บริษัท บางกอกกล๊าส จำกัด (มหาชน) หรือ บีจี (BG) หนึ่งในองค์กรรายใหญ่ของไทย และเป็นที่รู้จักในฐานะผู้นำด้านธุรกิจบรรจุภัณฑ์ครบวงจร พลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียน วัสดุก่อสร้าง กีฬา และอื่นๆ ประกาศความร่วมมือกับ เอสเอพี ประเทศไทย และ ABeam Consulting Thailand บริษัทที่ปรึกษาด้านธุรกิจและการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน (Digital Transformation) ชั้นนำระดับโลก ในการนำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาใช้ในการเร่งเดินหน้าพลิกโฉมองค์กรครั้งใหญ่ ความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นอีกก้าวของความสำเร็จของ BG และ เอสเอพี ในฐานะพาร์ทเนอร์ที่ทำงานร่วมกันมาเป็นระยะเวลานาน โครงการของ BG ถือเป็นโครงการสำหรับการทรานส์ฟอร์มองค์กรที่ใหญ่ที่สุดโครงการหนึ่งของประเทศไทยที่ได้ใช้ซอฟต์แวร์ ERP ของ เอสเอพี ผ่านบริการ ‘RISE with SAP’ ซึ่งออกแบบมาเพื่อขับเคลื่อนให้องค์กรเติบโตและสนับสนุนลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
จากการขยายความร่วมมือในครั้งนี้BG พร้อมแล้วที่จะย้ายไปใช้งาน SAP S/4HANA ซอฟต์แวร์ ERP ทันสมัยที่สุดของเอสเอพี เพื่อบริหารจัดการทรัพยากรองค์กร ซึ่ง BG เลือกใช้ SAP S/4HANA private cloud edition บนคลาวด์ของ Microsoft Azure ซึ่งเป็นโซลูชันหลักที่รวมอยู่ในบริการของ RISE with SAP โดยมี ABeam Consulting Thailand เป็นพาร์ทเนอร์ที่ช่วยในการวางระบบใหม่ทั้งหมด ‘RISE with SAP’ มีบริการต่าง ๆ แบ่งย่อยเป็นโมดูลตามความต้องการของแต่ละธุรกิจเพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมให้องค์กร ช่วยให้องค์กรสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมสำหรับธุรกิจที่สำคัญ อาทิ การเงิน การจัดหา คลังสินค้า ห่วงโซ่อุปทาน และการผลิต พร้อมรวบรวมสิ่งที่ธุรกิจต้องการไว้ในที่เดียว เพื่อช่วยให้องค์กรบรรลุวัตถุประสงค์ในการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันพุ่งทะยานสู่การเป็นองค์กรดิจิทัลได้รวดเร็ว ครอบคลุม และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
เดินหน้าสู่การเป็น Data-Driven Company ด้วยพลังคลาวด์
จากแผนการพลิกโฉมองค์กร BG มีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำของอุตสาหกรรมในการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างเครือข่ายธุรกิจอัจฉริยะ (Intelligent Business Network) กับลูกค้า ซัพพลายเออร์ และพันธมิตร ทำให้เทคโนโลยีและนวัตกรรมกลายเป็นส่วนสำคัญในดีเอ็นเอของ BG ด้วยโซลูชันของ เอสเอพี สามารถทำให้กระบวนการทำงานขององค์กรมีความเป็นดิจิทัลและเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เตรียมพร้อมต่อการเติบโตแบบก้าวกระโดดของธุรกิจในอนาคต
ศิลปรัตน์ วัฒนเกษตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) บริษัทในเครือของ BG เผยว่า เพื่อรองรับการเติบโตอย่างรวดเร็วขององค์กรและตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าในตลาดที่มีการแข่งขันสูงและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว BG จึงได้ตัดสินใจลงทุนในเทคโนโลยีที่ช่วยให้มีความยืดหยุ่น และพร้อมต่อการขยายขนาดเพื่อรองรับการเติบโต รวมถึงการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัย อาทิ Cloud, Big Data, AI และ Machine Learning มาปรับใช้ในองค์กร “เราตั้งเป้าที่จะเดินหน้าสู่การเป็น Data-Driven Company ขับเคลื่อนโดยโรงงานอัจฉริยะ(Smart factories) ที่ทำงานเชื่อมต่อกัน เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ ซึ่งเราเล็งเห็นถึงความจำเป็นในการใช้เทคโนโลยีที่สามารถประมวลผลเชิงวิเคราะห์ได้อย่างมีประสิทธิภาพบนคลาวด์”
BG เชื่อว่าฐานข้อมูลที่ทันสมัยและระบบ ERP ที่มีประสิทธิภาพบนคลาวด์นั้นเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนโรงงานอัจฉริยะ และ BG ได้เลือกใช้บริการ ‘RISE with SAP’ โดยใช้ระบบ Cloud ERP เป็น Digital Core ในการจัดการทรัพยากรองค์กร แทนที่ SAP S/4HANA โดย BG หันมาใช้คลาวด์โซลูชันแทนเนื่องจากสามารถรองรับการทำงานขององค์กรที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและรองรับความต้องการทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในอนาคต
เมื่อเครื่องจักร บุคลากร และข้อมูลขนาดใหญ่ ในองค์กรทำงานเชื่อมต่อกันแบบดิจิทัลเป็นระบบนิเวศเดียวกันภายใต้ SAP S/4HANA private cloud edition บนคลาวด์ของ Microsoft Azure ผ่านบริการของ เอสเอพี BG ตั้งเป้านำชุดข้อมูลต่างๆ มาใช้เพื่อคาดการณ์เทรนด์และเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นเพื่อสร้างเวิร์กโฟลว์ของการผลิตที่มีความชาญฉลาดและทำงานได้อัตโนมัติ “เป้าหมายของเราคือการสร้างประสิทธิภาพ ความคล่องตัว และนวัตกรรม ซึ่งท้ายที่สุดแล้วจะทำให้เราให้บริการลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นและผลักดันให้องค์กรเติบโตได้อย่างยั่งยืน” นายศิลปรัตน์ กล่าวเสริม
การย้ายระบบ ERP Cloud มาที่ Microsoft Azure ของ BG ยังสะท้อนความร่วมมือระหว่าง เอสเอพี และผู้ให้บริการคลาวด์ระดับ Hyperscaler ที่ต่างทำงานร่วมกันเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของลูกค้า โดย เอสเอพี และไมโครซอฟท์ ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับ BG ในการใช้งานระบบดิจิทัลขององค์กรบนคลาวด์ ตลอดจนช่วยให้ BG สามารถออกแบบและจัดการระบบดิจิทัลซัพพลายเชนอัจฉริยะ เข้าถึงโซลูชัน Industry 4.0 ในระบบคลาวด์และใช้หน่วยประมวลผลบนคลาวด์ที่อยู่ใกล้กับต้นทางข้อมูลมากที่สุด เพื่อลดเวลาในการเข้าถึงข้อมูล
เอทูล ทูลิ กรรมการผู้จัดการ เอสเอพี อินโดไชน่า กล่าวว่า “การขยายความร่วมมือในการพัฒนาองค์กรให้มีความทันสมัยภายใต้โครงการนี้จะช่วยให้ BG สามารถพลิกโฉมธุรกิจและขับเคลื่อนการเติบโตในอนาคต เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นพันธมิตรกับ BG เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถทรานส์ฟอร์มธุรกิจได้อย่างรวดเร็วและได้รับประโยชน์จากการใช้บริการ ‘RISE with SAP’ อย่างเต็มที่เพื่อช่วยลดความซับซ้อนในการจัดการธุรกิจและช่วยให้ BG สามารถสนับสนุนลูกค้าได้เต็มประสิทธิภาพ”
การขยายความร่วมมือเชิงกลยุทธ์
การทำ Digital Transformation ให้ประสบความสำเร็จไม่ใช่แค่การนำโซลูชันไปใช้เท่านั้น แต่จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างองค์กรด้วยเช่นกัน ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ภายใต้โครงการนี้จะสามารถช่วยให้ BG มีความก้าวหน้าทางธุรกิจไปสู่อีกระดับ ABeam Consulting Thailand และเอสเอพี ทำงานร่วมกันมาเป็นเวลา 18 ปี รวมถึง ABeam Consulting เป็นองค์กรแรกที่เข้าร่วมโครงการ Regional Strategic Services Partner (RSSP) ของเอสเอพี ความร่วมมือที่แข็งแกร่งนี้ทำให้ทั้งคู่สามารถรองรับความต้องการของธุรกิจได้เป็นอย่างดี พร้อมช่วยขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จของ BG ในปัจจุบันและอนาคตได้
อิชิโระ ฮาระ Managing Director and SEA Leader ของ ABeam Consulting Thailand กล่าวว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเลือกจาก BG ให้เป็นพันธมิตรในการดำเนินงาน ด้วยประสบการณ์อันยาวนานของเราในด้านนี้ รวมถึงการได้รับการยืนยันว่าเป็นองค์กรที่ได้รับ SAP certificates มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งในประเทศไทย เราจึงมีความพร้อมที่จะช่วยให้ BG ประสบความสำเร็จในเส้นทางการเปลี่ยนแปลงสู่การเป็นองค์กรดิจิทัลผ่านการใช้บริการ ‘RISE with SAP’ บนคลาวด์ โดยทีมงานของเราจะทำงานโดยคำนึงถึงประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับเป็นหลักและมุ่งมั่นที่จะสร้างความสำเร็จให้แก่ลูกค้าในฐานะ ‘Real Partner’ เพื่อ ‘Build Beyond As One’ ร่วมก้าวไปด้วยกันกับ BG ตลอดจนมอบความเชี่ยวชาญที่เรามีในการติดตั้งระบบของเอสเอพี การให้คำแนะนำเชิงกลยุทธ์ และการสนับสนุนด้านการปฏิบัติงาน เพื่อให้แน่ใจว่า BG จะบรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายและคุ้มค่าต่อการลงทุน”
สำหรับโครงการ Digital Transformation ครั้งนี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน กรกฎาคม 2566 นี้