บมจ. บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค หรือ BLC‘ ประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้น IPO หลังนักลงทุนตอบรับการจองซื้อหุ้นคึกคักมากกว่าจำนวนหุ้นที่จัดสรร ตอกย้ำความเชื่อมั่นและพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง เตรียมนำเงินที่ได้จากการระดมทุนสร้างโรงงาน เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต และวิจัย พัฒนาผลิตภัณฑ์ยาสามัญใหม่อย่างน้อย 14 รายการ รับเมกะเทรนด์ด้านสุขภาพเติบโตทั่วโลก สร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน พร้อมเดินหน้านำหุ้นเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรก 21 มิถุนายน 2566
ภก.สุวิทย์ งามภูพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค จำกัด (มหาชน) หรือ BLCเปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมนำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 21 มิถุนายน 2566 นี้ โดยใช้ชื่อย่อ ‘BLC’ ในการซื้อขายหลักทรัพย์ หลังประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้น IPO จำนวนรวมทั้งสิ้น
150 ล้านหุ้น ที่ราคาเสนอขาย 10.50 บาท/หุ้น คิดเป็นมูลค่าการเสนอขายรวม 1,575 ล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเกินความคาดหมาย สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในพื้นฐานธุรกิจที่มีความแข็งแกร่งจากการเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายยาแผนปัจจุบัน และมีผลิตภัณฑ์สุขภาพครอบคลุมทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้รับการยอมรับและไว้วางใจมากว่า 30 ปี จากสถานพยาบาล ร้านขายยาชั้นนำในประเทศกว่า 8,000 แห่ง และส่งออกไปยังกว่า 10 ประเทศทั่วโลก และศักยภาพเติบโตในอนาคตจากการเตรียมวิจัย พัฒนายาสามัญใหม่ (New Generic Drugs) และการสร้างนวัตกรรมด้านสมุนไพรให้เป็นที่ยอมรับในตลาดโลก รับเมกะเทรนด์ด้านสุขภาพเติบโต สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้ เพื่อรองรับแผนงานขยายการลงทุนในโครงการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ เนื้อที่ 11,703 ตารางเมตร (ตร.ม.) ใช้งบลงทุน 845.0 ล้านบาท บนที่ดินเดิมของโรงงานที่จังหวัดราชบุรี และมีการติดตั้ง Solar Rooftop ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและได้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2569 ส่งผลให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 193% นอกจากนี้ บริษัทฯ จะมุ่งวิจัย พัฒนา และผลิตยาสามัญใหม่อย่างน้อย 14 รายการ ในกลุ่มยาโรคเรื้อรัง และไม่เรื้อรัง โดยจะเริ่มวิจัยและพัฒนาตั้งแต่ปี 2566
งบลงทุนไม่เกิน 140 ล้านบาท หรือเฉลี่ยเงินลงทุนรายการละ 10 ล้านบาท
“นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ BLC ในการมุ่งสู่การเป็นบริษัทจดทะเบียนชั้นนำของประเทศไทย พร้อมร่วมขับเคลื่อนความมั่นคงด้านสุขภาพ สังคม และเศรษฐกิจ จากแผนขยายฐานลูกค้า เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลาย ขยายโรงงานผลิตรองรับศักยภาพการผลิตในอนาคต และรองรับการรับจ้างผลิต (OEM) รวมทั้งขยายพอร์ตผลิตภัณฑ์ยาสามัญใหม่ (New Generic Drugs) อย่างน้อย 14 รายการ ในกลุ่มยาที่มีอัตราการเติบโตสูง รองรับไทยก้าวสู่สังคมสูงอายุ โดยวางแผนการพัฒนาและจำหน่ายอย่างต่อเนื่องโดยมีเป้าหมายวางจำหน่ายไม่น้อยกว่า 2 รายการต่อปี เพื่อรักษาอัตราการเติบโตของรายได้และอัตราการทำกำไรของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน” ภก.สุวิทย์ กล่าว
สุวิมล ศรีโสภาจิต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญ กล่าวว่า BLC หนึ่งในผู้นำธุรกิจผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยา และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพครบวงจร ซึ่งอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตสูง จากเมกะเทรนด์ด้านสุขภาพที่กำลังเติบโตทั่วโลก และผลิตภัณฑ์ยาจัดเป็นปัจจัยสี่ที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ และหาผลิตภัณฑ์อื่นเข้าทดแทนได้ยาก อีกทั้งตลอดระยะกว่า 30 ปี BLC ดำเนินธุรกิจด้วยความตั้งใจที่จะสร้างความมั่นคงทางด้านสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่คนไทย พร้อมทั้งยกระดับสมุนไพรไทยด้วยการสร้างนวัตกรรม เพื่อสร้างการยอมรับในตลาดโลก ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยาไทยอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผลิตภัณฑ์ยาของ BLC ได้รับการยอมรับทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ ตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งในพื้นฐานธุรกิจของ BLC ได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ในช่วงการเสนอขายหุ้น IPO ที่ผ่านมา ได้รับความสนใจอย่างดีจากนักลงทุน และมีนักลงทุนจองซื้อมากกว่าจำนวนหุ้นที่จัดสรรไว้