แม้จะอยู่ในสถานะผู้พิการ ที่ร่างกายอาจจะไม่ได้สมบูรณ์เฉกเช่นคนอื่นทั่วไป แต่ความพิการนี้ไม่ได้เป็นอุปสรรอันใหญ่หลวงต่อการดำเนินชีวิต ขอเพียงได้รับโอกาสจากสังคม ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในการสร้างงานสร้างอาชีพ เขาเหล่านี้ก็จะมีกำลังใจและรู้สึกถึงคุณค่าในตนเองมากขึ้น
หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เห็นความสำคัญของการสร้างโอกาสให้กับผู้พิการให้มีช่องทางประกอบอาชีพ และหนึ่งในนั้นคือ “โครงการจากการจ่ายสู่การจ้างผู้พิการตามมาตรา 35” โดยกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนได้อนุเคราะห์ผู้พิการในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งการสนับสนุนเป็นจำนวนเงินและการสร้างอาชีพ ซึ่งมีผู้พิการทั่วประเทศจำนวนมากได้รับโอกาสจากโครงการนี้ ทำให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
“ประสพ ด้วงป้อ” อายุ 45 ปี ไม่ได้พิการแต่กำเนิด แต่เกิดจากอุบัติเหตุตกเขาจนทำให้เส้นประสาทไขสันหลังขาด และต่อมาได้เข้าร่วมโครงการดังกล่าว และได้รับโอกาสจาก บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ให้เข้าทำงานที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านจันทร์ จ.เชียงใหม่ ได้กล่าวเปิดใจถึงความรู้สึกว่า “ได้รับโอกาสที่ดีจาก บริษัทไลอ้อนฯ ให้เข้าทำงานที่ รพ.สต.บ้านจันทร์ ทำให้ตนเองมีเงินเดือนนำมาเลี้ยงชีพ นอกจากนี้ ยังต่อยอดด้วยการนำสินค้าจากบริษัทฯ มาจำหน่าย ซึ่งทำให้มีรายได้งอกเงยเพิ่มขึ้น เงินที่ได้มานั้น จะนำมาใช้จ่าย ซื้ออาหาร ซื้อสิ่งของจำเป็น ซื้อชุดนักเรียนให้ลูก รวมทั้งแบ่งส่วนเก็บออมไว้สำหรับเป็นทุนการศึกษาให้ลูก และบางส่วนก็นำไปแบ่งปันช่วยเหลือผู้พิการคนอื่นๆ อีกด้วย”
“พรรณพร ทรัพย์เจริญยิ่ง” อายุ 55 ปี ผู้พิการตั้งแต่กำเนิด เท้าแปทั้งสองข้าง ได้เข้าร่วมโครงการฯ โดยเป็นเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดที่ รพ.สต.แม่ละอุป จ.เชียงใหม่ กล่าวถึงความรู้สึกว่า“รู้สึกดีใจและขอบคุณ บริษัท ไลอ้อนฯ รวมทั้งทุกหน่วยงานที่ให้การช่วยเหลือ ทำให้มีโอกาสในการประกอบอาชีพ ตนเองนั้นตั้งใจทำงานเต็มที่ งานที่เป็นหน้าที่ของผู้ชายเราก็ทำได้ ซึ่งค่าตอบแทนที่ได้รับจะนำมาดูแลตนเองและครอบครัว และใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น ค่าอาหาร ค่ารักษาพยาบาล”
“นิตยา แดนมะลิดอย” อายุ 26 ปี ผู้พิการทางสมอง และป่วยด้วยโรคภูมิแพ้รุนแรง การรักษาด้วยสเตียรอยด์ ทำให้ใบหน้าบวม กล่าวเปิดใจว่า “ได้เข้าร่วมโครงการฯ ได้เข้ามาทำงานที่โรงเรียนสามัคคีสันม่วง จ.เชียงใหม่ ทำให้ตนเองมีรายได้นำมาไว้ใช้จ่ายในการรักษาร่างกายที่ป่วย เนื่องจากหมอนัดตรวจติดตามอาการทุกเดือน อีกส่วนหนึ่งก็นำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน นำมาปรับปรุงบ้านที่อาศัย และนำมาซื้อด้ายให้แม่มาทอเป็นเสื้อกะเหรี่ยงให้ครอบครัวได้สวมใส่อีกด้วย”
เป็นความรู้สึกจากใจของผู้พิการส่วนหนึ่งที่ได้รับโอกาสจาก บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อคนไทย ใน“โครงการจากการจ่าย สู่การจ้างผู้พิการตามมาตรา 35” ซึ่งบริษัทฯได้มีการลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อเยี่ยมเยียน และติดตามชีวิตความเป็นอยู่ของผู้พิการที่เข้าร่วมโครงการฯ
“โครงการจากการจ่ายสู่การจ้างผู้พิการตามมาตรา 35” เป็นโครงการที่ตอบสนองนโยบายภาครัฐ มีเป้าหมายในการมุ่งสร้างโอกาสให้กับผู้พิการทั่วประเทศให้มีอาชีพและมีรายได้ เพื่อนำมาเลี้ยงตนเองและครอบครัว นับเป็นอีกภารกิจหนึ่งที่ช่วยเหลือสังคม ซึ่งบริษัทไลอ้อนฯ ให้ความสำคัญและดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินธุรกิจของไลอ้อน ในการนำความดีสู่สังคม และพัฒนาสินค้าเพื่อสุขภาวะที่ดีของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง เป็นคำมั่นสัญญาการดำเนินธุรกิจ เพื่อสุขภาวะที่ดีของพนักงาน ผู้บริโภค สังคม และสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน เพื่อประโยชน์สุขของทุกภาคส่วน เป็นสุขอย่างยั่งยืน ภายใต้ปณิธานไลอ้อนองค์กรคนดี ยังมีผู้พิการอีกจำนวนมากที่ยังขาดโอกาส คงจะดีไม่น้อย หากเขาเหล่านี้ได้รับโอกาสที่ดี และได้รับการช่วยเหลือ น้ำใจเล็ก ๆ ที่หยิบยื่นให้กัน เป็นพลังอันยิ่งใหญ่ที่จะทำให้สังคมของเราน่าอยู่มากขึ้นไม่น้อย