค้า (Joint Venture) กับค่ายเพลงชั้นนำอันดับหนึ่งของโลก ยูนิเวอร์แซล มิวสิค กรุ๊ป เผยทุ่มทุน 1,600 ล้านบาท เพื่อร่วมบริหารลิขสิทธิ์เพลงของ อาร์เอสกว่า 13,000 เพลง พร้อมปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ เน้นสร้างรายได้ในหลากหลายช่องทาง และแต่งตั้ง พรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล เป็นซีอีโอ อาร์เอส มิวสิค ผลักดันสู่เวทีระดับนานาชาติ และเตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ในอนาคต
สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อาร์เอส เปิดเผยว่า “อุตสาหกรรมเพลงในปัจจุบันแตกต่างจากในอดีตมาก เพราะเทคโนโลยีที่ทนสมัยและมีช่องทางออนไลน์ ซึ่งแพลตฟอร์ม มิวสิค สตรีมมิง จะช่วยให้ธุรกิจเพลงมีการเติบโตอย่างรวดเร็วผ่านการฟังเพลงที่สามารถทำได้จากทั่วทุกมุมโลก และสามารถคาดการณ์รายได้ระยะยาวได้แม่นยำมากขึ้น ทำให้วันนี้ อาร์เอส มิวสิค ทรานส์ฟอร์มครั้งใหญ่ ด้วยเล็งเห็นว่าอุตสาหกรรมเพลงมีโอกาสการสร้างรายได้ในหลากหลายมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากช่องทางดิจิทัลที่เติบโตตามพฤติกรรมผู้บริโภค จากข้อมูลของสมาพันธ์ผู้ผลิตสิ่งบันทึกเสียงระหว่างประเทศ (IFPI) พบว่า ในปี 2565 รายได้จากมิวสิค สตรีมมิงทั่วโลกมีมากถึง 67% และมีอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปีกว่า 5% ในขณะที่ประเทศไทย ผู้ฟังใช้เวลาฟังเพลงผ่านระบบสตรีมมิงมีระยะเวลานานถึงวันละ 1.8 ชั่วโมง จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่เรากลับมาลุยธุรกิจเพลงอีกครั้งภายใต้จังหวะเวลาที่ใช่ และมีโมเดลธุรกิจใหม่รองรับ รวมถึงการได้พาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่งทั้งในและต่างประเทศ เพื่อขยายโอกาสและเติมเต็มศักยภาพของ อาร์เอส มิวสิค แบบก้าวกระโดด”
“สำหรับการจับมือกับพาร์ทเนอร์ค่ายเพลงชั้นนำอันดับหนึ่งของโลก ‘ยูนิเวอร์แซล มิวสิค กรุ๊ป’ (Universal Music Group หรือ UMG) เป็นการร่วมกันจัดตั้งกิจการร่วมค้า (Joint Venture) โดย ยูนิเวอร์แซล มิวสิค กรุ๊ป ใส่เงินลงทุน 1,600 ล้านบาท เพื่อร่วมบริหารลิขสิทธิ์เพลงของ อาร์เอสที่มีมากกว่า 13,000 เพลง โดยความร่วมมือนี้จะทำให้ผู้คนจากทั่วโลกเข้าถึงคอนเทนต์ด้านดนตรีของเราได้อย่างหลากหลายยิ่งขึ้นผ่านช่องทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น YouTube, Facebook, Instagram, TikTok หรือแพลตฟอร์มสตรีมมิง ได้แก่ Spotify, Apple Music, JOOX และอื่นๆ ในขณะที่อาร์เอส มิวสิค จะบริหารลิขสิทธิ์เพลงภายในประเทศในช่องทางออฟไลน์ ทั้งร้านอาหาร ผับ บาร์ คาราโอเกะ การทำมิวสิค มาร์เก็ตติ้ง และการใช้งานรูปแบบอื่น ๆ อาทิ การจัดคอนเสิร์ต และโชว์บิซ” สุรชัย กล่าวเสริม
การเข้าลงทุนของยูนิเวอร์แซล มิวสิค กรุ๊ป ในครั้งนี้ จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับ อาร์เอส มิวสิค ในด้านต่างๆ ดังนี้
- เพิ่มประสิทธิภาพการสร้างรายได้ออนไลน์ โดยคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้น 30-40% และมี Impressions เพิ่มขึ้น 15-20% จากแพลตฟอร์ม OTT ต่างๆ ผ่านการบริหารของ ยูนิเวอร์แซล มิวสิค
- ขยายช่องทางการเผยแพร่งานเพลงผ่านตลาดต่างประเทศและมีเครือข่ายที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นการสร้างโอกาสให้แก่ศิลปินในสังกัดและคอนเทนต์ของ อาร์เอส มิวสิค ในตลาดต่างประเทศ
- ใช้ทรัพยากรของ ยูนิเวอร์แซล มิวสิค ในการพัฒนาศิลปินและคอนเทนต์ของ อาร์เอส มิวสิค ผ่านการใช้เทคโนโลยี Data Analytics ที่ทันสมัยในการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค รวมถึงความร่วมมือในอนาคตเพื่อสร้างสรรค์คอนเทนต์ร่วมกับศิลปินของ ยูนิเวอร์แซล มิวสิค
นอกจากนั้น อาร์เอส มิวสิค ยังยกเครื่องปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ทั้งหมด เพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินงานภายใต้โมเดลธุรกิจใหม่ โดยแบ่งเป็น
- Digital Monetization ผลิตผลงานเพลงทั้งจากศิลปินรุ่นใหม่และศิลปินระดับตำนานของอาร์เอส รวมถึงสร้างผลงานเพลงร่วมกับศิลปินชื่อดังจากภายนอก
- Copyright Revenue การจัดเก็บและต่อยอดทรัพย์สินทางภูมิปัญญา (IP) ลิขสิทธิ์เพลง ของ อาร์เอส มิวสิค
- Marketing Projects & Campaigns การทำมิวสิค มาร์เก็ตติ้ง หรือแคมเปญการตลาดต่างๆ กับคู่ค้า
- Showbiz & Concerts การจัดกิจกรรม อีเวนต์ เฟสติวัล และคอนเสิร์ต
- Talent Management การบริหารและดูแลศิลปิน
“สำหรับเป้ารายได้ในปีนี้ ตั้งไว้ที่ประมาณ 720 ล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินงานและรายได้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ อาร์เอส มิวสิค จึงประกาศแต่งตั้ง พรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ขึ้นดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้วยคุณสมบัติของการเป็นผู้บริหารที่มีความรู้และความสามารถสูง ทั้งยังเข้าใจธุรกิจสื่อและบันเทิงของ อาร์เอส กรุ๊ป เป็นอย่างดี จึงเป็นกำลังสำคัญในการวางแผนกลยุทธ์ และทรานส์ฟอร์มธุรกิจเพลงให้แข็งแกร่ง โดดเด่น และสอดรับกับเป้าหมายในระยะยาว ทั้งการนำธุรกิจเพลงภายใต้ อาร์เอส มิวสิค เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ และสร้างรายได้ให้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 1,200 ล้านบาท ภายใน 3 ปี โดยคาดว่ารายได้จากผลงานเพลงใหม่และการบริหารลิขสิทธิ์จะมีสัดส่วนมากที่สุดหรือประมาณ 40% ของรายได้ทั้งหมด” สุรชัย กล่าวปิดท้าย