บมจ. เคหะสุขประชา เดินหน้านโยบายสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน ผลักดันทักษะพนักงาน เพื่อคัดกรองบุคลากรคุณภาพเข้าร่วมงาน พร้อมปลูกฝังคุณสมบัติผู้นำสร้างความพร้อมดูแลวัฒนธรรมการทำงานร่วมกันในองค์กรอย่างเข้มแข็ง เผยจุดยืนรักษาสมดุล Benchmark–Performance Base ให้ค่าตอบแทนที่เป็นธรรม นำ 3 ปณิธาน อาหาร-ปัญญา-คนมีคุณค่า มาเป็นเครื่องชี้นำสร้างความสุขให้เกิดกับพนักงาน เพื่อสร้างผลลัพธ์และประสิทธิภาพที่แท้จริงกับองค์กร
ธนินทร์ รัตนศิริวิไล ประธานคณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน บมจ. เคหะสุขประชา เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นในรูปแบบของบริษัทมหาชน ที่มีวัตถุประสงค์ส่วนรวมของการสร้างที่อยู่อาศัยและชุมชนที่ดีแก่ครัวเรือนเปราะบาง บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญกับกระบวนการสรรหาอย่างจริงจัง ตั้งแต่การสร้าง Organization Chart ระดับ C-Level ที่มีความพร้อมและประสิทธิภาพ ไปจนถึงการคัดกรองบุคลากรที่จะเข้ามาร่วมงานในทุกระดับชั้นด้วยนโยบาย HR Training เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และวิธีการให้กับพนักงานผู้สัมภาษณ์งาน ได้มีทักษะรวมถึงศิลปะการคัดกรองคนที่มีประสิทธิภาพ
“เพื่อขับเคลื่อนให้เคหะสุขประชาบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ องค์กรจึงต้องมีผู้สัมภาษณ์ที่มีคุณวุฒิเหมาะสม มีความเข้าใจในเนื้อหางานอย่างแม่นยำชัดเจน วัดได้ว่าผู้มาสัมภาษณ์มีความสามารถในการอยู่ร่วมกันในสังคมหรือปรับตัวกับวัฒนธรรมองค์กรได้ดีแค่ไหน ที่สำคัญที่สุดคือทุกคนจะต้องเรียนรู้ในการตั้งคำถามให้เป็น เพื่อที่จะได้คำตอบที่ถูกต้องกลับมา”
นอกเหนือจากการฝึกอบรมเพื่อคัดกรองคนแล้ว นายธนินทร์ ให้ข้อมูลเสริมว่า บริษัทฯ ยังใช้เครื่องมือรอบด้านในการสรรหารับสมัครบุคลากรเข้าทำงาน ไม่ว่าจะเป็นจากเครื่องมือภายในองค์กร อาทิ ช่องทางเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย เครื่องมือ Headhunter จากองค์กรภายนอก รวมถึงการนำจุดแข็งการเป็นองค์กรรัฐและมีการถือหุ้นโดยบริษัทเอกชน ในการนำเครือข่ายข้อมูลของบุคลากรที่มีความสามารถมาเป็นอีกตัวเลือกเพื่อจัดสรรพนักงานเข้าทำงาน ขณะเดียวกัน เคหะสุขประชายังได้สร้างมาตรฐานความโปร่งใส ด้วยรูปแบบการ สรรหาที่มุ่งเน้นความรู้ความสามารถและคุณสมบัติที่เหมาะสม โดยไม่คำนึงถึงเส้นสาย ไม่มีการแบ่งเพศสภาพ อายุ ประสบการณ์ หรือปริญญาบัตร เพื่อผลักดันให้บริษัทฯ เป็นองค์กรที่เปิดกว้างสำหรับคนทุกคน ในการร่วมกันสร้างประโยชน์กับสังคมตามนโยบายที่วางไว้
ทั้งนี้ ด้วยมาตรฐานการสรรหาโดยคำนึงถึงความสามารถเป็นหลัก อีกมุมหนึ่งทำให้บริษัทฯ ต้องรับมือกับความท้าทายในการทำงานร่วมกันของคนต่างเพศและต่างวัย การทำงานภายในจึงมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับระดับผู้นำผ่านคุณสมบัติผู้นำที่องค์กรกำหนดไว้ 5 ข้อ ประกอบด้วย ดีให้นำ ผู้นำต้องนำในเรื่องที่ดี, ทำให้ดู ลงมือทำให้ผู้ตามดูโดยไม่เอาแต่ชี้นิ้วสั่ง, อยู่ให้เห็น อยู่ทำไปพร้อมกันโดยไม่ทิ้งงาน, สอนให้เป็น รู้จักสื่อสารถ่ายทอดให้ผู้ตามทำงานเก่งขึ้น และ เย็นที่ใจ คือใจเย็นมีวุฒิภาวะในการทำงาน ซึ่งทั้ง 5 ข้อนี้คือศิลปะที่เคหะสุขประชาคาดหวังให้ระดับผู้นำพึงมี เพื่อสร้างวัฒนธรรมที่เข้มแข็งให้กับองค์กร
ธนินทร์ เสริมอีกว่า บริษัทฯ ได้สร้างการแข่งขันภายในบนพื้นฐานของการทำงานเป็นทีม เพื่อผลักดันการสร้างผลงานที่ดีนำสู่การขับเคลื่อนองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป้าหมายนี้สอดคล้องกับนโยบายกำหนดค่าตอบแทน โดยบริษัทฯ จะยึดหลักจุดสมดุล 2 ด้าน คือ Benchmark โดยพิจารณาให้ค่าตอบแทนตามความเหมาะสมของตลาด ส่วนอีกด้านคือนโยบาย Performance Base ให้ความสำคัญกับผลงาน KPI หรือการสร้างคุณค่าและคุณประโยชน์กับบริษัทอย่างเป็นรูปธรรม “จุดสมดุลทั้ง 2 ด้านคือปัจจัยหลักที่นิยามได้ง่าย ๆ ว่า ใครทำมาก ใครทำดี ก็มีโอกาสเติบโตในสายอาชีพมากกว่า ทั้งในเรื่องบทบาท ตำแหน่ง รวมถึงด้านค่าตอบแทน”
นอกจากนี้ ประธานคณะกรรมการฯ ยังได้กล่าวเพิ่มถึงปณิธานที่ตกลงร่วมกันในเคหะสุขประชา เพื่อสร้างการเติบโตและความสำเร็จร่วมกันในองค์กร ซึ่งประกอบด้วย 3 เครื่องชี้นำหลักคือ
- อาหาร คือองค์กรต้องมีอาหารหรือก็คือผลตอบแทนที่อุดมสมบูรณ์ และรวมถึงชีวิตความเป็นอยู่ ความรักใคร่ ความเมตตา เพื่อทำให้พนักงานรู้สึกอิ่มท้องอิ่มอกอิ่มใจในการทำงาน พร้อมมีรายได้เพื่อสร้างชีวิตความเป็นอยู่ของตัวเองและครอบครัวให้ดีขึ้นตามความเหมาะสม
- ปัญญา คือองค์กรต้องสร้างพัฒนาการกับพนักงาน เป็นแหล่งที่อุดมด้วยความรู้ใหม่ ๆ จากข่าวสาร เทคโนโลยี นวัตกรรม และความรู้ในการดำรงชีวิต เพื่อให้พนักงานรู้สึกเติบโตขึ้นในทุก ๆ วัน รวมถึงในระดับผู้นำเองต้องสามารถถ่ายทอดความรู้หรือปัญญาที่ดี ไปสู่ทีมได้ในทุกระดับชั้น
- คนมีคุณค่า คือองค์กรต้องเชิดชูคนดี ชมในที่แจ้ง ติและตำหนิในที่ลับ พนักงานที่ทำดีจะต้องได้รับคำชมเชย ต้องมีคนเห็นคุณค่าในตัวอย่างถูกต้อง เหมาะสม และทันต่อเวลาเป็นปัจจุบัน
“นโยบายสรรหาหรือค่าตอบแทน โดยหลักแล้วคือการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ฉะนั้นแล้วก่อนอื่นเราต้องติดกระดุมเม็ดแรกให้ถูก นั่นคือเรื่องการรับสมัครคนที่ใช่ กระดุมเม็ดที่สอง คือการปกครองดูแลและรักษาพนักงานให้อยู่กับองค์กรอย่างมีความสุข จากนั้นก็จะเข้าสู่สมการ ง่าย ๆ คือ ‘ความสุขเท่ากับประสิทธิภาพ’
ปัจจุบัน เคหะสุขประชา มีพนักงานกว่า 100 คน โดยมีโครงการบ้านเช่าพร้อมอาชีพบริหารจัดการอยู่ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เช่น ร่มเกล้า, ฉลองกรุง ทั้งยังมีการมุ่งเป้าขยายโครงการไปยังพื้นที่จังหวัดอื่นอย่างต่อเนื่องตามนโยบายสร้างบ้าน 1 แสนหลังในระยะเวลา 5 ปี ทำให้บริษัทฯ ได้จัดวางนโยบายสรรหาครอบคลุมถึงการรับสมัครพนักงานใน Local Area เพื่อจุดประสงค์ของการกระจายรายได้และสร้างการพัฒนาในส่วนท้องถิ่น ทั้งยังเปิดโอกาสสำหรับการโยกย้ายเปลี่ยนพื้นที่ไปทำงานต่างจังหวัดตามแต่ความสมัครใจของพนักงาน รวมถึงขึ้นอยู่กับการเจรจาและทำข้อตกลงเป็นหลัก โดยไม่มีการออกคำสั่งภาคบังคับใด ๆ